ทรรศนะ ศึกพรีเมียร์ลีก บ็อกซิ่ง เดย์

ทรรศนะ ศึกพรีเมียร์ลีก เกมบ็อกซิ่ง เดย์
        

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  พบ  นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
เวลา : 22:00 น.
ช่องทางการถ่ายทอดสด :   Truesport 1, True HD2

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของบรมกุนซือของทีม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีปัญหาเพียงเช็ความฟิตทั้ง ราฟาเอล มีลุ้นได้ตัว ชินจิ คากาวะ อาจจะมีชื่อในทีมในเกมวันนี้ ตัวหลักทั้ง ดาบิด เด เกอา, คริส สมอลลิ่ง, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วีดิช, ปาทริซ เอฟร่า, ดาร์เร็น เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์, แดนนี่ เวลเบ็ค, แอชลี่ย์ ยัง และศูนย์หน้า ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้”เอร์นานเดซ จับคู่ “RVP” โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ล่าตาข่าย

“สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ของกุนซือ อลัน พาร์ดิว มีปัญหาเพียบฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, สตีเว่น เทย์เลอร์, โยฮัน กาบาย และไรอัน เทย์เลอร์ เจ็บอยู่ทั้งหมด  แถม ชีค ทิโอเต้ ติดโทษแบนอยู่ หมดสิทธิ์ลงสนาม แข้งหลักๆพร้อมหน้าทั้ง ทิม ครูล, ไมค์ วิลเลียมส์สัน, ดาวิเด้ ซานตอน, ฟาบริซิโอ้ โคลอชชินี่, เวอร์นัน อานิต้า, ซิลแว็งต์ มาร์คโวซ์, โจนาส กูเตียร์เรซ ,กาเบรียล โอแบร์ต็อง ส่วนคู่หน้า เด็มบ้า บา ยืนคู่ ปาปิส ซิสเซ่ ล่าสกอร์เกมนี้

สถิติการพบกัน 10 นัดหลังสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ยอดเยี่ยม ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 1 ส่วนเกมในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ชนะ 3 เสมอ 2 ไม่เคยแพ้นิวคาสเซิ่ลเลย เข้าสู่ช่วงบ็อกซิ่งเดย์เกมนี้ สถิติของยูไนเต็ดดีมากทีเดียว แม้นัดที่แล้วจะสะดุดเสมอก็ตาม เชื่อว่าการโรเตชั่นแข้งของ เฟอร์กี้ กุนซือคนเก่งไม่น่าเป็นผลกระทบมาก ส่วนทางทีมเยือน อาการหนักทีเดียว สำหรับการโดนแบนของ ติโอเต้ และการบาดเจ็บของกาบาย น่าจะมีผลมากทีเดียวกับประสิทธิภาพในเกมของนิวคาสเซิ่ล และสุดท้ายชัยชนะก็ยังน่าจะเป็นของ ยูไนเต็ด แบบไม่ยากเย็นนัก แม้สกอร์จะไม่ขาดก็ตามที…..

ต.ตั้ม ฟันธง : ผีแดง เชือดนิ่มในบ้าน 2-0

นอริช ซิตี้  พบ  เชลซี
เวลา : 22:00 น.
ช่องทางการถ่ายทอดสด :   Truesport 2

“นกขมิ้น” นอริช ซิตี้  โดยกุนซือ คริส ฮิวจ์ตัน มีปัญหาทั้ง สตีเว่น วิทเทคเกอร์, จอห์น รัดดี้, แอนดรูว์ เซอร์แมน และไรอัน เบนเน็ตต์ บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงแน่นอน ส่วนตัวสำคัญอย่าง แกรนท์ โฮลท์ ยังต้องลุ้นความฟิต หลังเจ็บในเกมที่แล้ว เกมนี้จะใส่ตัวหลักๆทั้ง รัสเซลล์ มาร์ติน, เซบาสเตียน บาสซง, ฮาเวียร์ การ์ริโด้, อเล็กซานเดร์ เท็ตเตย์, แอนโธนี่ พิลคิงตัน, เวสลี่ย์ ฮูลาแฮน โดยทิ้งหน้าเป้า สตีฟ มอร์ริสัน เป็นตัวจริงทั้งหมดในเกมนี้

“สิงห์บลู” เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมนี้ กุนซือของทีม ราฟาเอล เบนิเตซ มีปัญหาเพียง จอห์น เทอร์รี่ และไรอัน เบอร์ทรานด์ ยังน่าจะไม่มีชื่อต่อไปจากลิสต์บาดเจ็บ ส่วน จอห์น โอบี มิเกล น่าจะคืนสนามอีกครั้ง หลังพ้นโทษแบนกลับมา ตัวหลักเกมนี้จะเป็น ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฆวน มาต้า, เอด็อง อาซาร์, เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวจริงในเกมวันนี้

สถิติการพบกัน 10 นัดหลังสุด นอริชดูเป็นรองอยู่ จากการชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 5 แต่เกมในถิ่นแคร์โรล โร้ดสุดสูสี ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1 ด้วยปัจจัยที่ปีนี้ นอริช ฟอร์มดีมากทีเดียว แม้เกมก่อนจะสะดุดพ่ายก็ตาม ส่วนทีมเยือนไม่ต้องพูดถึง ด้วยสกอร์จากนัดก่อนรับประกันความโหดได้เป็นอย่างดี กำลังคึกได้ใจทีเดียว วันนี้ ด้วยคุณภาพของทีม เชลซี เหนือกว่าแน่นอน อยู่ที่ว่าจะบุกไปยิงนอริชได้กี่ตุงเท่านั้น….แต่เชื่อว่าจะไม่ขาดลอย

ต.ตั้ม ฟันธง : เชลซี มีเฮนอกบ้าน 2-1

ซันเดอร์แลนด์  พบ  แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เวลา : 22:00 น.
ช่องทางการถ่ายทอดสด :   Truesport 3, True HD

“แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ กุนซือของทีมอย่าง มาร์ติน โอนีล ปัญหาในทีม ตัวเจ็บมีเพียง อดัม จอห์นสัน เจ็บมากนัดที่แล้ว ต้องลุ้นกันหนักทีเดียว ที่จะได้ฟัดกะต้นสังกัดเก่า พร้อมกับเซบาสเตียน ลาร์สสัน ที่ยังไม่ฟิตเท่าที่ควร น่าจะเป็นเดวิด เมย์เยอร์ เสียบแทนในเกมนี้ โดยผู้เล่นตัวหลักที่จะลงสนามจะใช้ ซิมง มิโญเล่ต์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, เวส บราวน์, จอห์น โอเชีย, จอร์จ โคลแบ็ค, ลี คัตเทิ่ลโมล,เจมส์ แม็คคลีน และ สตีเว่น เฟล็ตเชอร์ เป็นตัวจริงในเกมนี้

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าในซีซั่นก่อน กุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ เกมนี้มีปัญหาทั้ง มีเพียง ซาเมียร์ นาสรี่ บาดเจ็บอยู่รายเดียว ส่วน แว็งซองต์ กอมปานี และมาริโอ บาโลเตลลี่ หายเจ็บพร้อมมีชื่อในเกมนี้  และได้ลุ้น อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ กับกาแอล กลิชี่ สองแข้งแบ๊คซ้ายลุ้นผ่านความฟิตในเกมนี้ เกมนี้ตัวหลักๆ ทั้ง โจ ฮาร์ท, มาเตญ่า นาสตาซิค, ปาโบล ซาบาเลต้า, ยาย่า ตูเร่, ฆาบี การ์เซีย, ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่ และคาร์ลอส เตเบซ พร้อมลุยในเกมนี้

สถิติการพบกัน 10 นัดหลังสุด ซันเดอร์แลนด์เป็นรองเยอะ ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 6 แต่เกมในถิ่นสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ สูสีมากจริงๆ ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 จากนัดก่อนที่ชนะกันมาทั้งคู่ด้วยสกอร์เฉียดฉิว แต่ปัจจัยแนวรับที่มีปัญหาในช่วงหลังของเจ้าบ้าน  ยังน่าห่วงมาก ผลงานซีซั่นนี้ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นความต่างทีเดียว สวนทางกับเจ้าบ้านที่ได้ความมั่นใจหลังได้กัปตันคนเก่งคืนทีมอย่าง กอมปานี เกมนี้ยังเชื่อกระดูกบอลและความเขี้ยวในผู้เล่นของ ซิตี้ ที่น่าจะพาทัพเรือใบบุกเอาชนะแมวดำถึงถิ่นไปได้แบบสนุก

ต.ตั้ม ฟันธง : เรือใบ บุกรัวแมวดำ 2-0

เร้ดดิ้ง  พบ  สวอนซี ซิตี้ 
เวลา : 22:00 น.
ช่องทางการถ่ายทอดสด :   Truesport 5

“น้องใหม่” เรดดิ้ง โดยกุนซือ ไบรอัน แม็คเดอม็อตต์ ปัญหามีเพียบ เจสัน โรเบิร์ตส์, ฌอน มอร์ริสัน และอเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ย์ ชื่อที่กล่าวถึงยังเจ็บอยู่ทั้งหมด ไม่มีชื่อในเกมนี้แน่นอน โดยพร้อมลงสนามทั้ง อดัม เฟเดริซี่, อเล็กซ์ เพียร์ซ, อาเดรียน มาเรียอัปป้า, เอียน ฮาร์ท, โจบี แม็คอานัฟฟ์, จิมมี่ เคเบ้, แดนนี่ กัทธรี่, เจ็ม คาราแกน, แกเร็ธ แม็คเกลียรี่ และ พาเวล โปเกรบเนียค เป็นแกนหลักในเกมนัดนี้

“หงส์ขาว” สวอนซี ซิตี้ กุนซือ ไบรอัน เลาดรูป มีปัญหาเพียง อังเคล รานเคล ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่จะได้  คี ซุง ยอง และปาโบล เอร์นานเดซ หายเจ็บพร้อมคืนชุดตัวหลักของทีมอีกครั้ง โดยจะจัดตัวที่ดีที่สุดลง สนามทั้ง มิเชล ฟอร์ม, ดไวท์ เทียนเดลลี่, ชิโก้ ฟลอเรส, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, เบน เดวี่ส์, คี ซุง ยอง, เวย์น เราจ์เล็ดจ์, โจนาธาน เดอ กุซมัน, และ มิชู เป็นหน้าเป้าเหมือนเคย

สถิติการพบกัน 10 นัดหลังสุด เรดดิ้งเป็นรองบานเบอะ ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 4 แต่เกมในมาเดจกี้ สเตเดี้ยมก็สูสีทีเดียว ชนะเสมอแพ้อย่างละเกม วันนี้เรดดิ้ง บ๊วยของตาราง กลับมาเฝ้ารังตัวเองแบบเสียจิตเล็กๆจากเกมก่อน ที่โดนยิงช่วงทดเจ็บท้ายเกมพ่ายแบบเจ็บปวด ต่างกับทีมเยือนหงส์ขาว ที่เปิดบ้านต้านจ่าฝูงอยู่หมัด เจ๊าแบ่งแต้มมาได้ เกมนี้ด้วยคุณภาพของทีมการันตีได้ว่า สวอนซี ซิตี้ ไม่น่าจะแพ้แน่นอนเป็นอย่างน้อย

ต.ตั้ม ฟันธง : หงส์ขาว จิกบ๊วยหืด 1-0

เอฟเวอร์ตัน  พบ  วีแกน แอธเลติก
เวลา : 22:00 น.
ช่องทางการถ่ายทอดสด :   Truesport 6

“ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เดวิด มอยส์ กุนซือของทีม  จะได้ ดาร์รอน กิ๊บสัน อุทธรณ์ใบแดงผ่านพร้อมลงสนาม  แต่เพื่อนหัวฟูอย่าง มารูยาน เฟลไลนี่ ยังติดโทษแบนต่ออีกเกม มารูยาน เฟลไลนี่ ติดโทษแบน  หลังหายเจ็บแล้ว ตัวผู้เล่นพร้อมหน้าทั้ง ทิม ฮาเวิร์ด, ซีมุส โคลแมน, จอนนี่ ไฮติงก้า, ฟิล จากีลก้า, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล เนวิลล์, เควิน มิราญาส, สตีเว่น พีนาร์, ลีออน ออสมัน, สตีเว่น เนย์สมิธ, และ กองหน้าตัวเป้า นิคิช่า เยลาวิช พร้อมล่าสกอร์

“เดอะ ลาติกส์” วีแกน แอธเลติก กุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ มีปัญหาตัวเจ็บ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์ บาดเจ็บไม่มีชื่อในเกมนี้แน่นอน แต่ทาง แกรี่ คาลด์เวลล์ พร้อมกลับมาเป็นกัปตันตัวจริงอีกครั้ง พร้อมกับ อีวาน รามิส  ตัวหลักทั้ง อาลี อัล ฮับซี่, แกรี่ คาลเวลล์, จอร์ดี้ โกเมซ, เบน วัตสัน, เจมส์ แม็คอาเธอร์, ฌอน มาโลนี่ย์, อารูน่า โคเน่และ กองหน้าตัวเป้าใช้ ฟรังโก ดิ ซานโต้  เป็นตัวจริงในเกมนี้

สถิติการพบกัน 10 นัดหลังสุด เอฟเวอร์ตันทำได้ดีมากทีเดียว ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 1 แถมเกมในบ้าน กูดิสัน ปาร์ค ก็ชนะได้ถึง 3 เสมอเกมเดียว และไม่เคยแพ้วีแกนเลย วันนี้ดูรวมๆแล้ว เอฟเวอร์ตันแม้จะไม่มี เฟลไลนี่ ก็ยังเชื่อว่า 3 แต้มก็ไม่น่าจะไปไหน…. และน่าจะขาดกว่า 2 ลูกด้วย

ต.ตั้ม ฟันธง : ท็อฟฟี่ ทะลวงไส้ 3-1

ฟูแล่ม  พบ  เซาท์แธมป์ตัน
เวลา : 22:00 น.
ช่องทางการถ่ายทอดสด :   Truesport 7 [161]

“เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม โดยกุนซือ มาร์ติน โยล  จะได้ตัว สตีฟ ซิดเวลล์ พ้นโทษแบนคืนทีมแล้ว  แต่ไบรอัน รุยซ์, มาฮามาดู ดิยาร์ร่า และมลาเดน เพทริช ยังต้องลุ้นความฟิตก่อนทั้งหมด ส่วนชุดตัวจริงยังอยู่ทั้ง มาร์ค ชวาร์เซอร์, เบรเด้ ฮังเกลันด์, คริส แบรด, คาริม ฟราย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, อเล็กซ์ คากานิกลิช, จอร์จิออส คารากูนิส คู่หน้า ฮูโก้ โรดาเยก้า จับคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ พร้อมลงสนาม

“นักบุญ” เซาท์แธมป์ตัน กุนซือ ไนเจล แอดกิ้นส์ จะไม่มี อดัม ลาลาน่า เพียงคนเดียว ชื่อในเกมนี้เป็นอย่างน้อย โดยชุดตัวจริงเกมนี้ทั้ง เปาโล คาซซานิก้า, ยอร์ช ฮูเฟลด์, นาธาน ไคลน์, มายะ โยชิดะ, ริชาร์ด แชปโลว์, กาสตัน รามิเรซ, ไมเคิ่ล พานชอน,มอร์แกน ชไนเดอร์แลง, ริคกี้ แลมเบิร์ต, เจย์ โรดิเกรซ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

สถิติการพบกัน 9 นัดหลังสุด ฟูแล่มดีกว่าเล็กๆ ชนะ 3 เสมอ 5 แพ้ 1 แต่ในคราเวน ค็อตเทจชนะ 3 เสมอเกมเดียว ไม่เคยแพ้นักบุญเลย ฟูแล่มวันนี้กลับมาในถิ่นตัวเอง น่าจะคืนฟอร์มเก่งเสียที แม้ทีมเยือนจะมีเกมรุกที่น่ากลัว แต่จุดบอดเกมรับ น่าจะเป็นสิ่งที่เป็นกลไกสู่ความพ่ายแพ้ไปในเกมนี้ของ เซาท์แธมป์ตัน เหมือนเคย

ต.ตั้ม ฟันธง : เจ้าสัว รัวนักบุญ 3-1
 

ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส  พบ  เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
เวลา : 22:00 น.
ช่องทางการถ่ายทอดสด :   True 10

