ยกนี้ "พี่เน""ชนะ! เปโดร โคตรเด่น บุรีรัมย์ บุกถล่ม การท่าเรือ 1-3 ขยับแซงฝูงไทยลีก 2019
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับมาทวงบัลลังก์จ่าฝูงจาก “สิงห์เจ้าท่า” ได้สำเร็จ หลังบุกมาเอาชนะคู่ปรับแย่งแชมป์อย่าง การท่าเรือ เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 1-3 คว้าสามคะแนนสำคัญในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019
ศึกซูเปอร์ บิ๊กแมตช์ประจำ ไทยลีก 2019 เลกแรก การท่าเรือ เอฟซี เปิดรัง แพท สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเกมนี้ “เซอร์เด็จ” ตัดสินใจดร็อปสตาร์ทีมชาติไทยอย่าง สุมัญญา ปุริสาย ไว้ที่ข้างสนาม พร้อมกับวาง ทศพล ลาเทศ ลงสนามในฐานะแนวรับ ขณะที่ “บอสโก้” เกมนี้ได้ ศุภชัย ใจเด็ด กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วนสองแข้งดาวรุ่งฟอร์มแรงอย่าง ศศลักษณ์ ไหประโคน กับ สุภโชค สารชาติ อยู่กันครบ
เปิดฉากมาได้แค่สองนาที การตัดสินใจครั้งสำคัญของผู้ตัดสินได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังเป่าให้ลูกที่จุดโทษแก่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จากจังหวะที่ ทศพล ลาเทศ ไปหวด เปโดร จูเนียร์ ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ อันเดรส ตูเญซ จะรับหน้าที่สังหารไปทางซ้ายมือของตัวเองไม่มีพลาด แฟนบอล “ปราสาทสายฟ้า” ที่เดินทางตามมาเชียร์หลายร้อยชีวิตได้เฮลั่น แพท สเตเดี้ยม แล้ว
หลังจากเสียประตู การท่าเรือ ตัดสินใจโหมบุกหนักทันที และหวิดจะได้ประตูตีเสมอ หลัง บดินทร์ ผาลา ได้ลากเข้ามาในกรอบก่อนตัดสินใจฉีดยาทันที แต่บอลแฉลบแนวรับทีมเยือนออกหลังไป และจากจังหวะลูกเตะมุมต่อเนื่อง ทศพล ลาเทศ เกือบแก้ตัวได้สำเร็จ หลังมีโอกาสได้ซัดจ่อๆ แต่ทว่าโดนบอลไม่ดีก่อนจะข้ามคานออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีถัดมา ศศลักษณ์ ไหประโคน เกือบบวกเม็ดที่สุดให้กับ “ปราสาทสายฟ้า” หลังรับบอลทางกราบซ้าย ก่อนค่อยๆ ลากจี้แนวรับท่าเรือแล้วซัดเปรี้ยงทันที บอลแฉลบ เอเลียส ดอเลาะ พุ่งเฉี่ยวเสาไกลไปแบบใกล้เคียงสุดๆ
หลังจากนั้น การท่าเรือ กลายเป็นฝ่ายที่ครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ทว่าแนวรับของ บุรีรัมย์ ก็ช่วยกันเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมชนิดไม่มีพลาด ก่อนที่ผู้ตัดสินชัยฤกษ์ งามสม จะเป่าจบครึ่งแรก “ปราสาทสายฟ้า” บุกมานำ 0-1
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่สามนาที กลายเป็น การท่าเรือ ที่มาได้ประตูตีเสมอจนได้ หลัง ศิวกร จักขุประสาท ฉวยโอกาสเล่นฟรีคิกเร็วให้ ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง สปีดเติมมาถึงสุดเส้นหลังก่อนครอสมาให้ เซร์คิโอ ซัวเรซ วิ่งเบียด พรรษา โฉบมาโหม่งที่เสาแรกบอลพุ่งผ่าน ศิวรักษ์ เข้าไปชนิดหมดสิทธิ์เซฟ ทุกอย่างกลับมาเท่ากันที่ 1-1
นาทีที่ 55 บุรีรัมย์ ยูไนต็ด มาได้ประตูที่สองชนิดงงกันทั้งสนาม หลัง เปโดร จูเนียร์ โชว์จังหวะพลิ้วในกรอบหลบสองผู้เล่นท่าเรือสองคน ก่อนตัดสินใจซัดเปรี้ยงด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ วัชระ บัวทอง ตุงตาข่าย แม้แข้งเจ้าถิ่นจะพยายามฟ้องว่าเป็นลูกล้ำหน้า แต่เมื่อดูจากภาพช้า ชัดเจนว่า สุภโชค สารชาติ ไม่ได้เป็นตัวสุดท้ายที่ห้อยอยู่แต่อย่างใด “ปราสาทสายฟ้า” ฟาดกลาง แพท สเตเดี้ยม อีกหนเป็น 1-2
เท่านั้นยังไม่พอ 8 นาทีต่อมา บุรีรัมย์ ขยับหนีห่างไปเป็น 1-3 จากจังหวะที่ ศศลักษณ์ ปั่นลูกตะมุมโค้งเข้ามาที่เสาแรก เปโดร จูเนียร์ โฉบมาโหม่งติดเซฟ วัชระ แต่บอลกลับมาเข้าทาง ชิติพัทธ์ แทนกลาง ที่ยืนอยู่หน้ากรอบหกหลาได้เทคตัวโขกเล่นทางบอลค่อยๆ ลอยผ่านหัวใจแฟนบอล “สิงห์เจ้าท่า” ตุงตาข่ายไปอย่างเยือกเย็น
ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถบวกสกอร์กันเพิ่มได้ จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ การท่าเรือ เอฟซี ไปแบบสุดเดือด 1-3 ขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงไทยลีก 2019 แทนที่ “สิงห์เจ้าท่า” ได้ตามเป้า
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
การท่าเรือ เอฟซี : วัชระ บัวทอง (GK), นิติพงษ์ เสลานนท์, เอเลียส ดอเลาะ, ดาบิด โรเชล่า, ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง, ศิวกร จักขุประสาท, ทศพล ลาเทศ, เซร์คิโอ ซัวเรซ, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, บดินทร์ ผาลา, ดราแกน บอสโควิช
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อันเดรส ตูเญซ, พรรษา เหมวิบูลย์, ศุภชัย ใจเด็ด, รัตนากร ใหม่คามิ, ฮาจิเมะ โฮโซไก, ศศลักษณ์ ไหประโคน, สุภโชค สารชาติ, เปโดร จูเนียร์