TRUE TALK : ตัดเกรดทีมชาติไทย หลังพ่าย เวียดนาม ท้ายเกม วืดชิงฯ คิงส์ คัพ 2019
ผ่านพ้นไปแล้วกับ 90 นาทีที่เปี่ยมไปด้วยความกดดัน ที่สนามช้าง อารีน่า กับรายการฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ และทรงเกียรติที่สุดในประเทศไทยอย่าง คิงส์ คัพ 2019 ซึ่งสุดท้ายขุนพล “ดาวทอง” ก็ได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า พวกเขาคู่ควรกับการเป็นเบอร์หนึ่งในอาเซียนอย่างแท้จริง หลังบุกมาอัดทีมชาติไทยบนผืนแผ่นดินอีสาน
แม้ว่าผลการแข่งขันที่ออกมา จะไม่ค่อยเป็นใจกับเหล่าแฟนฟุตบอลชาวไทยสักเท่าไหร่ แต่วันนี้ TrueID Sports ขอสวมบทตัดเกรดฟอร์มการเล่นของแข้ง “ช้างศึก” เรามาดูกันว่าในแต่ละคนทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน และได้กี่คะแนนกันบ้าง
ทีมชาติไทย
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ : 5.5 คะแนน
ได้กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้งหลังจากที่หายไปนานด้วยอาการบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม เกมนี้ นายด่านจาก โอเอช ลูเวิน ออกสตาร์ทได้ค่อนข้างดี หลังได้โชว์เคลียร์บอลอันตรายของนักเตะเวียดนาม อยู่บ้าง แต่ทว่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าตอง กลับออกมาตัดบอลผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตู และทำให้ทีมตกรอบในท้ายที่สุด
พรรษา เหมวิบูลย์ : 6 คะแนน
ปราการหลังร่างโย่งจากรั้ว “ปราสาทสายฟ้า” อ่านเกมได้ดีขึ้นกว่าในช่วงเวลาครึ่งแรก พร้อมคอยกระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมตื่นตัวแบบไม่ให้เผลอ แต่สุดท้ายก็ต้านความกดดันของ เวียดนาม ไม่ไหว หลังถูกโจมตีจากลูกเตะมุม และพลาดเสียประตูไปอย่างไม่น่าให้อภัย
อดิศร พรหมรักษ์ : 6 คะแนน
อีกหนึ่งกองหลังตัวหลักของทีมที่คอยเคลียร์ในจังหวะอันตราย ถือว่าวันนี้ทำผลงานได้ไม่แย่ เพียงแต่เกมรุกนั้นยังถือเป็นจุดอ่อนของเจ้าตัว
ธีราทร บุญมาทัน : 7 คะแนน
วิงแบ็กกัปตันทีมรายนี้ แบกประสบการณ์ พร้อมความมั่นใจจากญี่ปุ่น มาช่วยทีมในตำแหน่งริมเส้นของทัพ “ช้างศึก” ให้ดูมีความหวือหวา รวมถึงมีบางจังหวะที่สามารถวางบอลสวยๆ ให้เพื่อนได้ ถือเป็นอีกคนที่เอาตัวรอดจากการเจอ เวียดนาม ได้อย่างสบาย
สุพรรณ ทองสงค์ : 6.5 คะแนน
อ่านเกมได้ดี คอยยืนตำแหน่ง สามารถใช้ความดุดันขู่ใส่แนวรุกเวียดนามได้เป็นอย่างดี แถมมีจังหวะเคลียร์บอลอันตรายได้อีกด้วย
ทริสตอง โด : 5.5 คะแนน
ผิดฟอร์มจาก เอเชียน คัพ ไปพอสมควร หลังโดนแนวรุกเหงียนคอยเล่นงานทางกราบขวาอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังใช้ความแข็งแกร่งเอาชนะได้ในบางจังหวะ ทว่าเกมนี้ก็ยังเป็นเกมที่น่าผิดหวังของแบ็กลูกครึ่งรายนี้หากเทียบกับมาตรฐานที่เคยทำได้
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ : 7 คะแนน
เป็นหัวใจหลักของทีมอย่างแท้จริง มีความมั่นใจในการเล่นมากขึ้นนับตั้งแต่ไปค้าแข้งกับ โออิตะ ทรินิตะ เกมนี้ “เจ้านิว” คอยบงการเกมรับ และรุกได้ดี แต่ยังมีปัญหาเรื่องของการควบคุมอารมณ์ที่หวิดทำให้เจ้าตัวโดนใบแดง แต่โดยภาพรวม ฐิติพันธ์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นคีย์แมนที่ทีมชาติไทยจะขาดไปไม่ได้อีกแล้วนอกเหนือจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์
ธนบูรณ์ เกษารัตน์ : 6.5 คะแนน
ในครึ่งแรกยังดูสับสนกับการยืนตำแหน่ง และลงเล่นเคียงข้าง สารัช อยู่เย็น แต่หลังจากการลงมาของ สุมัญญา ทำให้มิดฟิลด์เชิงสูงรายใหม่แห่งค่าย “สิงห์เจ้าท่า” สามารถโฟกัสเกมรับได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ มีจังหวะเชื่อมเกมอยู่พอสมควร แต่เกมนี้ ธนบูรณ์ ยังถือว่าเสมอตัว คือไม่ได้ดี แต่ก็ไม่ได้แย่มาก