“ทหารเสือราชินี” ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส เกมนี้ แฮร์รี่ เรดแนปป์ กุนซือคนใหม่ มีปัญหาปาร์ค จี ซุง, บ๊อบบี้ ซาโมร่า และแอนดรูว์ จอห์นสันเจ็บอยู่ทั้งหมด ส่วนทาง อาร์กมองต์ ตราโอเร่ และเนดุม โอนูโอ ยังต้องลุ้นความฟิตก่อนลงสนาม จากอาการบาดเจ็บที่เป็นอยู่  แต่จะได้ ฮูลิโอ เซซาร์ หายเจ็บพร้อมกลับมาเฝ้าเป็นเบอร์ 1 ให้ทีมอีกครั้ง โดยตัวหลักที่จะลงสนามทั้ง ชูลิโอ เซซาร์, สเตฟาน เอ็มเบีย, คลิ้นท์ ฮิลล์, ฟาบิโอ, แซมบ้า เดียคิเต้, เอสเตบัน กราเนโร่, เจมี่ แม็กกี, อาเดล ทา

รับต์ และศูนย์หน้าตัวเป้า ฌิบริล ซิสเซ่ ล่าตาข่าย

“เดอะ แบ๊กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน มาเยือนเกมนี้ กุนซือ สตีฟ คล้าร์ก มีปัญหาเพียง เคลาดิโอ ยาคอป บาดเจ็บอยู่ แต่จะได้ตัว ยุสซุฟ มูลุมบู พ้นโทษแบนพร้อมคืนสนามอีกครั้ง เกมนี้จะใช้ตัวหลักทั้ง โจนาส โอลสัน เกร็ก ดอว์สัน, กาเบรียล ทามาส, โซลตัน เกร่า, คริส บรันท์, เกรแฮม ดอร์แรนส์ คู่หน้าเกมนี้ใช้บริการ เชน ลอง กับ ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ โดยมี โรเมลู ลูกากู เป็นตัวสอดแทรก

สถิติการพบกัน 10 นัดหลังสุด ควีนส์ปาร์คเป็นรองเพียบ ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 5 แถมในถิ่นก็ยังเป็นรองอีก ชนะ 1 เสมอและแพ้อย่างละ 2 เกม วันนี้คิวพีอาร์ ที่ยังจมอยู่ท้ายตาราง ต้องมาเจอกับ เวสต์บรอมวิช ที่ฟอร์มดีผิดหูผิดตาในซีซั่นนี้ วัดจากคุณภาพและตัวผู้เล่นของทีม ก็ยังดูไม่ห่างกันมาก แต่ยังเชื่อว่าทีเด็ดทีขาด ขอชี้ไปที่ “เดอะ แบ็กกี้ส์” ไม่น่าจะแพ้ในเกมนี้เป็นอย่างน้อย โอกาสออกเสมอสูงทีเดียวในเกมวันนี้

ต.ตั้ม ฟันธง : แบ๊กกี้ส์ บุกแบ่งแต้ม 2-2

แอสตัน วิลล่า  พบ  ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
เวลา : 00:30 น.
ช่องทางการถ่ายทอดสด :   Truesport 3, True HD2

“สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า เกมนี้กุนซือ พอล แลมเบิร์ต มีปัญหาเพียง ดาร์เรน เบนท์ เจ็บเอ็นร้อยหวาย ยังลงไม่ได้ต่ออีกเกม ส่วนทาง รอน ฟลาร์, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ และชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย ต้องลุ้นความฟิตก่อนเกมทั้งหมด ตัวหลักๆที่น่าจะได้เล่นทั้ง แบรด กูซาน, โจ เบ็นเน็ตต์, คีแรน คล้าร์ก, นาธาน เบเกอร์, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, แบร์รี่ แบนแนน, อันเดรียส ไวมันน์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, คริส เฮิร์ด และคริสเตียน เบนเตเก้ ยืนเป็นหน้าเป้าในเกมวันนี้
 
“ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์  กุนซือ อังเดร วิลลาส โบอาส ยังมีปัญหาที่ คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ และเบนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ ยังบาดเจ็บอยู่ แต่จะได้ สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ พร้อมคืนสนามอีกครั้ง โดยตัวหลักเกมนี้จะเป็น แบรด ฟรีเดล, วิลเลี่ยม กัลลาส, ไคล์ วอล์คเกอร์, แยน แฟร์ทองเก้น, ไคลจ์ นอร์ตัน, อาร่อน เลนน่อน, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์, ซานโดร และหน้าเป้า เจอร์เมน เดโฟ ลงพร้อมหน้าเกมนี้

