รีเซต
TRUE TALK: เพราะอะไรเทนนิสหญิงจึงแทบไร้ตัวท็อปในแกรนด์สแลมรอบตัดเชือก? ... by "Mr.BOSTON"

TRUE TALK: เพราะอะไรเทนนิสหญิงจึงแทบไร้ตัวท็อปในแกรนด์สแลมรอบตัดเชือก? ... by "Mr.BOSTON"

TRUE TALK: เพราะอะไรเทนนิสหญิงจึงแทบไร้ตัวท็อปในแกรนด์สแลมรอบตัดเชือก? ... by "Mr.BOSTON"
boston2018
4 มิถุนายน 2562 ( 04:11 )
343
3

เฟรนซ์ โอเพ่น 2019 ที่ โรลังด์ การ์รอส ประเทศฝรั่งเศส เดินทางมาถึงรอบตัดเชือกในรอบ 8 คน สุดท้าย หรือรอบก่อนรองชนะเลิศ ทั้งประเภทชาย และหญิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเราจะรู้ว่าใครเป็นแชมป์กันในช่วงสุดสัปดาห์นี้

สิ่งที่น่าสนใจ นอกจาก “ใครชนะ” แล้ว มันคือความแตกต่างระหว่างนักเทนนิสที่เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้นั่นเอง

โดยหากมองไปที่การแข่งขันประเภทชายเดี่ยวแล้ว ในรอบ 8 คนสุดท้าย พวกเขามีมือวางอันดับท็อป 8 เขามาถึง 6 คนเป็นอย่างน้อย

แต่ในฝ่ายหญิง พวกเธอเหลือมือ ท็อป 8 ผ่านเข้ามาในรอบ 8 คนสุดท้ายแค่ 3 คน และที่สำคัญ ไม่มีทั้งมือ 1 หรือ 2 หลุดรอดเข้ามาเลย เพราะอะไรกัน? แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น?

 

แกรนด์สแลมหญิง กับความปกติที่ไม่มีมือวาง

อแมนด้า อนิสิโมว่า นักเทนนิสมือ 51 ของโลก ซึ่งเป็นมืออันโลกที่ต่ำที่สุดที่เข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายในเฟรนซ์ โอเพ่น 2019 ได้ (AP Photo/Pavel Golovkin)

ไม่ใช้แค่ เฟรนซ์ โอเพ่น ในปีนี้เท่านั้นที่มือวางฝ่ายหญิงเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศมาไม่ถึงครึ่ง หรือ มาไม่ถึง 4 คน แต่มันแทบจะเป็นเรื่องธรรมดาของเทนนิสหญิงเดี่ยวในแกรนด์สแลมเสียแล้วที่จะมีความผันผวนและปั่นป่วนสูงมาก เมื่อเทียบกับฝ่ายชาย

โดยสถิติใน 3 ปีให้หลังของแกรนด์สแลม 4 รายการ ทั้ง ออสเตรเลียน โอเพ่น, เฟรนซ์ โอเพ่น, วิมเบิลดัน, และ ยูเอส โอเพ่น ระบุชัดเจนว่า มีเพียง วิมเบิลดัน 2016, ยูเอส โอเพ่น 2016, ออสเตรเลียน โอเพ่น 2018 และ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2019 เพียง 4 จากทั้งหมด 12 รายการเท่านั้น ที่มีมือวางท็อป 8 ของรายการฝ่ายหญิง เข้ารอบ ก่อนรองชนะเลิศอย่างน้อย 50% หรือ 4 คนขึ้นไป

โดยที่น่าสนใจกว่านั้น คือ ทั้ง 4 รายการที่มีมือ ท็อป 8 ของโลกเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศเกิน 50% ใน 3 ปีหลัง ไม่มีรายการไหนเลย ที่มีสถิติเกิน 50% กล่าวคือ ทั้ง ทั้ง 4 รายการที่ว่า มีท็อป 8 เพียงไม่เกิน 4 คนเท่านั้น ที่เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้

ที่พิเศษกว่านั้น คือในออสเตรเลียน โอเพ่น 2019 ถึงจะมีมือวางท็อป 8 เข้ารอบก่อนรองฯ ถึง 4 คนได้จริง แค่ทั้ง 4 คน ไม่มีมือท็อป 3 อยู่เลย โดยทั้ง 4 คน มีประกอบไปด้วย นาโอมิ โอซากะ มือ 4, เอลิน่า สวิโตลิน่า มือ 6, คาโรไลน่า พลิสโคว่า มือ 7 และ เพตรา ควิโตว่า มือ 8

แถมยังมีทัวร์นาเมนต์ในแกรนด์สแลมที่เมื่อถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ไม่มีนักเทนนิสมือท็อป 8 ของโลกหลุดมาเลยสักคนด้วย นั่นคือในวิมเบิลดันปีก่อน ที่รอบ 8 คนสุดท้ายประกอบไปด้วย โดมินิก้า ชิบูโคว่า มือไร้อันดับ, เยเลน่า ออสตาเปนโก้ มือ 12, ดาเรีย คาซัตกิน่า มือ 14, แองเจลิก เคอร์เบอร์ มือ 11, กิกี้ เบอร์เท่นส์ มือ 20, จูเลีย กอร์เกส มือ 13, เซเรน่า วิลเลียมส์ มือ 25 และ คามิเลีย จอร์กี้ มือไร้อันดับ

ดังนั้น นี่จึงสรุปได้ว่า การที่แทบไม่พวก “ตัวท็อป” ในรอบตัดเชือกฝ่ายหญิงนั้น เป็นเรื่อง “ธรรมดา” ไปแล้ว

 

ความปั่นป่วน เป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์

โจฮานน่า คอนต้า มือ 26 ของรายการ เป็นหนึ่งในแปดคนของรอบก่อนรองชนะเลิศ เฟรนซ์ โอเพ่น ปีนี้(AP Photo/Christophe Ena)

เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มือวางไม่ค่อยประสบความสำเร็จในแกรนด์สแลมเท่าที่ควรนี้ นักข่าวเองก็เอาไมค์ไปจ่อปาก โจฮานน่า คอนต้า นักเทนนิสมือเกือบต่ำที่สุดที่ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายในเฟรนซ์ โอเพ่น 2019 มาได้ โดยเธอเป็นมือวางอันดับ 26 ซึ่งมี 2 คนที่มืออันดับต่ำกว่าเธอคือ เปตรา มาร์ติช มือ 31 จากโครเอเชีย และ อแมนด้า อนิสิโมว่า จากสหรัฐฯ

โดยนักข่าวถาม คอนต้า ว่า ทำไมในแกรนด์สแลมหญิง ถึงเป็นแบบนั้น และนักหวดจากสหราชอาณาจักรก็ตอบคำถามได้น่าสนใจมากทีเดียว และนื่คือคำตอบของเธอ

“มันดีสำหรับแฟน ๆ เทนนิสเหมือนกันนะ ที่ทุกคนสนุกกับเกมการแข่งขัน เพราะเราเล่นกันแบบไม่มีอะไรจะเสีย และมันทำให้ผลที่ออกมาไม่สามารถคาดเดาได้เลย

“นั่นเป็นความสวยงามของกีฬา การได้ต่อสู่กัน แล้วคุณก็ไม่รู้ผลแน่นอนที่มันจะออกมาหรอก คุณไม่มีทางรู้ตอนจบ จนกว่ามันจะเกิดขึ้น”

คำตอบของ คอนต้า มีส่วนที่น่าสนใจตรงที่เธอบอกว่า เล่นแบบไม่มีอะไรจะเสียนั่นเอง…

นักเทนนิสหญิงมือรองที่เข้ารอบมาถึงขั้นนี้ได้ พวกเธอไม่มีอะไรจะเสียอย่างแท้จริง เพราะพวกเธอไม่มีคะแนนให้ต้องป้องกัน ไม่ต้องกลัวว่า หากเสียคะแนนไป อันดับโลกจะร่วงลงมา ต่างกับมือวาง ที่หลายคนต้องเล่นพร้อมกับแรงกดดันที่จะต้องรักษาคะแนนที่ทำไว้ในปีก่อน ๆ ให้ได้ ดังนั้น นี่อาจจะเป็นเหตุผลให้นักเทนนิสมือวางหลายคน “เล่นไม่ออก” ในรายการใหญ่แบบแกรนด์สแลม ที่มีคะแนนเดิมพันสูงเช่นนั้น

ต่างกับพวกมือรอง ๆ ที่ “ไม่มีอะไรจะเสีย” นั่นเอง

 

ความผันผวนในแกรนด์สแลมส่งผลถึงตำแหน่งมือ 1 ของโลก

นาโอมิ โอซากะ มือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน (AP Photo/Michel Euler)