สารัช อยู่เย็น : 4.5
ดูเหมือนว่าเจ้าตัวยังคงมีปัญหาในเรื่องความกดดัน และความมั่นใจที่หดหายลงไปอย่างเห็นได้ชัด จนไม่มีส่วนร่วมกับทีมเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนออกในช่วงก่อนลงสนามในครึ่งเวลาหลัง บอกตรงๆ ว่านี่อาจะเป็นเกมที่ สารัช เล่นได้น่าผิดหวังที่สุดนับตั้งแต่ติดธง “ช้างศึก” ชุดใหม่มา และดูเหมือนว่าเจ้าตัวควรจะต้องยอมรับว่า มีคลื่นลูกใหม่อีกหลายๆ คนที่พร้อมท้าชิงในพื้นที่กลางสนาม
ศุภชัย ใจเด็ด : 6 คะแนน
กองหน้าดาวรุ่งจากค่าย “ปราสาทสายฟ้า” พยายามวิ่งหาช่องทำทาง เรียกบอลอยู่ตลอดเวลา รวมถึงพยายามลากบอลกดดันใส่แนวรับของ เวียดนาม แต่ในจังหวะตัวต่อตัวเกมนี้ ศุภชัย ยังไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ แต่ก็ยังไม่มีความโดดเด่นเท่าที่ควรในเกมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังจากแฟนบอลไทยแบบนี้
สุภโชค สารชาติ: 7 คะแนน
อีกหนึ่งแนวรุกดาวรุ่งที่ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแทนที่ ธีรศิลป์ เกมนี้ สุภโชค สามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับกองหลังเวียดนาม อยู่ตลอดเวลา พยายามสร้างสรรค์จังหวะเกมรุก พร้อมคอยวิ่งไล่จี้คู่แข่งทั้งเกม จนดูเหมือนว่า ณ เวลานี้ เขาพร้อมแล้วที่จะก้าวมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติไทยชุดใหญ่ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด “เจ้าเช็ค” น่าจะเป็นนักเตะไทยที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้
ตัวสำรอง
สุมัญญา ปุริสาย : 6.5 คะแนน
ไม่เคยปริปากบ่นแม้จะตกอยู่ในฐานะตัวสำรอง การลงมาของมิดฟิลด์เท้าชั่งทองรายนี้ สามารถสร้างความแตกต่างให้กับแนวรุก และเล่นได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นกว่าเดิมในครึ่งเวลาแรก มีจังหวะปั้นเกมที่ดูมีชีวิตชีวา แถมโชว์จังหวะคิลเลอร์พาสที่ดีจนได้มีจังหวะให้แฟนฟุตบอลไทยให้ได้ลุ้นอีกด้วย แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ไม่สามารถพาทีมชาติไทยเอาตัวรอดจากเกมนี้ไปได้
ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา : มีเวลาอยู่ในสนามน้อยเกินไป
กลายเป็นนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังถูกส่งลงสนามในช่วงท้ายเกม ด้วยความปราดเปรียว และความคล่องตัวพร้อมกับสามารถสร้างความหวือหวาให้กับทุกคนในสนามได้ตั้งแต่การสัมผัสบอลครั้งแรก
แต่ถ้าให้วิเคราะห์กันแบบจริงๆ เกมนี้ยังไม่ใช่ไทม์มิ่งที่เหมาะสม เพราะในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดัน และต้องการประตู บางทีอาจจะหนังหนาสาหัสเกินไปกับเด็กที่มีอายุแค่ 16 ปี แต่ถึงอย่างไร ศุภณัฏฐ์ เปรียบได้ดังเพชรเม็ดงามที่รอวันเจียระไนให้กับทีมชาติไทยอย่างแน่นอน
กุนซือ
ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย : 0 คะแนน
ยึดติดกับแทคติกในรูปแบบเดิม รวมถึงตัวผู้เล่นที่ไม่ได้วัดจากผลงานในลีกเลย ทำให้ทีมชาติไทยชุดนี้ กลายเป็นทีมที่ “ล้า” ทั้งสภาพร่างกาย ผลงาน และจิตใจ เช่นเดียวกับการแก้เกมที่ผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัด
ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้นกับการพา ไทย พ่ายต่อ เวียดนาม คาบ้าน แม้ในช่วงของการแถลงข่าวหลังเกม โค้ชโต่ย จะยังออกมากล่าวว่า ยังไม่ยอมศิโรราบต่อทัพ “ดาวทอง” แต่ในเมื่อฟุตบอลตัดสินกันที่ประตู และผลการแข่งขันหลังเสียงนกหวีดสุดท้าย… วันนี้เราไม่ใช่ทีมเบอร์หนึ่งของอาเซียนอีกต่อไป
ติดตาม โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ได้ที่นี่ คลิกเลย
ไปดูคิงส์ คัพ 2019 ครั้งนี้ ที่ บุรีรัมย์ ยังไม่มีที่กินที่เที่ยว เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports