รีเซต
พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "เราจะไป UCL" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เชลซี ... by "Maxzio"

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "เราจะไป UCL" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เชลซี ... by "Maxzio"

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "เราจะไป UCL" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เชลซี ... by "Maxzio"
Supanat
28 เมษายน 2562 ( 14:20 )
2.8K
22

พรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2018/19

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เชลซี

รายการ : พรีเมียร์ลีก 2018/19
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2019  เวลา 22.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ถ่ายทอดสดbeIN SPORTS 1 & TrueID App

 

 

เรียกได้ว่าเป็นลีกฟุตบอลโลกที่เต็มไปด้วยความสนุก สุดมันส์ และเร้าใจแบบสุดๆ สมกับที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย อย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018/2019 ท่ามกลางการขับเคี่ยวของ 20 ทีมชั้นนำแห่งเกาะอังกฤษ ตลอด 38 แมตช์ที่อัดแน่นจุใจทั้งฤดูกาล มั่นใจได้เลยว่า พรีเมียร์ลีก ยังคงตอบโจทย์คอลูกหนังไม่เปลี่ยน

แน่นอน สำหรับแฟนบอลไทยที่ไม่อยากตกเทรนด์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ TrueID Sports จัดเต็มให้กับการอัพเดตทุกแง่มุมทั้งข่าวสารอัพเดตแบบเรียลไทม์ คลิปไฮไลท์ รวมถึงช่องทางติดตามชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบสดๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยความคมชัดระดับ HD และถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ sport.trueid.net/premierleague

เกมคู่นี้ลงแข่งขันกันวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2019  เวลา 22.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง beIN SPORTS 1 & TrueID App

 

สภาพความพร้อม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

AP Photo/Jon Super

แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้กลางตัวหลังอย่าง อันเดร์ เอร์เรร่า กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง หลังจากพลาดการลงสนามไป 6 เกมจากอาการบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริง นอกจากนี้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่พลาดการลงสนามใน แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ จากการเทสความฟิตไม่ผ่าน มีโอกาสเป็นตัวเลือกในแดนกลางอีกครั้ง เช่นเดียวกับ ฟิล โจนส์ ที่เจ็บเข่าตั้งแต่เกมกับ เอฟเวอร์ตัน ก็ยังต้องลุ้นจนวินาทีสุดท้าน

ด้าน เอริค ไบญี่ และอันโตนิโอ วาเลนเซีย ยังไม่สามารถลงสนามในเกมนี้ แต่ยังดีที่ มัตเตโอ ดาร์เมียน ที่ลงในเกมกลางสัปดาห์ ซึ่งเป็นเกมแรกตั้งแต่ 19 มกราคม สามารถทดแทนการขาดหายไปของทั้งคู่ได้

 

 สภาพความพร้อม เชลซี

 

AP Photo/Kirsty Wigglesworth

แฟนสิงห์บลู ต้องเจอกับข่าวร้าย เมื่อ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยืนยันว่า เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางตัวสำคัญของทีมมีสิทธิ์อดลงสนามในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังเจ็บบริเวณซี่โครง และเล่นในเพียงครึ่งเดียว ในเกมกับเบิร์นลี่ย์ รวมไปถึง คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ปีกวันเดอร์คิด ชาวอังกฤษแม้ว่าอาการบาดเจ็บจะไม่หนักมาก แต่กลับมาไม่ทันในเกม บิ๊กแมตช์นัดนี้อย่างแน่นอน

แต่ยังมีข่าวดีกลับการได้ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง หลังพลาดลงช่วยทีมไป 2 เกมติดต่อกัน

 

คาดว่าจะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, แอชลี่ย์ ยัง, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, คริส สมอลลิ่ง, ลุค ชอว์, อันเดร์ เอร์เรร่า, ปอล ป็อกบา, เฟร็ด, เจสซี่ ลินการ์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล, มาร์คัส แรชฟอร์ด

เชลซี : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เอเมอร์สัน, จอร์จินโญ่, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, มาเตโอ โควาซิช, เปโดร โรดิเกซ, เอแดน อาซาร์, กอนซาโล่ อิกวาอิน

 

บทวิเคราะห์

 

เกมนี้คือเกมสำคัญสำหรับโควต้าการไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า โดยเจ้าบ้าน ต้องการเก็บชัยชนะเท่านั้นเพื่อโอกาสในการเกาะกลุ่มต่อไป ซึ่งหากพวกเขาจะชนะ จะมีแต้มเท่ากับเชลซีที่ 67 คะแนน และแต้มหลัง ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ ที่เพิ่งสะดุดแพ้เพียง 3 คะแนนเท่านั้น ส่วนเชลซี หากพวกเขาชนะ ก็จะดีดขึ้นไปเป็นอันดับ 3 ทันที

AP Photo/Jon Super

ซึ่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ยอมรับว่า ตลอด 4-5 ฤดูกาลที่ผ่านมา ยูไนเต็ด ยังโชว์ผมงานได้ไม่ดีพอ และเป็นความม้ท้าทายอันยิ่งใหญ่เพื่อจะกลับไปเป็น ท็อปทีมอีกครั้ง และเชื่อว่าความพ่ายแพ้ 7 นัดที่ผ่านมาจะเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้า

ด้าน เชลซี ที่เก็บชัยชนะได้ 3 จาก 5 นัดหลังสุด แม้ว่าเพิ่งสะดุดเสมอ เบิร์นลี่ย์ มาแต่ก็ถือว่ายังอยู่ในช่วงที่โชว์ฟอร์มยอดดยี่ยม เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยืนยันว่าเกมนี้ต้องเก็บชัยชนะให้ได้เท่านั้น และการติดท็อปโฟร์ คือเป้าหมายอันดับหนึ่งของทีม และตามด้วยเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก

ด้านสถิติ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชนะเหนือ เชลซี ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้ 2 เกมติดต่อกัน แต่พวกเขาไม่สามารถเก็บชัยชนะ 3 เกมติดในรังเหย้าพวกเขาได้ตั้งแต่ 1957 “สิงห์บลู” มีสถิติเล่นเกมเยือนกับทีม “ท็อป 6” ได้ไม่ดีเลยในฤดูกาลนี้ พวกเขาแพ้ 6 เกมหลังสุด และเพวกเขาไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลยตลอด 8 เกมหลังสุด (เสมอ 2 แพ้ 6) โดยชัยชนะหนล่าสุดคือการบุกไปเอาชนะ สเปอร์ส 2-1 ในเดือนสิงหาคม 2017

AP Photo/Kirsty Wigglesworth

เกมนี้สื่อหลายเจ้ายกให้ทั้งสองทีมค่อนข้างมีฟอร์มที่สูสีกัน เจ้าบ้านแพ้รวดมา ส่วนทีมเยือน ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ และเล่นกับทีมใหญ่ไม่ดีนัก บวกกับมีเกม ยูโรป้า ลีก กลางสัปดาห์กับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต นอกจากนี้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ก็จะลงมาช่วยทีมไม่ได้ ทำให้ “ปีศาจแดง” ดูจะได้เปรียบเล็ก

ฉะนั้นเกมนี้ บทสรุป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะเก็บชนะเหนือ เชลซี ไปได้ หากพวกเขาหยุด เอแดน อาซาร์ อยู่เพราะหลายเกมที่ผ่านมาที่ยอดทีมจากลอนดอนเก็บชัยชนะเหนือคู่แข่งไปได้ ก็มาจากการสร้างความแตกต่างของกองกลางชาวเบลเยี่ยมรายนี้

 

สกอร์ที่คาด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 เชลซี

 

“Maxzio”

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้