พรีวิว พรีเมียร์ลีก : “ปอนด์ต่อปอนด์เกมรุกใครจะแน่กว่ากัน” วัตฟอร์ด VS เลสเตอร์ ซิตี้ … by “Jinius”
พรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2018/19
วัตฟอร์ด – เลสเตอร์ ซิตี้
รายการ : พรีเมียร์ลีก 2018/19
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2018 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม : วิคาเรจ โร้ด
ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1 & TrueID App
เรียกได้ว่าเป็นลีกฟุตบอลโลกที่เต็มไปด้วยความสนุก สุดมันส์ และเร้าใจแบบสุดๆ สมกับที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย อย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018/2019 ท่ามกลางการขับเคี่ยวของ 20 ทีมชั้นนำแห่งเกาะอังกฤษ ตลอด 38 แมตช์ที่อัดแน่นจุใจทั้งฤดูกาล มั่นใจได้เลยว่า พรีเมียร์ลีก ยังคงตอบโจทย์คอลูกหนังไม่เปลี่ยน
แน่นอน สำหรับแฟนบอลไทยที่ไม่อยากตกเทรนด์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ TrueID Sports จัดเต็มให้กับการอัพเดตทุกแง่มุมทั้งข่าวสารอัพเดตแบบเรียลไทม์ คลิปไฮไลท์ รวมถึงช่องทางติดตามชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบสดๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยความคมชัดระดับ HD และถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ sport.trueid.net/premierleague
เกมคู่นี้ลงแข่งขันกันวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2018 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง beIN SPORTS 1 & TrueID App
สภาพความพร้อม วัตฟอร์ด
ทางฝั่งเจ้าบ้านอาจจะได้ตัว กิโก้ เฟเมเนีย และ มิเกล บริตอส หวนคืนสู่ทีมอีกครั้งหลังคาดว่าแข้งทั้ง 2 รายนี้หายทันกลับมาพอดิบพอดี ทว่าไม่สามารถการันตีได้ว่าการกลับมาในครั้งนี้จะทำให้ทั้งคู่ในลงประเดิมสนามในทันที
จึงคาดว่าเกมการแข่งในวันอาทิตย์นี้ ฆาบี้ กราเซีย จะยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิม และแผนเดิมตามที่เขาถนัดอีกครั้ง นำทัพโดย 2 หัวหอกอย่าง ทรอย ดีนีย์ และเคราร์ด เดลโลเฟว ตามมาติดๆ ด้วยคู่หูเพลย์เมคเกอร์ โรแบร์โต้ เปไรร่า และวิลล์ ฮิวจ์ คอยช่วยทำเกม และสนับสนุนในเกมรุก แดนกลางปล่อยให้มดงานจอมขยันอย่าง อับดุลลาย ดูกูเร่ คอยไล่วิ่งกวดคู่ต่อสู้จับคู่กับมิดฟิลด์มากประสบการณ์ เอเตียน กาปู
ทั้งนี้หน้าที่ป้องกันหลังบ้านยกให้เป็นหน้าที่ของแผงหลังทั้ง 4 อย่าง อดัม มาซิน่า, เคร้ก แคทคาร์ธ, เอเดรียน มาเรียบป้า, ดาริล ยานมัต และมอบตำแหน่งปราการด่านสุดท้ายให้กับ เบน ฟอสเตอร์ เป็นผู้เฝ้าเสา
สภาพความพร้อม เลสเตอร์ ซิตี้
สำหรับทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ในวันนี้จะไม่มี มาร์ค อัลไบรท์ตัน อยู่ช่วยทีมเนื่องจากยังคงมีอาการบาดเจ็บแฮมสตริง แต่ยังมีข่าวดีที่จิ้งจอกสยามอาจจะได้ แดเนียล อามาร์ตี้ย์ กลับมาร่วมทัพอีกครั้งหลังเข้ารักษาบาดเจ็บมาอย่างยาวนานตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว
จึงทำให้เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กับการเข้ามาคุมจิ้งจอกสยามในนัดแรกคาดว่าเจ้าตัวจะยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่เคยลงเล่นจากนัดที่ผ่านๆ มาเพื่อเป็นการลองทีม เริ่มจากศูนย์หน้าตัวเก่งของทีมอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ ขันอาสาระเบิดประตูคู่แข่งที่มาพร้อมกับ 3 แนวรุกอย่าง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, เจมส์ แม็ดดิสัน และเดมาราย เกรย์ โดยมี ยูริ ติเลอม็องส์ และวิลฟรีด เอ็นดีดี้ คอยคุมสถานการณ์ในแดนกลางสนาม มอบหน้าที่ขันเกมรับให้แน่นด้วย 4 ปราการหลังอย่าง เบน ชิลเวลล์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอนนี่ อีแวนส์ ,ริคาร์โด้ เปเรยร่า และปล่อยให้ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล จอมหนึบลูกตำนานรับสัมปทานในการลงเฝ้าเสา
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
