รีเซต
TRUE TALK : อะไรรอ “โซลชา” หลังสัญญาฉบับใหม่? By "Mr.BOSTON"

TRUE TALK : อะไรรอ “โซลชา” หลังสัญญาฉบับใหม่? By "Mr.BOSTON"

TRUE TALK : อะไรรอ “โซลชา” หลังสัญญาฉบับใหม่? By "Mr.BOSTON"
boston2018
29 มีนาคม 2562 ( 10:56 )
308

อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายในสายตาของแฟนบอล สำหรับสัญญาฉบับใหม่ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ได้รับมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยระยะเวลานาน 3 ปี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ผลงานชนะ 14 จาก 19 นัดในการทำหน้าที่ มันดีเกินพอสำหรับสัญญาฉบับนี้ แต่ถึงแม้ สัญญามันจะยาวนานถึง 3 ปี แต่ในซัมเมอร์นี้ ถ้าเขาบริหารจัดการทีมไม่ดีพอแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะอยู่ไม่ครบสัญญาก็มีไม่น้อยเช่นกัน

แล้วอะไรล่ะคือสิ่งที่เขาต้องจัดการในซัมเมอร์นี้?

 

แรชฟอร์ด, เด เกอา กับสัญญาฉบับใหม่ 

(AP Photo/Rui Vieira)

ดาบิด เดเกอา เทพพิทักษ์แห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดดีกรีนายทวารทีมชาติสเปนรายนี้ เหลือสัญญากับทีม “ปีศาจแดง” แค่ 18 เดือนเท่านั้น ซึ่งต่อให้เป็นคนเพิ่งเริ่มดูบอลไม่นานก็รู้ว่าควรจะต่อสัญญาให้แล้วเสร็จต้องแต่ซัมเมอร์นี้ เพื่อป้องกันปัญหายุ่งยากที่จะตามมา

ตอนนี้ เขารับค่าเหนื่อยกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และรายงานระบุว่า ตัวเลขที่เขาพึงใจที่จะทำให้เขาอยู่ต่อ อยู่ที่ 300,000-350,000 ขึ้นไป หาไม่แล้ว อาจจะมีทีมอื่น ยื่นข้อเสนอมาฉกเข้าไปจากอ้อมอกผีแดงได้ไม่ยาก

ตามรายงานระบุว่า ซีเนดีน ซีดาน ที่ไม่ชอบ ธิเบาต์ กูร์กตัวส์ อยู่แล้วและอยากจะได้เขามาเฝ้าเสาที่ เรอัล มาดริด ขณะที่ ยูเวนตุส ก็มีข่าวกับผู้รักษาประตูระดับท็อปตลอดมา หลังการจากไปของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน และวอยเซียค เชสนี่ ก็โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าที่ทีมคาดหวังด้วย

ส่วนในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เหลือสัญญาอีก 18 เดือนเท่ากับ เด เกอา แต่นักเตะวัย 21 ปี น่าจะอยู่ในสถานะที่คุยง่ายกว่าเล็กน้อย เพราะเขาเป็นเด็กปั้นของทีม และถูกใจบทบาทของตัวเองที่ โซลชาร์ มอบให้ตั้งแต่กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยน เข้ามาสู่ทีมอยู่แล้ว

แต่ในแง่หนึ่งที่ต้องคิดมากหน่อยสำหรับทีม “ปีศาจแดง” คือค่าเหนื่อยของเขา เพราะเขารับกับทีมแค่ 75,000 ปอนด์เท่านั้น และด้วยสิ่งที่เขาทำให้ทีมมาตลอด 2-3 ปีหลัง การจะเบิ้ลให้เท่าตัวนั้น ยังดูว่าน้อยไปสำหรับนักเตะวัย 21 ปีรายนี้

ตามรายงานตัวเลขที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 200,000 ปอนด์ขึ้นไป แต่เอเย่นต์ของเขา ก็พยายามจะเรียกร้องที่ 300,000 ปอนด์ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาด้วย

 

เคลียร์ปัญหาค้างคากับนักเตะในสัญญาปัจจุบัน

 

อันนี้อาจจะหมายถึง อเล็กซิส ซานเชซ โดยตรงเป็นหลัก เพราะตัวเขาเองนั้น เป็นปัญหาใหญ่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งเรื่องในสนาม และเรื่องของการบริหารทีม แต่ก็ดูเหมือน โซลชาร์ ไม่อยากจะตัดปัญหาด้วยการปล่อยเขาออกจากทีมไปอยู่เหมือนกัน

ปัญหาในสนามของ ซานเชซ คือ อาการบาดเจ็บที่มีบ่อยเกินเหตุ จนทำให้ฟอร์มที่เคยร้อนแรงสมัยอยู่กับอาร์เซน่อล หายไป เพราะขาดความต่อเนื่องในการลงสนาม จนขาดความมั่นใจในการเล่น

