รีเซต
Director of Football คืออะไร แล้วทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องมี !!

Director of Football คืออะไร แล้วทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องมี !!

Director of Football คืออะไร แล้วทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องมี !!
Nopna
24 กันยายน 2562 ( 13:52 )
1.1K
2

Director of Football (DOF) คืออะไร แล้วทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องมี !!

(AP Photo/Danial Hakim)

เริ่มมีการพูดถึงกันอีกครั้้งแล้ว สำหรับตำแหน่ง Director of Football (DOF) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ควรจะมีเสียที หลังจากที่ฟอร์มการเล่นของทัพปีศาจแดงดูไม่ดีเอาเสียเลย เอาชนะได้เพียง 3 เกมจาก 7 เกมที่ลงเล่น (รวมทุกถ้วย) พร้อมกับฟอร์มการเล่นที่เหล่ากองเชียร์ต้องร้องโอดครวญ ว่าไม่มีอนาคต และไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนในการทำทีม ทำให้เกิดกระแสการต้องการ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค เริ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนคงจะยังสงสัยว่าตำแหน่งนี้คืออะไรแล้วทำไมต้องมี ดังนั้นวันนี้เราเลยมาไขข้อข้องใจกันเลยดีกว่า

ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค คืออะไร ?

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค นั้น เป็นตำแหน่งที่มีหน้าที่ดูแลจัดการทุกอย่างนอกสนามฟุตบอล อาทิ การวางรากฐานรูปแบบการเล่นของของสโมสร, การให้คำปรึกษาในแผนการเล่นกับผู้จัดการทีม, การสรรหาผู้จัดการทีมที่เข้ากับยุทธศาสตร์การทำทีม ไปจนถึง การเลือกซื้อนักเตะตามความต้องการของผู้จัดการทีม, การเจรจาและต่อสัญญานักเตะ ไปจนถึงการดูแลด้านการเงิน และการตลาดของสโมสร เช่นการหาผู้ให้การสนับสนุน เรียกได้ทำทุกอย่างภายนอกสนามฟุตบอล โดยเป้าหมายสำคัญสำคัญของตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค คือการวางรากฐานให้กับทีม ที่แม้จะเสียนักเตะคนไหน หรือ เปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมคนใด ก็ยังทำให้ทีมเดินหน้าไปยังแนวทางเดิมที่สโมสรได้วางยุทธศาสตร์ไว้แล้ว

(Photo by Henry Browne/Getty Images)

ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค คนไหนบ้างที่ประสพความสำเร็จ ?

ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคนั้น มีหลายคนที่เข้ามาบริหารและสามารถทำทีมให้มีอัตลักษณ์ รวมไปถึงประสพความสำเร็จในระยะยาว อาทิ มอนชี่ (Monci) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคที่ประสพความสำเร็จเป็นอย่างสูงกับ เซบีญ่า โดยในช่วง 15 ปีที่ตัวเค้าดำรงตำแหน่งนี้ใน เซบีญ่ากวาดถ้วยรางวัล มาถึง 9 ถ้วย และยังสามารถพาทีมได้แชมป์ ยูโรป้า ได้ถึง 5 สมัยในรอบ 10 ปี ซึ่งตัวเค้านั้นได้ทำงานกับกุนซือที่สลับสับเปลี่ยนมาถึง 8 คน แถมยังสามารถทำให้ เซบีญ่า ฟันกำไรจากการขายนักเตะชื่อดังมากมาย อาทิ ดานี่ อัลเวส,ชูลิโอ บาปติสต้า, คาร์ลอส บัคก้า หรือ อิวาน ราคิติช เป็นต้น

หรืออีกคนที่แฟนหงส์น่าจะรู้จักกันดีอย่าง ไมเคิล เอ็ดเวิร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคคนเก่งที่ดึง เยอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาเริ่มตำนานบทใหม่ของลิเวอร์พูล รวมไปถึงการเซ็นสัญญานักเตะคุณภาพดีมากมาย ทั้งในทีมชุดใหญ่และระดับเยาวชน เพื่อยกระดับทีมแบบก้าวกระโดด โดยตอนนี้นักเตะในทีมชุดใหญ่เกือบทั้งหมดแทบจะเป็นผลงานการดึงตัวของเค้า ด้วยปรัชญาการซื้อขายอย่าง “มันนี่บอล” ที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติในการเลือกซื้อผู้เล่น ทำให้ผู้เล่นที่เค้าดึงตัวเข้ามาคุ้มค่าและใช้งานได้เยี่ยมทุกตัว

(Photo by Henry Browne/Getty Images)

แล้วทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงควรต้องมีผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคเสียที ?

