รีเซต
TRUE TALK: โรดรี้... “เดอะ นิว เซอร์จิโอ บุสเก็ตส์” จิ๊กซอของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ... by "ทชภณ"

TRUE TALK: โรดรี้... “เดอะ นิว เซอร์จิโอ บุสเก็ตส์” จิ๊กซอของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ... by "ทชภณ"

TRUE TALK: โรดรี้... “เดอะ นิว เซอร์จิโอ บุสเก็ตส์” จิ๊กซอของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ... by "ทชภณ"
boston2018
7 สิงหาคม 2562 ( 02:09 )
1.1K
11

เมื่อฤดูกาล 2018-2019 ที่ผ่านมา โรดรี้ เพิ่งจะย้ายจากทีมบียาร์เรอัล ไปเล่นให้ทีมแอตเลติโก มาดริด ทีมที่ตัวเขาเคยอยู่สมัยเป็นเยาวชน โดยฤดูกาลที่แล้วเขาลงเล่นเป็นตัวจริงให้ทีมตราหมีไปถึง 32 นัด ยิงได้ 3 ประตู หนุ่มน้อยวัย 23 ปีชาวสเปนคนนี้ ถูกเปรียบเทียบว่าเป็น “นิว เซอร์จิโอ บุสเก็ตส์” กองกลางตัวรับที่เป๊ป กวาร์ดิโอลา ชื่นชอบเอามากๆ สมัยคุมบังเหียนทีมต่างดาวอย่างทีมบาร์เซโลน่า และเพียงแค่ฤดูกาลเดียวที่โรดรี้เล่นให้กับทีมรองแชมป์ลาลีก้าสเปน ฟอร์มและสไตล์การเล่นของเขาเข้าตาผู้จัดการสมองเพชร เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ต้องการหาผู้เล่นมาเป็นตัวตายตัวแทน แฟร์นันดินโญ ที่อายุปาเข้าไป 34 ปีแล้ว ตอนแรกเป๊ปเล็ง ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล ที่ตอนนี้ย้ายไปร่วมทีมสเปอร์สเรียบร้อยแล้ว แต่เป๊ปเปลี่ยนใจไปคว้าโรดรี้ และสร้างสถิติสโมสรยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาถึง 70 ล้านยูโรซะเลย เรียบร้อยเข้าโรงเรียนเรือไปสีฟ้า 5 ปี ยาวๆ

โรดรี้นี้มีดีไฉน….เป็นใครใยเป๊บจึงต้องสอยมา

 

(Pics Action / Shutterstock.com)

โรดรี้ หรือ โรดริโก้ เอร์นานเดซ คาสซานเต้ เกิดวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1996 ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน เว็บไซต์ lifebogger.com เปิดเผยว่า “โรดรี้เกิดมาในครอบครัวที่เคร่งเรื่องการศึกษาเอามากๆ แต่เขาอยากเป็นนักฟุตบอล ครั้งหนึ่งเขาจำเป็นต้องเล่นบอลไปพร้อมกับถือหนังสือเรียนไว้ที่มืออีกข้างนึงของเขา เพื่อเอาใจพ่อแม่ แต่ฟ้าเป็นใจให้เขาได้เป็นนักบอลอาชีพ สมใจอยาก ตอนอายุ 10 ขวบเขาได้เซ็นเข้าร่วมทีม Rayo Majadahonda ทีมท้องถิ่นในกรุงมาดริด ซึ่งปัจจุบันอยู่ในดิวิชั่นสามของประเทศสเปน ในขณะนั้น เขามีเพื่อนร่วมทีมอย่าง 2 พี่น้อง ลูคัส เอร์นานเดซ กับ ธีโอ เอร์นานเดซ ปีต่อมาทั้ง 3 คนได้ย้ายไปอยู่ทีมแอตเลติโก มาดริด และได้ฉายาร่วมกันว่า “เดอะ แฟมิลี่” เนื่องจากพวกเขามักจะอยู่ด้วยกันทั้งในและนอกสนามเสมอ แต่เส้นทางของเขาไม่ราบรื่นเหมือนสองพี่น้อง ด้วยเหตุผลของโค้ชเยาวชนที่บอกว่าเขามีร่างกายที่ไม่แข็งแรง โรดรี้จึงจำต้องย้ายไปร่วมทีมเยาวชนบียาร์เรอัล” แต่เขาไม่ย่อท้อ เพียงแค่ 2 ปีที่ได้ไปร่วมทีมบียาร์เรอัล เขามีส่วนสูงถึง 191 ซ.ม. และได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ จนสื่อสเปนเริ่มให้ขนานนามเขาว่าเป็น “Perfect Kid” หรือ “เด็กน้อยผู้สมบูรณ์แบบ” และอาจจะเป็นเพราะดีเอ็นเอความฉลาดของครอบครัวเขาที่ทำให้โรดรี้เล่นได้อย่างชาญฉลาด จนกระทั่งฤดูกาล 2018-2019 ทีมตราหมี ไปดึงโรดรี้กลับมา และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกไปถึง 32 นัด เขาเป็นคนที่เล่นได้ทั้ง 2 เท้า และสิ่งที่พิเศษของเขามากๆ ก็คือ “สามารถเอาตัวรอดเก่งเวลาถูกผู้เล่นเกมรุกเข้าบีบสูง” และนี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการคว้าไปร่วมทีมให้ได้ อุปนิสัยของโรดรี้เป็นคนค่อนข้างสมถะ เรียกได้ว่ากาวเรียกพี่ มาร์กา สำนักข่าวฟุตบอลสเปนเคยทำสกู๊ปเกี่ยวกับความประหยัดของเขา “ในขณะที่โรดรี้ได้เซ็นสัญญากับทีมตราหมี ซึ่งเขาน่าจะมีรายได้เป็นล้านแล้ว แต่ก็ยังอาศัยอยู่ที่หอนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงมาดริด แม้กระทั่งการเลือกซื้อรถยนต์ เขาก็ยังซื้อรถมือสอง Opel Corsa” โดยให้เหตุผลว่า “จะซื้อไปทำไมรถแพงๆ รถก็แค่ยาพาหนะที่พาคุณจากจุดนึงไปยังจุดนึง ก็เท่านั้นเอง” แต่ตอนนี้โรดรี้ได้ย้ายไปอยู่กับทีมมหาเศรษฐีอย่างแมนฯ ซิตี้ ชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร คงไม่น่าสนใจเท่าฟอร์มนัดแรกอย่างเป็นทางการของเขา