ส่วนปัญหาเกี่ยวกับฝ่ายบริหาร คือการที่ทีมเช็นเขามาด้วยสัญญาที่แพงเกินเหตุ โดยกองหน้าวัย 30 ปี ได้รับค่าเหนื่อยราว 350,000-400,000 ปอนด์ ตามรายงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละสำนัก ซึ่งต่อให้ ยูไนเต็ด จ่ายเขาแค่ 300,000 ปอนด์ ก็ยังถือว่าไม่คุ้มค่ากับฟอร์มการเล่นของเขาอยู่ดี

ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกเรื่องที่โซลชาร์ ต้องคิดให้หนัก ถี่ถ้วน และรอบครอบ ว่าจะเดินหน้าไปในทิศทางไหนกับ กองหน้าทีมชาติชิลีรายนี้

 

เพิ่มส่วนใหม่ แก้ไขส่วนเกิน

 

การระบายนักเตะออกไป ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานผู้จัดการทีม อันที่จริงตั้งแต่เดือนธันวาคม เราก็เห็นการระบายนักเตะบางส่วนออกไปในตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีนักเตะอีกบางส่วนที่ดูเหมือนยังรอการระบายออกจากทีมอีกระลอก ในซัมเมอร์นี้

อันโตนิโอ วาเลนเซีย กัปตันทีม จะหมดสัญญาในลงในช่วงซัมเมอร์นี้ และยังไม่มีรายงานการพยายามเจรจากันของทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อขยายสัญญา ส่วนนักเตะอย่าง มัตเตโอ ดาร์เมียน หรือ อีริค ไบญี่ อาจจะเป็นนักเตะอีกส่วนที่ต้องออกไปจากทีมก็เป็นได้

แต่เมื่อมีออกไป ก็ต้องมีเข้ามาทดแทนเช่นกัน

การลุยตลาดนักเตะครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เป็นอะไรที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะแฟนบอล ไม่เคยรู้สไตล์ หรือ แนวทางการช็อปปิ้งของเขามาก่อน ดังนั้น อาจจะเป็นไปได้ทั้งการช็อปของขึ้นห้างห้าดาว หรือ ซื้อเด็กมาปั้น และ อาจจะผสมกันทั้ง 2 อย่างก็ได้

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือตลอดเวลาที่ผ่านมา โซลชาร์ ไม่เคยมีว่าอยากได้ใครอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งอาจะเป็นเพราะเขายังไม่แน่ใจสถานภาพตัวเองในทีม เนื่องจากเป็นการคุมทีมภายใต้สัญญารักษาการณ์แค่ฤดูกาลเดียว แต่หลังจากนี้ เมื่อได้สัญญาถาวร เราอาจเห็นเขา “หยอด” และ “จีบ” ใครมากขึ้นก็ได้ เพื่อให้ในช่วงซัมเมอร์นี้ ทีมจะได้ไม่ต้องลุยตลาดโดยเริ่มจากศูนย์

 

ทำทุกอย่างในวิถีทางของ “แมนฯ ยูไนเต็ด”

 

(AP Photo/Rui Vieira)

อันที่จริง โซลชาร์ ได้พิสูจน์ตัวเองไปแล้วบางส่วนที่เกี่ยวกับ “วิถีแมนฯ ยูไนเต็ด” หรือ “Man United Way” ด้วยการพาทีมกลับมาเล่นบอลเกมบุก ทำให้เกมฟุตบอลดูสนุก และสวนงาม แถมผู้เล่นก็กลับมามีความสุขกับการเล่นฟุตบอลอีกครั้ง

แต่การลุยตลาดในนักเตะด้วยวิถีของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น เป็นเรื่องที่ยากกว่า เพราะต้องยอมรับว่าสมัยก่อน ชื่อชั้นของทีม “ปีศาจแดง” ดึงดูดผู้เล่นได้มากกว่านี้ แต่จากการที่ผลงานดร็อปลงไปในช่วง 3-4 ปีหลัง ทำให้ทีมของเขาไม่ดึงดูดนักเตะเท่าที่ควร

เท่านั้นยังไม่พอ ตัวโซลชาร์ เอง ก็อาจจะมีบารมีน้อยกว่า เมื่อเทียบกับกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หรือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ดังนั้น ถ้าหวังนักเตะคนเดียวกัน อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหนื่อย

แต่มันยังพอมีหนทาง เพราะถ้าเขาพาทีมคว้าอันดับที่ 4 หรือถ้าจะให้ดีคือคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ ก็ยังพอจะดึงดูดนักเตะได้อยู่บ้าง

เหนือสิ่งอื่นใด คือความเชื่อมั่นที่เขาต้องสร้างให้เกิดขึ้นให้ได้ก่อนตลาดนักเตะจะเปิด เขาต้องแสดงความชัดเจนในการทำงาน และเป้าหมายที่แน่นอน เพื่อนั่นจะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ที่พวกเขาสนใจได้ไม่มากก็น้อย

ที่เหลือ ก็ทำได้แค่ “รอดู” หลังจบฤดูกาลนี้เท่านั้น ว่า ซัมเมอร์แรกของ โซลชา ในคราบกุนซือ “ปีศาจแดง” จะออกหัว หรือ ก้อย…

“Mr.BOSTON”

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้