รีเซต
สกู๊ปซีเกมส์ : เปิดใจ"สินทวีชัย"พ่อบ้านช้างศึกไทยในซีเกมส์ 2019

สกู๊ปซีเกมส์ : เปิดใจ"สินทวีชัย"พ่อบ้านช้างศึกไทยในซีเกมส์ 2019

สกู๊ปซีเกมส์ : เปิดใจ"สินทวีชัย"พ่อบ้านช้างศึกไทยในซีเกมส์ 2019
Supachai
3 ธันวาคม 2562 ( 18:47 )
308
1

ผ่านไปแล้ว 4 นัด สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ แน่นอนว่าแฟนฟุตบอลชาวไทยต้องติดตามการแข่งขันในทุกๆนัดของทีมช้างศึกชุดซีเกมส์ 2019 ซึ่งแม้ว่านัดแรกพวกเขาจะพลาดท่าแพ้ให้กับอินโดนีเซียมา 0-2 แบบเซอร์ไพรส์แฟนฟุตบอลทั้งประเทศ แต่ก็คืนฟอร์มได้ทันควันเมื่อเก็บชัยชนะได้ใน 3 นัดหลังสุด รวมถึงช่วงบ่ายที่ผ่านมาที่ทีมช้างศึกเอาชนะ ทีมชาติลาวมาได้ 2-0 จากการทำคนเดียว 2 ประตูของศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าดาวรุ่งวัย 17 ปีจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้ทีมชาติไทยมีเพิ่มเป็น 9 คะแนน ก่อนจะไปลุ้นนัดสุดท้ายกับไม้เบื่อไม้เมาอย่างทีมชาติเวียดนามในวันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคมนี้ เวลา 15.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย

แน่นอนว่าผลงานที่ค่อยๆดีขึ้นยกต้องเครดิตให้กับทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชเป็นสำคัญ แต่สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือการดูแลความเป็นอยู่สารทุกข์สุขดิบของนักกีฬาไม่ว่าจะเป็นที่หลับที่นอน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงเรื่องสภาพจิตใจของนักเตะที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พวกเขาดึงศักยภาพของตัวเองมาให้มากที่สุด ที่ผ่านมาแฟนๆกีฬาชาวไทยคงได้ยินเรื่องราวความไม่พร้อมหรือไม่ลงตัวของเจ้าภาพมาโดยตลอดทั้งสนามฝึกซ้อมที่ไม่มีห้องแต่งตัว สภาพการจราจรติดขัดจนไม่สามารถไปซ้อมได้ แต่เรื่องต่างๆนี้ถูกคลี่คลายด้วยผู้อำนวยการฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ 2019 ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเพราะเขาคืออดีตตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติไทยอย่าง“ตี๋”สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ซึ่งเปลี่ยนบทบาทหน้าที่จากผู้ถูกดูแลมาเป็นผู้ดูแลแทนในขณะนี้ ผมจึงอดไม่ได้ที่จะขอไปพูดคุยกับเขาครับ

“ตี๋”สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ถือเป็นตำนานของฟุตบอลทีมชาติไทย เมื่อเขารับใช้ชาติมานานกว่า 14 ปี ติดทีมชาติชุดใหญ่ไป 79 นัด ก่อนจะประกาศหันหลังกับการรับใช้ชาติในวัย 36 ปีในปี 2018 ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลาที่ชาติต้องการเขาก็กลับมาด้วยบทบาทที่เปลี่ยนไปกับตำแหน่งผู้อำนวยการทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าการทำหน้าที่ตรงเกิดจากการที่อยากเห็นทีมช้างศึกคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้

“จุดเริ่มต้นของานนี้คือผมเองได้เข้าไปคุยกับนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลและเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ ก็เห็นว่าน้องๆ ยู-23 มีช่องว่างเรื่องอายุเยอะ อาจจะทำให้การสื่อสารอาจจะไม่เข้าใจกันบ้าง ก็เลยขอเสนอตัวไปทำหน้าที่ดูแลน้องๆ เหมือนเป็นพี่เลี้ยงพวกเขาเพราะผมเองก็ยังคงเล่นฟุตบอลอาชีพอยู่และอายุก็ไม่ต่างกันมาก รวมถึงมีประสบการณ์ต่างๆที่จะแนะนำพวกเขาได้ ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติและดีใจมากที่ได้ช่วยทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2019 และสมาคมกีฬาฟุตบอลฯครับ”

