เพราะเหตุใด"ช้างป่วย"จากซีเกมส์ จึงถูกปลุกกลายเป็น"ช้างศึก"ในสมรภูมิชิงแชมป์เอเชีย!!
หากก่อนหน้านี้มีใครมาฟันธงก่อนลงสนามว่า ทีมชาติไทย จะไล่ถล่ม บาห์เรน อย่างสนุกเท้า 5-0 ในนัดแรกของศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย คงสามารถตั้งสมมติฐานได้ว่าบุคคลนั้นคงไม่ได้ติดตามฟุตบอลก็เลยฟันธงไปมั่วๆ หรือไม่ก็ทายผลขำๆ เล่นมุกสนุกเอาฮาไปอย่างนั้นเอง
แต่สุดท้าย ผลที่ออกมาคือ ขุนพล “ช้างศึก” กระหน่ำบาห์เรนไป 5 เม็ดจริงๆ!!
ใครจะไปคิดครับว่า ทีมชาติไทย ชุดยู-23 ที่เพิ่งกระเด็นตกรอบแรกซีเกมส์ 2019 ชนิดที่แฟนบอลส่ายหัวกันทั้งประเทศไปหมาดๆเมื่อเดือนที่แล้ว จะกลับมาโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงระเบิดภูเขาเผากระท่อม (และไปปิ้งไก่ในป่า) เหมือนฉากในหนังบู๊ของอาฉลอง ภักดีวิจิตร
หรือไม่ก็เปรียบได้กลับพระเอกหนังจีนที่พ่ายแพ้จนกระอักเลือด จนต้องหนีเข้าไปฝึกวิทยายุทธกับปรมาจารย์ในหุบเขาลี้ลับ ก่อนจะกลับออกมาในเวอร์ชั่นอัพเกรดกระบวนท่าสุดแกร่งกล้าจนศัตรูต้องยอมศิโรราบ
ไม่แน่ใจว่า ช่วงหลังจากจบซีเกมส์ กุนซืออากิระ นิชิโนะ และลูกทีมไปทำอะไรกันบ้าง เพราะช่วงระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อม นิชิโนะค่อนข้างเก็บทุกอย่างเป็นความลับสุดยอด โดยการอุ่นเครื่องต่างๆ ไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปรายงานข่าว แม้กระทั่งผลการแข่งขันก็ยังไม่มีเล็ดลอดออกมาให้ทราบ
อย่างไรก็ตาม การที่ทีมฟุตบอลทีมหนึ่งจะกลับมาทำผลงานได้อย่างสุดยอด ชนิดเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ ต้องมีสาเหตุที่มาที่ไป และไม่ใช่เรื่องฟลุ๊กหรือบังเอิญแน่นอน
และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ “ช้างป่วย” แปลงร่างกลายเป็น “ช้างศึก” ในแฟนบอลไทยได้มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนในหน้า
ความกระหายพิสูจน์ตัวเอง
“เราโดนว่ามาจากซีเกมส์ พวกเราก็เก็บคำด่ามาสู้กัน” สุภโชค สารชาติ แนวรุกจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวหลังจบเกมถล่มบาห์เรน
เชื่อว่าแฟนบอลไทยจำนวนไม่น้อย ซึ่งอาจรวมท่านผู้อ่านด้วย (อิอิ) คงได้อ้าปากทั้งบ่นทั้งด่า ทั้งโพสต์ระบายอารมณ์บนโลกโซเชียล เพื่อระบายความหงุดหงิดที่มีต่อทีมชาติไทย ซึ่งตกรอบแรกซีเกมส์แบบชวนถอนหายใจ
ลองคิดดูว่า พวกเราแฟนบอลยังผิดหวังขนาดนี้ แล้วตัวนักเตะเองจะผิดหวังกันขนาดไหน…
อย่างไรก็ตาม ทัพช้างศึกสามารถนำความผิดหวังและเสียงวิจารณ์ต่างๆ เอามาใส่เครื่องปั่นรวมกัน แล้วแปรสภาพให้กลายเป็น “แรงผลักดัน” อย่างที่เจ้าเช็ค-สุภโชคได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ ซึ่งหากใครได้ชมเกมถ่ายทอดสดจะเห็นว่าแข้งไทยวิ่งสู้ฟัดเต็มที่ทุกตำแหน่ง เพื่อพิสูจน์ให้แฟนบอลไทยได้เห็นว่าพวกเขาไม่ยอมแพ้และต้องการแก้ตัวลบความผิดหวังจากซีเกมส์
พละกำลังที่กลับคืนมา
ก่อนหน้านี้มีหลายคนตั้งคำถามถึงการเตรียมทีมของอากิระ นิชิโนะ ซึ่งปล่อยลูกทีมไปพักผ่อนเต็มที่หลังจบซีเกมส์ และเพิ่งเรียกตัวมาเข้าแคมป์เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แถมช่วงปีใหม่ก็ยังปล่อยให้นักเตะได้พักอีก
กุนซือเลือดซามูไรให้เหตุผลว่าแข้งไทยชุดนี้กรำศึกหนักมาตลอดทั้งปี ทั้งในสโมสรและทีมชาติ ซึ่งผู้เล่นหลายคนมีภารกิจกับทัพช้างศึกทั้งชุดใหญ่ชุดเล็ก ไม่ว่าจะเป็น สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยิ่งตอนซีเกมส์ เจ้าภาพจัดโปรแกรมเตะสุดโหดแทบร้องได้โปรดกันถ้วนหน้า เพราะต้องลงสนามกันชนิดวันเว้นวันเลยทีเดียว
ดังนั้น นิชิโนะจึงต้องการให้ผู้เล่นมีเวลาพักแข้งอย่างเต็มที่ เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้พร้อมที่สุด ซึ่งก็ดูเหมือนว่า นิชิโนะจะตัดสินใจถูก เพราะแข้งช้างศึกสามารถวิ่งลุยกับบาห์เรนได้ตลอด 90 นาที แถมยังดูเหลือๆอีกต่างหาก
สังเวียนแข้งอันคุ้นเคย
ต้องไม่ลืมว่าซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ เจ้าภาพใช้สนาม “หญ้าเทียม” เป็นสังเวียนฟาดแข้ง ซึ่งดูจะสร้างปัญหาให้นักเตะไทยไม่น้อย และนำมาซึ่งผลการแข่งขันอันน่าผิดหวังอย่างที่เห็น
ขณะที่ทัวร์นาเมนต์ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย ขุนพลช้างศึกได้กลับมาวาดลวดลายบนสนามหญ้าจริง แถมยังเป็นสนามที่คุ้นเคยในถิ่นของตัวเอง บวกกับเสียงเชียร์ของแฟนบอลที่อาจจะยังไม่มากนักในนัดแรก แต่ก็ถือเป็นกำลังใจให้ทัพช้างศึกได้รับรู้ว่ายังมีหลายคนที่พร้อมหนุนหลังพวกเขาเสมอ
และมั่นใจได้เลยว่า จากฟอร์มอันร้อนแรงในเกมกับบาห์เรน จะส่งแรงกระเพื่อมไปยังเกมนัดต่อไปกับออสเตรเลีย ในวันเสาร์นี้ เวลา 20.15 น. ซึ่งจะมีแฟนบอลเข้ามาตะโกน “ไทยแลนด์สู้ๆ” กระหึ่มราชมังคลากีฬาสถานแน่นอน
ลุงโนะเริ่มปล่อยของ
หากยังจำกันได้ ก่อนไปลุยซีเกมส์ 2019 นิชิโนะจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทีมชาติชุดใหญ่ ที่ลงทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก มากกว่า ส่วนการเตรียมตัวของชุดซีเกมส์ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ช่วยอย่าง “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน เป็นหลัก โดยที่นิชิโนะไม่ได้มีเวลาลงมาคลุกคลีหรือทำความรู้จักกับผู้เล่นชุดนี้มากเท่าที่ควร
ผิดกับศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย ซึ่ง “ลุงโนะ” โฟกัสกับขุนพลช้างศึกชุดนี้ได้อย่างเต็มที่ นั่นทำให้อดีตเฮดโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นสามารถเรียนรู้นักเตะแต่ละคน พร้อมกับวางระบบและใส่แท็คติกให้กับลูกทีมได้เต็มอัตราศึก
ตลอดจนกึ๋นของนิชิโนะ ซึ่งแสดงให้เห็นจากเกมนัดล่าสุด โดยส่งผู้เล่นสำรองลงไปมีส่วนร่วมกับประตูของทีมถึง 3 ลูก ได้แก่ กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ ซึ่งจ่ายให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลุดเข้าไปยิง และ เจริญศักดิ์ วงษ์กร ที่ตะบันคนเดียว 2 เม็ดในช่วงท้ายเกม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
>> ไทยแลนด์สู้ๆ!! เช็คผลล่าสุด ทีมชาติไทย และโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020
>> ยิงโหดเหมือนโกรธมา!! “ช้างศึก”ตกมัน ขยี้บาห์เรน 5-0 ประเดิมศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย
– ดูบอลสดฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่