 

เรื่องนี้เรียกว่าต้องพูดกันยาวเลย เพราะว่า สโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยมีผู้อำนวยการเทคนิคอย่างเป็นทางการเลย ในยุคสมัยที่ทัพผีแดงยิ่งใหญ่ โค้ชบรมครูอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นคนถือสิทธิ์ขาดในการที่จะซื้อและขายนักเตะคนไหนก็ได้ เรียกได้ว่าเจ้าตัวเค้าควบตำแหน่งทั้งในตำแหน่งผู้จัดการทีมและผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคไปด้วย โดยมี เดวิด กิลล์ เป็น CEO มือขวาที่คอยจัดการทุกอย่างที่ท่านเซอร์ ต้องการ แต่เมื่่อการโบกมือลาทีมไปของทั้ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ เดวิด กิลล์ อำนาจในการซื้อขายก็ถูกยกไปให้ CEO คนใหม่อย่าง เอ็ด วู้ดเวิร์ด ที่ต้องยอมรับว่าตัว เอ็ด วู้ดเวิร์ด เป็น CEO ที่่เก่งในด้านการบริหารการเงินและการตลาดของทัพผีแดง ตัวเค้าสร้างกำไรและมูลค่าให้กับสโมสรมากมาย แต่ด้วยเส้นทางการเติบโตของเจ้าตัวที่เติบโตขึ้นมาในด้านการบัญชี ไม่ได้เติบโตขึ้นมาด้านฟุตบอล ทำให้ตัวเค้าเองไม่เข้าใจในเรื่องฟุตบอลได้อย่างถ่องแท้นัก สังเกตุได้จากการเลือกผู้จัดการทีมที่เปลี่ยนสไตล์ของผู้จัดการทีมไปเรื่อยๆ เช่น หลุย ฟาน กัล, โชเซ่ มูริญโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ดูแล้วแทบไม่มีอะไรเชื่อมโยงกันได้เลยในเรื่องสไตล์การทำทีม ทำให้นักเตะที่ผู้จัดการทีมแต่ละคนซื้อมาไม่สามารถใช้ต่อไปได้เมื่อมีการเปลี่ยนผู้จัดการทีม ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดคือในเคสของ อเล็กซิส ซานเชส และ โรเมลู ลูกากู ที่เรียกว่าแทบจะเหมือนเอาเงินไปละลายแม่น้ำ โดยเฉพาะตัว อเล็กซิส ซานเชส เจ้าของหมายเลข 7 คนล่าสุดที่แทบไม่ได้รับโอกาศลงเล่นเลยเสียด้วยซ้ำ นี่่ยังไม่รวมถึงการซื้อตัวนักเตะ, ต่อสัญญา, ปล่อยตัวนักเตะ ที่สร้างความสงสัยให้กับแฟนบอล อาทิ การปล่อยตัว อันเดอร์ส เอเรร่า ไปแบบฟรีๆ, การต่อสัญญามาร์คัส แรชฟอร์ด ด้วยตัวเงินมหาศาล ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า ตัว เอ็ด วู้ดเวิร์ด ไม่ได้มีความสามารถในด้านการเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคอย่างถ่องแท้

(AP Photo/Efrem Lukatsky)

แล้วถ้ามีผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคจะช่วยอะไร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้บ้าง ?

 

ต้องบอกว่าน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ได้หลายอย่างเลย ทั้งการให้คำปรึกษาในการจัดแผนระบบการเล่น, การวางยุทธศาสตร์ของทีมให้มีเป้าหมายชัดเจน ที่ใครเข้ามาหรือออกไปก็ไม่เปลี่ยนอัตลักษณ์ของทีม, การซื้อขายนักเตะ ที่ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคอาจจะมีเครือข่ายที่กว้างไกล ทำให้การมองหานักเตะชั้นดีหรือขายนักเตะออกไปรวมไปถึงจูงใจนักเตะชั้นนำเป็นไปได้ง่ายขึ้น ต้องเข้าใจกันก่อนว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นกุนซือที่เก่งและอนาคตไกล แต่ด้วยผู้บริหารอย่าง เอ็ด วู้ดเวิร์ด จะทำให้ตัวเค้าทำงานได้ยากขึ้นไปอีก ซึ่งผู้เขียนคิดว่าถ้า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตัดสินใจที่จะแต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค จากคนที่พวกเค้ามีข่าว อย่าง พอล มิสแชล, แดน แอตเวริส์ หรือ ตำนานของสโมสรอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์, เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อาจจะเป็นสาเหตุที่จะช่วยให้ทัพผีแดง เริ่มต้นออกจากวงโคจรนีี้แล้วเกิดใหม่แบบลิเวอร์พูลก็เป็นได้

บทความที่เกี่ยวข้อง:

เลื่อยขากันแล้ว !! ฟิล โจนส์ หลุดบ่นประโยคเด็ดกับ เอ็ด วู้ดเวิร์ด

– ดูบอลออนไลน์ ฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่
– คำถามเกี่ยวกับการสมัครแพ็กเกจ คลิกที่นี่

ยอดนิยมในตอนนี้