รีเซต
พรีวิว ไทยลีก 2019 : "เดิมพันจ่าฝูง!" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด VS ทรู แบงค็อก ... by "Chunka"

พรีวิว ไทยลีก 2019 : "เดิมพันจ่าฝูง!" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด VS ทรู แบงค็อก ... by "Chunka"

พรีวิว ไทยลีก 2019 : "เดิมพันจ่าฝูง!" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด VS ทรู แบงค็อก ... by "Chunka"
Supanat
20 กรกฎาคม 2562 ( 13:58 )
602
3

พรีวิว ไทยลีก 2019
 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด VS ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

 

 

รายการ : ไทยลีก 2019
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2019 เวลา 18.00 น.
สนาม : ช้าง อารีน่า
ถ่ายทอดสด : TRUESPORT HD2 & TrueID App

เรียกได้ว่าเป็นลีกที่เต็มไปด้วยความสนุก สุดมันส์ และเร้าใจแบบสุดๆ สมกับที่แฟนบอลทั้งประเทศรอคอยอย่าง ไทยลีก 2019 ท่ามกลางการขับเคี่ยวของ 16 ทีมชั้นนำของไทย มั่นใจได้เลยว่า ไทยลีก ยังคงตอบโจทย์คอลูกหนังไม่เปลี่ยน

แน่นอน สำหรับแฟนบอลไทยที่ไม่อยากตกเทรนด์ฟุตบอลไทยลีก ในฤดูกาลนี้ TrueID Sports จัดเต็มให้กับการอัพเดตทุกแง่มุมทั้งข่าวสารอัพเดตแบบเรียลไทม์ คลิปไฮไลท์ รวมถึงช่องทางติดตามชมฟุตบอลไทยลีกแบบสดๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยความคมชัดระดับ HD และถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ sport.trueid.net

เกมคู่นี้ลงแข่งขันกันวันวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2019 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง TRUESPORT HD2 TrueID App

 

สภาพความพร้อม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

โบซิดาร์ บันโดวิช เฮดโค้ชใหญ่ “ปราสาทสายฟ้า” จะขาด พรรษา เหมวิบูลย์ เซนเตอร์ร่างโย่ง ที่มีอาการบาดเจ็บจากเกมที่ออกไปเยือน พีที ประจวบ ที่ผ่านมา แต่จะได้ อันเดรส ตูเญซ, ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา, และสุเชาว์ นุชนุ่ม ที่หายจากอาการบาดเจ็บกลับลงมาช่วยทีม

ส่วนนักเตะในรายอื่นๆ คาดว่าไม่น่าจะมีเจ็บหรือติดโทษแบนเพิ่มเติม ซึ่งนำทัพมาโดย นายด่านจอมเก๋าอย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน พร้อมกับแนวรับ 3 ปราการหลัง อย่าง ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน และสเตฟาน ปัลล่า

ต่อมาที่ตำแหน่งกองกลาง ยังไว้ใจดาวรุ่งสารพัดประโยชน์อย่าง รัตนากร ใหม่คามิ ยืนร่วมกับ ฮาจิเมะ โฮโซไก ที่จะคอยคุมในจังหวะแดนกลางให้มีความสมดุลลงตัวเช่นเคย ส่วน ศศลักษณ์ ไหประโคน ยืนประจำการวิงแบ็กฝั่งซ้าย และทางฝั่งกราบขวาอย่าง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม

ด้านแนวรุก มี สุภโชค สารชาติ ที่จะคอยสร้างสรรค์เกมรุก พร้อมกับ นาเซอร์ บาราซิต พ่อหนุ่มเครางามที่ระเบิดแฮตทริกได้ในเกม เอฟเอ คัพ พบ ระยอง เอฟซี ที่ผ่านมา ยืนล่าตาข่ายคู่กับ ราสมุส ยอห์นสัน ที่กำลังมีความกระหายเพื่อที่จะปลดล็อกสกอร์แรกภายใต้สีเสื้อของ “ปราสาทสายฟ้า” หลังจากที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมในเลกสอง

 

สภาพความพร้อม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ทางด้านของ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือใหญ่ขวัญใจคนมันส์ ต้องลุ้นเช็คความฟิตในส่วนของนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บช่วงก่อนหน้านี้อย่าง ทริสตอง โด กับ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ที่ไม่มีชื่อลงสนามช่วงสองเกมล่าสุด ในเกมไทยลีกที่เปิดบ้านเอาชนะ ตราด เอฟซี 2-1, ชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี 3-1 ในศึก ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และเนลสัน โนนีญ่า มีสิทธิ์ที่จะกลับมากระซวกตาข่ายในศึก “ซูเปอร์บิ๊กแมตช์” หลังจากที่ถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากมีอาการบาดเจ็บในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ ตราด

คาดว่าจะยังคงใช้นักเตะชุดหลักที่เอาชนะ “มังกรโล่ห์เงิน” นำมาโดย ไมเคิ่ล ฟาลเคสการ์ด นายด่านจอมหนึบ แบ็กขวา เอกชัย สำเร ที่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง เซนเตอร์ฮาร์ฟยังไว้ใจสองคู่หูเจ้าประจำอย่าง เอฟเวอร์ตัน กอนคาลเวซ กับ มานูเอล ทอม เบียห์ร และแบ็กซ้ายขวัญใจวัยรุ่น อย่าง วันชัย จารุนงคราญ

แดนกลางมี วิศรุต อิ่มอุระ ดาวรุ่งปิดทองหลังพระของทัพ “แข้งเทพ” ที่ได้รับโอกาสลงสนามอยู่อย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับ “กัปตันอเมริกา” แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์ และปกเกล้า อนันต์ ที่จะยืนประจำการในตำแหน่งแดนกลาง

แนวรุกริมเส้นฝั่งซ้าย อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ มีโอกาสที่จะลงสนามพบกับทีมเก่าอีกครั้ง ส่วนทางกราบขวายังคงใช้ความอันตรายในการลากเลื้อยของ วานเดอร์ หลุยซ์ พร้อมกับดาวซัลโวประจำทีมอย่าง เนลสัน โบนีญ่า ที่จะกลับมายืนเป็นหัวหอกล่าตาข่ายในเกมนี้

11 ผู้เล่นตัวจริง ที่คาดว่าจะลงสนาม (ทั้งสองทีม)

บุรัรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, สเตฟาน ปัลล่า, รัตนากร ใหม่คามิ, ฮาจิเมะ โฮโซไก, ศศลักษณ์ ไหประโคน, สุภโชค สารชาติ, นาเซอร์ บาราซิต, ราสมุส ยอห์นสัน

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด : ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด (GK), เอกชัย สำเร, เอฟเวอร์ตัน กอนคาลเวซ, มานูเอล ทอม เบียห์ร, วันชัย จารุนงคราญ, วิศรุต อิ่มอุระ, แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์, ปกเกล้า อนันต์, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, วานเดอร์ หลุยซ์, เนลสัน โบนีญ่า

บทวิเคราะห์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด vs ทรู แบงค็อก

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง “ซูเปอร์บิ๊กแมตช์” ที่มีความดุเดือดเข้มข้นไม่น้อย มีศักดิ์ศรีในความเป็นทีมลุ้นแชมป์เป็นเดิมพัน ซึ่งมีความสำคัญต่อทั้งสองทีมในการทำคะแนนในการลุ้นแย่งแชมป์ โดยในเลกแรก เป็นทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถบุกไปเอาชนะ “แข้งเทพ” ได้ถึงถิ่น 1-0 จากการทำประตูของ เปโดร จูเนียร์ อดีตหัวหอกชาวแซมบ้าที่ปล่อยตัวออกไปในเลกสอง ซึ่งทำให้ บุรีรัมย์ ได้เปรียบในเรื่องของเฮดทูเฮดในขณะนี้

นอกจาก บุรีรัมย์ จะสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างสวยงาม ถูกใจแฟนบอล ในเกมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว แต่ทีมก็ต้องกลับมาทำการบ้านในส่วนที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในเกมลีก โดยผลงานช่วงเลกสอง “ปราสาทสายฟ้า” ยังไม่สามารถเอาชนะทีมไหนได้เลย ด้วยเปิดหัวพ่าย ชลบุรี เอฟซี 1-0, เสมอ สุพรรณบุรี เอฟซี และพีที ประจวบ สกอร์ 0-0

โดยจะต้องเน้นไปที่การเพิ่มขวัญกำลังใจ ความกระหาย และแรงจูงใจกับนักฟุตบอล โดยเฉพาะในแดนหน้าที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมอย่าง นาเซอร์ บาราซิต กับ ราสมุส ยอห์นสัน ที่ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกในลีกได้ แต่ในรายของ บาราซิต เพิ่งที่จะทำแฮดทริกใส่ ระยอง เอฟซี ได้ น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการปลดล็อกประตูแรกในลีกให้ได้

ทางด้านของ ทรู แบงค็อก แน่นอนเกมรุกของพวกเขาขึ้นชื่อลือนามเรื่องความอันตราย แต่ว่ายังมีจุดที่บกพร่องเรื่องการตัดสินใจเคลียร์บอลของกองหลังที่ยังไม่เด็ดขาดพอ ซึ่งก่อให้เกิดความผิดพลาดนำไปสู่การเสียประตู โดย 4 เกมหลังสุดในลีก ยังไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้ อีกทั้งในเรื่องของความเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งเป็นการบ้านชิ้นสำคัญของทาง มาโน่ ที่จะต้องแก้ไขให้ได้ต่อไป พร้อมกับจะเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ท้าทายสำหรับกุนซือลูกครึ่งบราซิล-เยอรมัน รายนี้ ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าดีพอหรือไม่กับการที่จะก้าวขึ้นสู่บังลังก์แชมป์ไทยลีก 2019

ถ้า บุรีรัมย์ เก็บชัยชนะได้ในเกมนี้ จะทำให้มี 37 คะแนน ทิ้งห่าง ทรู แบงค็อก 5 คะแนน ยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้่ต่อไป แต่หากว่า ทรู แบงค็อก สามารถบุกไปเก็บชัยชนะได้ถึงถื่น จะทำให้มี 35 คะแนน มีโอกาสขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูง และต้องลุ้นให้ 2 ทีมคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และสมุทรปราการ ซิตี้ ที่จะลงแข่งขันในวันเดียวกัน ให้ผลการแข่งขันออกมาเป็นใจต่อพลพรรค “แข้งเทพ” ด้วยเช่นกัน

เกมนี้ยังมั่นใจว่า ทางเจ้าบ้านจะอาศัยประสบการณ์ ทั้งความเคี่ยว ความมีวินัยในเกมรับ-เกมรุก ได้สมกับราคาทีมแชมป์ไทยลีก 6 สมัย อีกทั้งยังได้เปรียบด้านเสียงเชียร์ของเหล่าแฟนบอล “ปราสาทสายฟ้า” ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้ให้นักเตะกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง ด้วยการพาทีมเก็บ 3 คะแนน ที่ล้ำค่า ส่วน “แข้งเทพ” ที่มองว่าเกมรับยังถือว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญ แต่จะมีเกมรุกที่พร้อมสู้เข้าแลกแบบใส่ไม่ยั้งเข้ามาแทนตรงจุดนี้ ซึ่งเป็นภารกิจที่ไม่ง่ายของพวกเขาในการที่จะบุกไปเก็บชัยชนะออกจากถิ่น ช้าง อารีน่า

สุดท้ายนี้เชื่อว่าทั้งสองทีมจะเปิดเกมสู้ใส่กันอย่างเต็มที่ โดยต่างฝ่ายต่างทำผลงานออกมาได้อย่างดีที่สุด ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไรก็ตาม เพื่อให้สมศักดิ์ศรีกับสองยักษ์ใหญ่ใน ไทยลีก ณ เวลานี้

สกอร์ที่คาด

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-1 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

 

“Chunka”

 

ยอดนิยมในตอนนี้