ความผันผวนที่เกิดขึ้นในรายการแกรนด์สแลม 3 ปีหลัง สอดคล้องกับความปั่นป่วนของตำแหน่งมือ 1 ของโลกฝ่ายหญิง ที่มีการผลัดเปลี่ยนกันดุจเก้าอี้ดนตรี

นับตั้งแต่ เซเรน่า วิลเลียมส์ ที่ครองอันดับโลกมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2013 ร่วงจากบังลังก์ ในวันที่ 11 กันยายน 2016 ซึ่งเป็นการครองมือ 1 ของโลกติดต่อกันยาวนานที่สุด 186 สัปดาห์ หลังจากนั้นจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 143 สัปดาห์ มีการเปลี่ยนตำแหน่งมือ 1 ของโลกกันถึง 11 ครั้ง

โดยจากจำนวน 143 สัปดาห์นั้น ซิโมน่า ฮาเล็ป ครองตำแหน่งได้นานที่สุด 48 สัปดาห์ รองลงมาคือ แองเจลิก เคอร์เบอร์ กับ นาโอมิ โอซากะ ที่เท่ากันที่ 20 สัปดาห์

ทั้งนี้เป็นเพราะไม่มีใครที่สามารถครองแชมป์แกรนด์สแลม หรือ เข้ารอบลึก ๆ ในเทนนิสแกรนด์สแลมซึ่งมีคะแนนสะสมสูง ถึง 2000 แต้มได้อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง ดังนั้น พอแชมป์มีการเปลี่ยนมือ คะแนน 2000 ที่ถูกบวกมาให้แชมป์หน้าใหม่ จะส่งผลให้เธอคนนั้นอันดับโลกพุ่งขึ้นสูงมาก และมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกคนต่อไปได้เลยหากรักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ

และนี่ก็เป็นผลกระทบที่อาจจะเรียกว่า “เสน่ห์” ก็คงได้

 

ยุคสมัยแห่งความปั่นป่วน

การคาดเดาไม่ได้แม้แต่คนที่เข้ารอบตัดเชือกในแกรนด์สแลม กลายเป็นเรื่องปกติของเทนนิสหญิงในปัจจุบันไปแล้ว (AP Photo/Pavel Golovkin)

การหมดยุคลงไปของ เซเรน่า วิลเลียมส์ หลังจากครองความยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนาน ทำให้วงการเทนนิสหญิงแปรเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเมื่อไร้ “ราชินี” ซึ่งผลที่เห็นได้ชัดนอกจากเป็นเรื่องของเก้าอี้ดนตรีมือ 1 ของโลกแบบที่ไล่เรียงไว้ในข้อบนแล้ว มันยังมีเรื่องของการที่ไม่มีใครผูกขาดแชมป์ในแกรนด์สแลมด้วย

ดังนั้น ทุกวันนี้ อันดับโลกของนักเทนนิสหญิงจึงขาดความเสถียรอย่างยิ่ง เพราะเมื่อใครสามารถก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จได้ ก็จะมีโอกาสขึ้นสู่มือท็อปของโลกได้ไม่ยาก

ที่น่าสนใจคือ เมื่อไร้ “เซเรน่าคนเก่า” ที่ไร้เทียมทานแล้ว นักเทนนิสหญิงทุกคนต่างมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นว่า พวกเธอสามารถก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์รายการใดก็ได้ ถ้ามีโอกาส และ โชคเพียงพอ

และนี่คือสิ่งที่วงการเทนนิสหญิงจะต้องเผชิญไปอีกพักใหญ่ จากว่าจะมีใครขึ้นมาครองบัลลังก์ได้อย่างยาวนานแบบที่เซเรน่า เคยทำได้

และนี่ก็เป็นภาพที่วงการเทนนิสชายอาจจะต้องเผชิญเช่นกัน เมื่อหมดยุคของ “บิ๊ก 3” อย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, ราฟาเอล นาดาล และ โนวัค ยอโควิช

ยุคสมัยที่ขาดความเสถียรในอันดับทั้งมือวาง และ ฟอร์มการเล่น แบบนี้ จะว่าไป มันก็ทำให้เทนนิสดูสนุกและคาดเดายากแบบที่คอนต้าบอกจริง ๆ แต่ก็คงไม่ผิดนักถ้าจพเรียกเทนนิสหญิงยุดนี้ว่า

ยุคสมัยแห่งความปั่นปวน…

 

“Mr.BOSTON”

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

 

ยอดนิยมในตอนนี้