เดบิ้วท์อย่างเป็นทางการในศึก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับ ลิเวอร์พูล

เรียกได้ว่าเป็น “หน้าใหม่” คนเดียวในสนามเลยก็ว่าได้ กับเจ้าหนุ่มร่างโย่ง “โรดรี้” ชัวร์ป้าปอยู่แล้วว่า ตำแหน่งของเขายืนอยู่หน้ากองหลัง คอยควบคุมจังหวะของเกม คอยส่งบอลให้กับเพลย์เมกเกอร์ของทีมอย่าง เควิน เดอบรอย และ ดาวิด ซิลบา รวมไปถึงคอยถ่ายบอลออกด้านข้างเพื่อเปลี่ยนรูปแบบของการเล่น หลังจากเกมนี้ ที่แมนฯ ซิตี้เอาชนะจุดโทษลิเวอร์พูลไปได้ 5-4 คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ สมัยที่ 6 ไป โรดรี้ถือว่าสอบผ่านระดับหนึ่งเลย อาจจะมีจังหวะผิดพลาดช่วงครึ่งหลังเมื่อโดนลิเวอร์พูลบีบสูงบ้าง แต่โดยรวมเขาเล่นด้วยความมั่นใจ มีจังหวะผ่านบอลได้ในจังหวะขับขัน สามารถเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ได้บ้างแบบไม่เคอะเขิน โรดรี้สามารถเล่นได้ทั้งกองกลาง Box-to-Box เหมือนแฟร์นันดินโญ และตำแหน่ง Deep-lying Playmaker เหมือนเซอร์จิโอ บุสเก็ตส์ ที่คอยควบคุมจังหวะเกมโดยการผ่านบอลไปมา เพื่อรักษาการครองบอล ซึ่งนัดนี้เป๊ปสั่งให้เขาเล่นคล้ายกับบุสเก็ตส์ เวลาเล่นให้บาร์ซ่า คือ “พยายามควบคุมจังหวะเกม และแย่งบอลเพื่อมาเป็นฝ่ายครองบอลเพื่อโต้กลับ”

เรามาดูสถิติของเจ้าหนุ่มจากแดนกระทิงดุจากเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ กันดีกว่าว่าเป็นไงบ้าง

– ผ่านบอลไป 62 ครั้ง สำเร็จ 91%
– เอาชนะลูกกลางอากาศได้ 2 ครั้ง
– ปะทะกับผู้เล่นฝั่งตรงข้ามสำเร็จไป 2 ครั้ง
– เลี้ยงผ่านฝ่ายตรงข้ามไป 1 ครั้ง
– โยนบอลยาวไป 4 ครั้ง
– และทำฟาวล์ไป 1 ครั้ง

หากเทียบกับกองกลางตัวรับของหงส์แดงอย่าง “ฟาบินโญ่” ที่ไม่สามารถปะทะเอาชนะคู่แข่งได้เลย และมีโอกาสได้ผ่านบอลแค่ 31 ครั้ง น้อยกว่าโรดรี้ครึ่งนึงเลยทีเดียว แต่เอาจริงๆ แล้ว สถิติของทั้งเกม ทีมหงส์แดงจะดูดีกว่าหน่อยๆ โดยเฉพาะครองเกมได้ 52.8% และมีโอกาสยิงถึง 17 ครั้ง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ โรดรี้สามารถหยุดกองกลางตัวรุกของหงส์แดงได้ไว้หลายจังหวะ และยังมีส่วนร่วมเวลาที่ทีมเรือใบเล่นเกมบุก เว็บไซต์ www.theguardian.com ได้พูดหลังเกมสั้นๆ ไว้ว่า “เขาเล่นได้แน่นและมั่นคงมาก ไม่ตื่นเกมเลย จนกระทั่งช่วงท้ายเกมที่เกือบมอบของขวัญให้ โม ซาล่า เข้าไปทำประตู แต่นอกนั้นเขาก็ทำได้ดี” แมนฯ ซิตี้ จะลงเล่นเป็นทีมแรกของวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ออกไปเยือนสนามลอนดอน สเตเดี่ยม ของทีมขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเวลา 18.30 น. โรดรี้จะได้ลงเป็นตัวจริงหรือไม่? และฟอร์มเขาจะเป็นอย่างไร? ติดตามชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้ที่ทรูไอดีเลย และคุณจะไม่พลาดคู่สำคัญ แม้แต่วินาทีเดียว

 

“ทชภณ”

 

ยอดนิยมในตอนนี้