วัตฟอร์ด : เบน ฟอสเตอร์, อดัม มาซิน่า, เคร้ก แคทคาร์ธ, เอดรียน มาเรียบป้า, ดาริล ยานมัต, เอเตียน กาปู, อับดุลลาย ดูกูเร่, โรแบร์โต้ เปไรร่า, วิลล์ ฮิวจ์, ทรอย ดีนีย์, เคราร์ด เดลโลเฟว
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, เบน ชิลเวลล์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอนนี่ อีแวนส์, ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ยูริ ติเลอม็องส์, วิลฟรีด เอ็นดีดี้, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, เจมส์ แม็ดดิสัน, เดมาราย เกรย์, เจมี่ วาร์ดี้
บทวิเคราะห์
ความปราชัยของ วัตฟอร์ด ต่อ ลิเวอร์พูล 0-5 อาจทำให้ความมั่นใจของพวกเขาลดลงพอสมควร เนื่องจาก “แตนอาละวาด” เป็นทีมที่เน้นเกมบุกเป็นหลัก และมักเบิกสกอร์คู่แข่งได้บ่อยครั้ง ทว่าด้วยรูปเกมที่บุกจนลืมกันหลังบ้านนี้เองจึงเป็นผลเสียที่ย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาเฉกเช่นในเกมที่บุกไปพ่ายแพ้ “หงส์แดง” แบบหมดรูปเห็นได้ชัดว่าหากแตนตัวนี้อาละวาดไม่ออกเมื่อไหร่ พิษสงของก็มันก็จะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งการจัดทัพของ ฆาบี้ กราเซีย ที่เหมือนกับว่าเมื่อเขาค้นพบ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กุนซือชาวสเปนรายนี้จะไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนการเล่น หรือตัวผู้เล่นเลยในศึกพรีเมียร์ลีกเลย จุดนี้จึงอาจเป็นจุดที่คู่แข่งนำมาใช้โจมตีเขาจนสิ้นท่าก็เป็นได้
จิ้งจอกสยามไม่รอช้าที่จะปลด โคล้ด ปูแอล ทันที เซ่นผลงานห่วยหลังทัพจิ้งจอก ปราชัยต่อ คริสตัล พาเลซ ถึง 1-4 นั่นถือเป็นฟางเส้นสุดท้าย และได้แต่งตั้งอดีตกุนซือหงส์แดงอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ขึ้นมาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ทันที ต้องชื่นชมทางทีมงานของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เฟ้นหาผู้อาสาดึงผลงานของพวกเขาให้กลับขึ้นมาจากหลุมอีกครั้งได้อย่างทันควัน และถือเป็นอีกหนึ่งกุนซือที่มากประสบการณ์ในการคุมสโมสรจากยุโรปอีกด้วย
โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจจากผลงานการคุม ลิเวอร์พูล และกลาสโกว์ เซลติก ของกุนซือผู้หวนคืนสู่สังเวียนพรีเมียร์ลีกรายนี้คือ เขามักจะเน้นการเปิดเกมรุกเข้าใส่คู่ต่อสู้โดยใช้แผนการเล่นที่เขาถนัดที่สุดอย่าง 4-2-3-1 ทำให้เราแน่ใจได้ว่า ร็อดเจอร์ส จะนำขุมกำลังที่มีอยู่ในมือมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับแผนเก่งของเขาได้อย่างไม่ยากเย็น
อย่างไรก็ดีคำกล่าวที่ว่า “เปิดก่อนได้เปรียบ” ใช้ไม่ได้กับชายผู้มีนามว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพราะเขามีสถิตินำทัพสโมสรพรีเมียร์ลีกเปิดหัวได้อย่างน่าผิดหวัง ไม่เคยคว้าชัยจากเกมในนัดแรกได้เลยตลอด 4 ทีมที่เคยคุมก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็น วัตฟอร์ด, เร้ดดิ้ง, สวอนซี หรือ ลิเวอร์พูล ทว่าหัวหอกของจิ้งจอกสยามอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ เป็นผู้ที่สามารถทำประตูในนัดแรกให้กับโค้ชของ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ทุกคนไล่มาตั้งแต่ เคลาดิโอ รานิเอรี่, เคร็ก เช็คสเปียร์, โคล้ด ปูแอล หรือแม้กระทั่ง ไมค์ สโตเวลล์ ที่เข้ามารักษาการณ์แทนเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น
เมื่อวัดกันแบบปอนด์ต่อปอนด์สถิติที่เจอกัน 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการผลปรากฏว่า หากคู่นี้พบกันเมื่อไหร่เจ้าบ้านมักจะเป็นฝ่ายเก็บชัยได้เสมอจึงทำให้เชื่อได้ว่า การแข่งขันในวันนี้รูปเกมจะมีการโถมบุกเข้าใส่กันอย่างสนุกสนานตามสไตล์การเล่นของทั้ง 2 ทีม ทว่าการแหย่รังแตนถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมิหนำซ้ำจะถูกต่อยกลับมาเสียด้วยซ้ำทำให้เชื่อว่าเกมนี้เป็นฝั่ง ”แตนอาละวาด” ที่ยังสามารถป้องกันรังของตนเองไว้ได้ และเป็นฝ่ายคว้า 3 คะแนนไป
สกอร์ที่คาด
วัตฟอร์ด 2-1 เลสเตอร์ ซิตี้
“Jinius”
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports