TRUE TALK : เมื่ออารมณ์อยู่เหนือการควบคุม กลับไม่ก่อให้เกิดบทเรียนราคาแพง ... by "Jinius"

“หากคนเราใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหาฉันใด ผลร้ายย่อมย้อนกลับเข้ามาหาตัวฉันนั้น” นี่ถือเป็นสัจธรรมอีกข้อหนึ่งที่สามารถหยิบยกขึ้นมาเป็นคุณธรรมนำใจ และประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้ในทุกๆ สถานการณ์

ไม่เว้นแต่… โลกของฟุตบอล

เราเห็น “อาร์ม” เล่นนอกเกมแบบจะๆ ครั้งแรกเมื่อไหร่ ?

หลังจากเหตุการณ์ที่ทีมชาติไทย ปราชัยต่อทีมชาติจีน 1-2 ในศึกเอเชียน คัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านมา เราเคยเห็นดาวยิงดวงใหม่ของ “ช้างศึก” ที่กำลังรอวันเจิดจรัสอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด เล่นนอกเกมใส่ เฝิง เซียวถิง โดยไม่จำเป็นจนผู้ตัดสินต้องปรี่เข้ามาแจกใบเหลืองอย่างไม่ลังเล

แน่นอนว่ายอดกุนซือระดับโลกอย่าง มาร์เซโล่ ลิปปี้ เล็งเห็นข้อนี้ดีจึงไม่รอช้าที่จะกระหน่ำบุกใส่ฝั่งขวาของไทย ในช่วงครึ่งเวลาหลังจนแทบไม่ได้พักหายใจเพื่อเล่นงาน ศุภชัย โดยเฉพาะ และยังเดินหน้ากดดันอย่างต่อเนื่องเพื่อเปลี่ยนบทฮีโร่ผู้ทำประตู ให้ลายมาเป็นผู้ร้ายต้นเหตุของการเสียประตูแรกแทน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อผลลัพธ์ที่ออกมาดีเกินคาด ในนาทีที่ 63 ของการแข่งขันที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย และรูปเกมที่เริ่มตกเป็นรอง “โค้ชโต่ย” ที่เห็นท่าไม่ดีจึงเริ่มมีการขยับบ้างชิงถอด “อาร์ม” ออก แล้วส่ง ชนานันท์ ป้อมบุบผา ลงมาแทน เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกใบเหลืองที่ 2

ทว่าการเปลี่ยนตัวในครั้งนี้เป็นดั่งการส่งไม้ต่อในการสวมบทแพะรับบาปไปให้กับศูนย์หน้าตัวสำรองอย่าง “ทู” แทน จากจังหวะที่เจ้าตัวเกิดอาการเสียดายบอล และไม่ยอมเคลียร์ทิ้ง ทำให้ผู้เล่นจีน แย่งบอลกลับคืนมา และสบโอกาสดังกล่าวครอสบอลเข้าไปยังกรอบเขตโทษจนนำไปสู่ลูกยิงตีเสมอ

แต่ดูเหมือนจะใจร้ายไปหน่อยหากเรายกความผิดทั้งหมดไปให้กับใบเหลืองที่ ศุภชัย ใจเด็ด ได้รับในช่วงครึ่งเวลาแรก เพราะถ้าพูดกันตามตรง ชนานันท์ ป้อมบุบผา เองก็มีส่วนผิดจากการเสียประตูดังกล่าวแทบจะ 100% ทว่าจุดที่อยากให้หลายๆ ท่านสังเกตก็คือ “อาร์ม” ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเล่นนอกเกมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เนื่องจากเจ้าตัวเป็นนักฟุตบอลอาชีพย่อมรู้ดีที่สุดว่า หากปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือการควบคุมย่อมไม่เกิดประโยชน์อันใดต่อเพื่อนร่วมทีม และแน่นอนโลโก้ตรงอกข้างซ้ายก็เช่นกัน

