รีเซต
TRUE TALK : ไม่เสียใจเลยที่ต้องแพ้ให้ทีมระดับโลก ... by "Simple_Ja"

TRUE TALK : ไม่เสียใจเลยที่ต้องแพ้ให้ทีมระดับโลก ... by "Simple_Ja"

TRUE TALK : ไม่เสียใจเลยที่ต้องแพ้ให้ทีมระดับโลก ... by "Simple_Ja"
kentnitipong
27 มีนาคม 2562 ( 12:32 )
198

ในทุกห้วงอารมณ์ของความผิดหวัง เรามักแสดงมันออกมาด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน

บางคนเลือกที่จะนิ่งหรือไม่สนใจสิ่งรอบตัว
บางบางคนเลือกที่จะร้องไห้เพื่อปลดปล่อยความเสียใจออกมา…

แต่สำหรับคนบางกลุ่ม พวกเขาเลือกที่จะแสดงออกมาด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความยินดี แม้ผลลัพธ์ที่ออกมาจะตรงกันข้ามในทุกความรู้สึกก็ตาม

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 วันก่อน ทีมชาติไทย เพิ่งจะสร้างเซอร์ไพรส์กลางนครหนานหนิง เมื่อสามารถหักปากกาเซียนด้วยการบุกไปคว่ำทีมเจ้าภาพอย่าง จีน ได้ถึงถิ่น 1-0 ด้วยวิธีการเข้าทำที่ชัดเจนพร้อมๆ กับการเล่นเกมรับอย่างเยือกเย็น

ขณะที่เรากำลังหลงระเริงอยู่กับชัยชนะดังกล่าวได้ไม่นาน กระดูกชิ้นโตที่สุดในรายการนี้อย่าง อุรุกวัย ก็ได้เวียนมาเพื่อทดสอบหัวใจเหล่าขุนพลแห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง…

แต่แทนที่ทัพ “ช้างศึก” จะท้อถอยหรือหมดกำลังใจ พวกเขากลับมองเป็นโอกาสดีมากกว่าที่จะได้เจอกับทีมอันดับ 7 ของโลก ซึ่งเห็นได้จากการที่ ธีราธร บุญมาทัน แบ็กซ้ายกัปตันทีมออกมาเปิดเผยว่ารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้เจอทีมระดับนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่ง ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือใหญ่ของทีมก็ยังออกมายอมรับว่า อุรุกวัย เป็นทีมที่มีทุกอย่างเหนือกว่า แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ทีมชาติไทย ทำใจไว้แล้วก่อนการแข่งขันนัดนี้

เมื่อเกมการแข่งขันเริ่ม ทั้งสองฝ่ายต่างจัดผู้เล่นชุดที่สมบูรณ์ที่สุดของตัวเองลงสนาม ออสการ์ ตาบาเรซ กุนซือของ อุรุกวัย ทำการบ้านมาอย่างดี พวกเขารู้ว่าทีมชาติไทยจะมาในระบบ 3-5-2 ที่จะช่วยกันยืนแพ็คในแดนกลาง แต่พื้นที่ตรงนี้ยังมีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่งคือ ผู้เล่นที่ประจำแต่ละตำแหน่งนั้นจะไม่มีคู่ประกบของตัวเอง เมื่อผู้เล่นของอุรุกวัยถึงบอล ก็สามารถสร้างความอันตรายได้ทุกวินาที นั่นจึงเป็นที่มาของประตูแรกที่ มาธิอัส เวซิโน่ ได้โอกาสขึ้นโหม่งโดยไม่มีใครเข้ามาขัดขวางเลย

แถมในเกมนี้ทัพ “จอมโหด” เน้นขึ้นเกมจากริมเส้นเป็นหลัก โดยมีวิงแบ็กสองข้างคอยสนับสนุน เราจึงเห็นทั้ง นาฮิตัน นานเดซ และ นิโคลัส โลเดโร่ พาบอลไปเปิดจากเส้นหลังกันอย่างสนุกสนาน

เมื่อทีมชาติไทยไม่มีการประกบตัว บวกกับปล่อยให้ปีกของคู่แข่งมีพื้นที่ ลูกแท็ปอินของ แกสตัน เปเรโร่ ก็เพียงพอที่จะทำให้ อุรุกวัย ปิดเกมตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก

รูปเกมจากช่วงพักครึ่งก็ไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไร เพราะ “โค้ชโต่ย” เองเลือกที่จะยึดผู้เล่นชุดเดิมไว้ก่อน ต่างจากฝั่ง อุรุกวัย ที่ชิงเปลี่ยนตัวหวังทดสอบผู้เล่นหน้าใหม่ตั้งแต่ต้น และก็อย่างที่ทราบกัน ทัพ “จอมโหด” ทำเพิ่มอีก 2 ประตูด้วยรูปแบบการเข้าทำที่ไม่ต่างจากเดิมพร้อมกับคว้าแชมป์ในรายการนี้ไปอย่างง่ายดาย

โอเค เราอาจจะแพ้ด้วยสรีระร่างกายที่ต่างกัน แพ้ด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่ห่างชั้น รวมทั้งความยืดหยุ่นในวิธีการเล่น แต่สิ่งหนึ่งที่ทำได้ดีจนทำให้ อุรุกวัย ต้องมาขึ้นทางริมเส้นนั่นคือ “แดนกลาง” ตาบาเรซ ตระหนักได้ว่าผู้เล่นหลายคนของทีมชาติไทยเล่นด้วยกันมานาน มีความเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดี ถ้าทุกคนช่วยกันเล่นแล้วหล่ะก็ จะไม่มีใครเอาชนะได้แน่ ซึ่งมันทำให้รู้ว่ากองกลางเราก็มีดีอยู่เหมือนกัน

สิ่งสำคัญต่อจากนี้คือ การนำเอาสิ่งที่เรามี จุดแข็งที่ติดอยู่ในตัวเราไปประยุกต์ใช้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อาจจะเป็นการเลือกโค้ชที่มากความสามารถ หรือมีแทคติกเหมาะสมเข้ามาคุมทีมรึเปล่า เพื่อเฟ้นเอาศักยภาพที่มีอยู่ออกมาให้มากที่สุด อย่างน้อย ไทย ยุคใหม่ก็ต้องทวงบัลลังก์จ้าวอาเซียนกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นการบ้านของทางสมาคมฯ ที่ต้องเร่งนำไปพิจารณา

อย่างน้อยก็อยากคาดหวังว่า คนที่เข้ามา จะช่วยให้นักเตะไทยเล่นฟุตบอลในแบบถนัดของตัวเอง ลงสนามด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และมีแฟนบอลคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ แม้ในยามที่มีผลงานออกมาไม่เป็นดั่งใจก็ตาม…

“Simple_Ja”

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้