สถิติการพบกัน 10 นัดหลังสุด แอสตัน วิลล่าดูเป็นรองอยู่ ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 5 และในบ้านก็ยังเป็นรองเล็กๆเช่นกัน จากสถิติ ชนะ 1 เสมอและแพ้อย่างละ 2 เกม วันนี้ ไล่ดูจากตัวผู้เล่นแล้ว วิลล่า แม้จะโดนมายับในนัดก่อน ยังคงชุดเดิมที่เสียขวัญดาวรุ่งกันพร้อมเหมือนเคย ส่วนทีมเยือนมีปัญหาในเกมรุกในนัดก่อน เจาะตาข่ายไม่ได้ วันนี้น่าจะอัดอั้นมาพอที่จะบุกไปจัดการ สิงห์ผงาด ถึงถิ่นที่ยังดูเสียขวัญอยู่แบบได้ลุ้นกันสนุกทีเดียว

ต.ตั้ม ฟันธง :  ไก่เดือยทอง สองตุง 2-0

สโต๊ค ซิตี้  พบ  ลิเวอร์พูล
เวลา : 02:45 น.
ช่องทางการถ่ายทอดสด :   Truesport 1, True HD2

“ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ค ซิตี้ ทีมเยือมเกมนี้ กุนซือ โทนี่ พูลิส หมดสิทธิ์ใช้งาน ไมเคิ่ล โอเว่น มีสิทธิ์ลุ้นลงสนามอีกครั้ง พร้อมกับเพื่อนร่างโย่งกับ ปีเตอร์ เคร้าซ์ ส่วนตัวหลักทั้ง โธมัส โซเรนเซ่น, ไรอัน ชอว์ครอส, เจมี เนสส์,แอนดี้ วิลกินสัน, แมทธิว เอ็ทเธอริงตัน, วิลสัน ปาลาซิออส, ดีน ไวท์เฮด, โจนาธาน วอลเตอร์ ชาร์ลี อดัมส์ และ ปีเตอร์ เคร้าช์ พร้อมลงสนาม

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ของกุนซือ แบรนดอน ร็อดเจอร์ส มีปัญหาในทีมโดย ฟาบิโอ บอรินี่ ที่กระดูกเท้าแตกพักยาว โจ อัลเลน ยังไม่พร้อมเกมนี้ เพียง 2 คนเท่านั้น เกมนี้ตัวหลักๆพร้อมหน้าทั้ง โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, ดาเนี่ยล แอกเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, นูริ ซาฮิน, ลูคัส เลว่า, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, โจ อัลเลน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ หลุยส์ ซัวเรซ

สถิติการพบกัน 10 นัดหลังสุด สโต๊คดูเป็นรอง ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 4 แต่ในถิ่นบริททานเนีย สเตเดี้ยม ทำได้ดีกว่าเล็กๆ ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้แค่นัดเดียว แต่การพบกันในช่วงหลัง ต้องบอกว่า หงส์แดงเอง เหมือนจะแพ้ทางบอลสไตล์นี้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้าบ้านสโต๊ค โดยการพบกันซีซั่นนี้ที่บ้านลิเวอร์พูลก็จบด้วยผลเสมอ แม้ฟอร์มหงส์แดงจะเปรี้ยงปร้างในนัดก่อนก็ตาม แต่เจอทีมเหนียวแพ้ยากอย่างสโต๊คที่นัดก่อนออกไปบุกแบ่งแต้มสเปอร์ถึงถิ่น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าวันนี้ ก็ยังน่าจะออกหน้าเดิมอีกครั้งเป็นแน่แท้

ต.ตั้ม ฟันธง :  ช่างปั้นหม้อ เหนียวในรัง 1-1

ติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวโซเซียลออนไลน์ได้ ที่

  >> Truesport Facebook << หรือ >> Truesport Twitter <<

  คลิกชม ตารางถ่ายทอดสดฟุตบอล ได้ที่นี่

เรียบเรียงข้อมูลโดย ต.ตั้ม
26.12.12
10.00