เมื่อประสบการณ์ไม่อาจสอนให้รู้จักยับยั้งชั่งใจ

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หนนี้มีแฟนบอลชาวไทยจำนวนไม่น้อยต่างตั้งความหวังที่จะได้เห็น “ช้างศึกจูเนียร์” ชุดนี้ก้าวขึ้นไปเป็นแข้งซีเนียร์ในวันข้างหน้า ด้วยผลงานการเอาชนะคู่แข่งไปแบบถล่มทลายตั้งแต่การไล่ต้อนอินโดนิเซีย 4-0 ตลอดจนสอนบอลบรูไนฯ ไปถึง 8-0 ทำให้ความมั่นใจของแฟนบอลช้างศึกก่อนศึกแห่งศักดิ์ศรีจะเปิดม่านพุ่งขึ้นอย่างเต็มเปี่ยมว่า ทีมชาติไทย U23 ชุดนี้ไม่เป็นรองคู่อริตลอดกาลอย่าง เวียดนาม เลยแม้แต่น้อย ทั้งชื่อชั้นของตัวผู้เล่น และดีกรีชั้นยอด ทำให้หลายๆ ฝ่ายประมาทแพสชั่นในการกำราบทีมชาติไทย ของเหล่ากองทัพเหงียน ที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลายาวนาน

ท้ายที่สุดวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2019 เหตุการณ์ที่พวกเราแฟนบอลชาวไทยต่างหวาดกลัวที่สุดกลับกลายเป็นเรื่องจริง

ในช่วงครึ่งเวลาแรก “ช้างศึก U23” ตกเป็นรองในทุกๆ ด้าน เราไม่สามารถตั้งเกมได้เป็นรูปเป็นร่าง จนนำมาสู่การเสียประตูแรก เสียงตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจของเหล่าแฟนบอลเวียดนาม ดังกึกก้องกังวานไปทั่ว หมี่ดิ่ญ สเตเดี้ยม, กรุงฮานอย ด้วยความอัดอั้น จุดนี้แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขาอยากเอาชนะ “เรา” มากเพียงไร ครึ่งแรกว่าแย่แล้ว แต่ครึ่งหลังกลับห่วยหนักกว่าเก่า เมื่อ ศุภชัย ใจเด็ด ดาวซัลโว 5 ประตูในทัวร์นาเม้นต์ที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในแข้งที่พวกเราชาวไทย ต่างฝากความหวังไปสาวหมัดใส่ ทราน ดินห์ ทรอง ทำให้ผู้ตัดสินที่เห็นเหตุการณ์ไม่รอช้าควักใบแดงตะเพิด “อาร์ม” ออกจากสนาม

นี่เป็นครั้งที่ 2 ในนามทีมชาติที่เราเห็น ศุภชัย ใจเด็ด เล่นนอกเกมโดยใช่เหตุ การหยิบยกคำกล่าวที่ว่า อาร์ม “อายุยังน้อย” เป็นเหตุผลที่ฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้น และไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้างอย่างยิ่ง คุณเคยได้รับบทเรียนราคาแพงมาจากศึกเอเชี่ยน คัพ 2019 แล้ว คุณควรจะตระหนัก และปรับปรุงตัวเสียตั้งแต่ตอนนั้น

ที่สำคัญคุณควรระลึกไว้อยู่เสมอว่าขณะนี้หน้าที่ของคุณคือการลงเล่นเพื่อรับใช้ชาติ รวมถึงความหมายของ โลโก้ “ช้างศึก” ที่ติดอยู่บนอกข้างซ้ายไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโอกาสเฉกเช่นเดียวกับคุณ หวังว่าเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 นะ “ศุภชัย ใจเด็ด”

การลากอารมณ์เข้ามาสู่เกมการแข่งขันมีแต่ “เสีย” กับ “เสีย”

ไม่ใช่เพียงแต่เวทีระดับเอเชีย หรือทีมชาติไทย เท่านั้น ตัวอย่างแข้งระดับโลกที่ปล่อยให้อารมณ์นำความคิดก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ยังจำกันได้ไหมในศึกฟุตบอลโลกปี 1998 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ เดวิด เบ็คแฮ่ม ยอดนักเตะเท้าชั่งทองขวัญใจแฟนบอลทั่วโลก เล่นนอกเกมใส่ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ด้วยการดีดขาใส่หวังเตะเอาคืนแข้งชาวอาร์เจนไตน์ ที่ทำฟาวล์ใส่ตน

เมื่อผู้ตัดสินจากเดนมาร์กนามว่า คิม มิลตัน นีลเซ่น เห็นว่า “ไม่เนียน” จึงจำเป็นแจกใบแดงให้กับแข้งเลือดผู้ดีรายนี้ไป ผลการแข่งขันจบลงด้วยการดวลจุดโทษตัดสิน และเป็น ทีมชาติอังกฤษ ที่เป็นฝ่ายตกรอบไปในที่สุด การปล่อยให้อารมณ์วิ่งแซงความคิด และการกระทำไม่เคยเป็นผลดีต่อใคร นอกจากเพื่อนร่วมทีมจะต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวแล้ว ยังต้องรับความผิดหวังจากแฟนบอลไปแบบเต็มๆ