“ต้องยอมรับว่าเป็นบทบาทใหม่สำหรับผมในวงการฟุตบอลไทย ซึ่งผมยังต้องเรียนรู้หน้าที่นี้เพราะที่ผ่านมาผมเคยผ่านการเป็นนักฟุตบอลทีมชาติมาก่อน จึงพอจะรู้ว่านักกีฬาต้องการอะไรหรืออยากได้อะไร ซึ่งผมมองว่าตัวผมจะเป็นคนที่คอยประสานงานระหว่างน้องๆกับทีมงานได้เป็นอย่างดี เพื่อช่วยน้องๆให้ดึงศักยภาพของตัวเองมาให้ได้มากที่สุด โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องอื่นๆ”

“สิ่งที่สำคัญที่สุดของหน้าที่นี้คือการ เข้าถึงความรู้สึกของน้องๆทุกคนให้ได้ ผมเชื่อว่าด้วยช่วงอายุผมยังสามารถคุยกับพวกเขาได้ทุกเรื่อง ซึ่งผมมองว่าการสื่อสารที่เข้าถึงและการอำนวยความสะดวกให้ถูกจุด จะทำให้การปรับตัวในช่วงเวลาสั้นๆได้ดีที่สุด”

ผ่านมาถึงตรงนี้”พี่ตี๋”เองก็ได้เข้าไปคลุกคลีกับน้องๆชุดนี้รู้จักนิสัยใจคอและฝีเท้าเป็นอย่างดี คิดว่าน้องๆจะคว้าแชมป์มาครองได้หรือเปล่า

“ซีเกมส์ทุกวันนี้ไม่ใช่งานง่ายของเราอีกต่อไป เพราะว่าหลายๆทีมในอาเซียนก็มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งวิธีการเล่น สมรรถภาพของร่างกาย โดยเฉพาะในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งทุกทีมสูสีกันหมดขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสในเกมนั้นๆ แต่อย่างไรก็ตามเป้าหมายของเราก็คือ เหรียญทองเท่านั้น! ซึ่งน้องๆทั้ง 20 คนก็หวังไว้เช่นกัน

แม้ว่าจะมีบทบาทใหม่ในทีมช้างศึก แต่เจ้าตัวก็เปิดเผยกับผมว่า ยังไม่เคยคิดจะยุติเส้นทางสายลูกหนังของตนแน่นอน

(Photo from FB : Chonburi Football Club)

“ปีหน้ายังคงค้าแข้งกับชลบุรี เอฟซีเหมือนเดิมครับ ยังไม่เคยคิดว่าจะเลิกเล่นในเร็ววันนี้แน่นอน อยากจะเล่นไปให้นานที่สุด แต่อาจจะต้องดูเป็นปีต่อปี ถ้าหากไม่มีอาการบาดเจ็บ ก็คิดว่าจะเดินต่อบนถนนสายลูกหนังต่อไปจนกว่าจะเล่นไม่ไหวเลยครับ”

สุดท้ายนี้ด้วยประสบการณ์ของ”พี่ตี๋”ที่ผ่านฟุตบอลไทยมาทุกยุค ตั้งแต่ได้เงินเดือนหลักพันจนมาถึงหลักแสนในปัจจุบัน อยากฝากอะไรถึงแข้งยุคใหม่ของวงการฟุตบอลไทยบ้างครับ

“จริงๆ น้องๆ นักฟุตบอลรุ่นใหม่ๆ ก็มีทัศนคติในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ดีมากขึ้น ซึ่งผมอยากให้มีน้องๆขึ้นมาเยอะๆ แต่ชีวิตนักฟุตบอลอาชีพนั้นมันสั้นจึงอยากให้น้องๆวางแผนชีวิตทั้งในและนอกสนามให้ดี จะได้ประสบความสำเร็จในอาชีพต่อไปครับ”

นี่ก็คือเรื่องราวส่วนหนึ่งจากปากของผู้ที่ปิดทองหลังพระ! ทีมช้างศึก ฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปินส์ ซึ่งเป้าหมายของเขานอกจากจะอยากให้นักเตะทุกคนอย่างสุขสบายแล้ว ลึกๆในใจของเขาคงไม่ต่างกับพวกเราแฟนฟุตบอลชาวไทยที่อยากเห็นทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์สมัยที่ 17 มาครองให้จงได้ ซึ่งแฟนบอลทุกท่านอย่าลืมให้กำลังใจและติดตามเชียยร์พวกเขาได้ตลอดการแข่งขันนะครับ

สัมภาษณ์/เรียบเรียง : ต้อง แคลปแฮม

ไอไลท์ฟุตบอลซีเกมส์ชาย ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติลาว

ติดตามข่าวซีเกมส์อื่นๆ คลิกที่นี่

– ดูบอลสดฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่

ยอดนิยมในตอนนี้