ถ้าหากยังเห็นภาพไม่ชัดเราลองมาดูเหตุการณ์ในศึกฟุตบอลโลก 2014 ในรอบแบ่งกลุ่ม กันบ้าง ณ เวลานั้น ทีมชาติโครเอเชีย มีคิวลงแข่งขันกับ ทีมชาติแคเมอรูน ที่ต้องการแต้มอย่างหนักจากความพ่ายแพ้ในนัดแรก ทำให้ในนัดที่ 2 นี้ เป็นไฟลท์บังคับที่ตัวแทนจากแอฟริกาจำเป็นต้องคว้า 3 คะแนน เพื่อความหวังที่จะเข้ารอบต่อไป

นาทีที่ 11 ทีม “ตาหมากรุก” ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จาก อิวิก้า โอลิช แต่รูปเกมของ “หมอผี” ถือว่าไม่ได้แย่ และยังพอมีโอกาสทำประตู จนกระทั่งในนาทีที่ 40 อเล็กซานเดอร์ ซง ไม่รู้ว่าวิญญาณศิลปินเข้าสิง หรืออย่างไร จู่ๆ เจ้าตัววิ่งไปศอกเข้าเต็มแผ่นหลังของ มาริโอ มานด์ซูคิช จนถูกผู้ตัดสินไล่ให้ไปอาบน้ำก่อนใครเพื่อน สถานการณ์ขณะที่ทีมโดนนำว่าแย่แล้ว แต่ยังไม่แย่เท่าการเหลือผู้เล่น 10 คน และตกเป็นฝ่ายโดนนำ

บทสรุปของการแข่งขันนัดดังกล่าว แคเมอรูน เป็นฝ่ายปราชัยไปแบบยับเยิน 4-0 และจบทัวร์นาเม้นต์ลงด้วยการที่พวกเขาต้องกลับบ้านมือเปล่า และไม่อาจคว้าแต้มกลับไปฝากแฟนบอลได้เลยแม้แต่แต้มเดียว

เช่นเดียวกันกับแมตช์เมื่อคืนที่ผ่านมา จากการที่ทัพช้างศึก รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ 2 ประตู ใบแดงของ ศุภชัย ใจเด็ด ทำให้เหตุการณ์บานปลาย และปิดประตูความหวังในการตีไข่แตกไปเสียสนิท จากรูปเกมที่ตกเป็นรองในทุกๆ ด้าน แล้วยิ่งมาเสียเปรียบเรื่องจำนวนตัวผู้เล่น ทำให้ “ช้างศึก” ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นทัพหลักในอนาคตชุดนี้ ถูก เวียดนาม ไล่ต้อนอยู่ฝ่ายเดียวอย่างสนุกเท้า จนเสียเพิ่มอีก 2 ประตู

หวังว่าหยาดเหงื่อที่เพื่อนร่วมทีมทุกคนเสียเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในนัดนี้ จะเข้าไปสะกิดต่อมความคิด และความรู้สึกของ ศุภชัย ใจเด็ด เพื่อให้เจ้าตัวก้าวขึ้นไปเป็นยอดแข้งช้างศึก ซีเนียร์ที่ดีได้ อย่างที่ควรจะเป็น

เสี้ยววินาทีก่อนที่จะลงมือทำอะไรลงไป เคยฉุกคิดขึ้นมาบ้างไหมว่า การกระทำโดยไม่ยั้งคิดเหล่านั้นไม่เพียงแต่จะส่งผลเสียให้กับตัวเอง ทั้งเพื่อนร่วมทีมที่ร่วมสู้มาด้วยกัน แฟนบอลที่คอยให้กำลังใจ แม้แต่นามทีมชาติไทย จะเป็นอย่างไรเพียงแค่การกระทำที่ให้อารมณ์ขึ้นมานำเพียงชั่วอึดใจ

แล้วคุณหล่ะ ก่อนจะลงมือทำอะไรลงไปเคยคิดถึงคนอยู่ข้างหลังคุณบ้างรึเปล่า ?

“Jinius”

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports