รีเซต
สิงห์ ต่อสัญญา เลสเตอร์ ซิตี้ ทุ่ม 250 ล้าน-ส่งเด็กไทย ผ่านโครงการ ฟอกซ์ ฮันท์

สิงห์ ต่อสัญญา เลสเตอร์ ซิตี้ ทุ่ม 250 ล้าน-ส่งเด็กไทย ผ่านโครงการ ฟอกซ์ ฮันท์

สิงห์ ต่อสัญญา เลสเตอร์ ซิตี้ ทุ่ม 250 ล้าน-ส่งเด็กไทย ผ่านโครงการ ฟอกซ์ ฮันท์
6 ตุลาคม 2558 ( 15:34 )
496



“สิงห์” ต่อสัญญา “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้  ทุ่ม 250 ล้าน

พัฒนาเด็กไทยฝึกประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก ผ่านโครงการ “ฟอกซ์ ฮันท์”

คุณภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ร่วมกับ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ แถลงข่าวการต่อสัญญาโกลบอลพาร์ทเนอร์ ระหว่าง “สิงห์” กับ สโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ที่โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ รางน้ำ เมื่อวันอังคารที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

          ในการแถลงข่าวการต่อสัญญาครั้งนี้ คุณภูริต ภิรมย์ภักดี กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีอย่างมากที่ สิงห์ กับ เลสเตอร์ เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสนามและนอกสนาม เรามีความยินดีในการให้การสนับสนุนทีมของคนไทย โดยเฉพาะทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมของคนไทยที่ประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่แบรนด์ไทยและสโมสรที่มีคนไทยเป็น .เจ้าของได้ยืนหยัดอยู่ในวงการกีฬาระดับโลกอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นลีกที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกคลั่งไคล้และให้ความสนใจมากที่สุด เราพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรให้การสนับสนุน และร่วมทำกิจกรรมต่างๆอย่างใกล้ชิดกับทีมเลสเตอร์ ซิตี้ เหมือนเช่นเดิมที่ผ่านมา

“สำหรับความร่วมมือต่อเนื่องโดยครั้งนี้ สิงห์  ได้เพิ่มมูลค่าในการสนับสนุนสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้  เพื่อให้ทางสโมสรได้นำไปใช้ในการพัฒนาสโมสร และเดินตามฝันในการก้าวสู่ทีมอันดับต้นๆของพรีเมียร์ลีก รวมทั้งกิจกรรมต่างๆของสโมสรที่จะเกิดขึ้นร่วมกัน  ซึ่งสิ่งที่เป็นประโยชน์นอกเหนือจากกิจกรรมต่างๆที่เราได้ร่วมทำขึ้นแล้วอย่างมากมายกับแฟนๆฟุตบอลแล้ว เรายังได้นำโอกาสของการเป็นโกลบอล พาร์ทเนอร์ มาจับมือร่วมกันต่อยอดพัฒนาเด็กไทย ในโครงการ “ฟ็อกซ์ ฮันท์” ที่เป็นโครงการที่ทางเลสเตอร์ซิตี้ได้ริเริ่มขึ้น เพื่อนำนักฟุตบอลระดับเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 16 คน เข้าร่วมฝึกซ้อมฟุตบอล พร้อมทั้งใช้ชีวิตและเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 2 ปี    ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มไปแล้ว ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา” คุณภูริต กล่าว

 

 

ขณะที่ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ประเทศไทย โดย คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เข้าไปเทคโอเวอร์สโมสรมาตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งตอนนั้นเราอยู่ในลีก เดอะ   แชมเปี้ยนชิพ ก็มี บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนสโมสรด้วยดีมาตลอด กระทั่งเราขึ้นชั้นได้สำเร็จ และสามารถยืนหยัดอยู่ได้เป็นปีที่สอง ในฐานะคนทำทีม เรามีความภูมิใจในการสร้างทีมนี้อย่างมาก และขอส่งต่อความภาคภูมิใจมายังคนไทย ซึ่งกิจกรรมต่างๆที่ทำร่วมกับสิงห์ จะทำให้คนไทยช่วยให้กำลังใจของเรา เพราะเรารู้ว่าเราไม่ใช่ทีมระดับท็อป แต่เราก็ต้องการกำลังใจจากแฟนบอลชาวไทย เพื่อให้เราทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการ “ฟ็อกซ์ ฮันท์” ของสโมสร ที่เราได้รับความสนับสนุนจาก“สิงห์” ซึ่งเป้าหมายสำคัญของเรานั้น เราไม่ได้คาดหวังว่า เยาวชนไทยชุดนี้จะต้องติดทีมชุดใหญ่ของสโมสร แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ เราต้องการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีโอกาสที่จะได้เรียนหนังสือ และลงเล่นฟุตบอล เรียนรู้ฟุตบอลอย่างถูกต้องที่อังกฤษเมืองต้นแบบของวงการลูกหนัง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายร่วมกันของ เลสเตอร์ ซิตี้ และ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ในการให้ความสำคัญในพัฒนาวงการฟุตบอลของไทย โดยเริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชน”

ทางด้านสาระสำคัญของการเซ็นสัญญาครั้งนี้ สิงห์”เป็น โกลบอล พาร์ทเนอร์ โดยจะมีเบียร์สิงห์จำหน่ายที่ “คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม” สนามเหย้าของสโมสรเลสเตอร์ เป็นเวลารวม  3 ปี มูลค่ารวม 250 ล้านบาท โดยสิทธิประโยชน์ที่สิงห์ได้รับครั้งนี้คือ ใช้ตราสโมสรและภาพนักเตะสำหรับการทำกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ของแบรนด์ได้, สามารถจัดกิจกรรมที่ได้ใกล้ชิดนักเตะ เช่น มีทแอนด์กรีท หรือ ฟุตบอลคลีนิก, สิทธิ์ในการถ่ายโฆษณา,โฆษณาบริเวณป้ายข้างสนาม, ไจแอนท์ แบนเนอร์ บริเวณหน้าสนาม, เป็นผู้สนับสนุนหลักของเลสเตอร์ ซิตี้ อะคาเดมี่ ที่ประเทศอังกฤษ, เป็นผู้สนับสนุนหลักของโครงการ “ฟ็อกซ์ ฮันท์” ของ “เลสเตอร์ ซิตี้” ที่ส่งเด็กไปฝึก-เรียนที่อังกฤษ และโฆษณาบริเวณป้าย แอลอีดี ข้างสนาม

          ทั้งนี้จากการเซ็นสัญญากับ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นทีมที่ 4 ที่ “สิงห์” ให้การสนับสนุน ต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี โดยก่อนหน้านี้เพียงสัปดาห์เดียว “สิงห์” เพิ่งจะเซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาหมาดๆ นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนป้ายโฆษณาข้างสนาม อีก 4 สโมสร ในลูกสูงสุดเมืองผู้ดี อย่าง คริสตัล พาเลซ, นอริช ซิตี้, วัตฟอร์ด และบอร์นมัธ ซึ่งจะเป็นการประชาสัมพันธ์ แบรนด์ไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านทางการถ่ายทอดสดอีกด้วย

            สำหรับ สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ก่อตั้งทีมมาตั้งแต่ปี 1884 เคยเข้าชิงฟุตบอลลีกคัพ 5 ครั้ง และครองแชมป์ได้ 3 สมัย ในปี 1964, 1997 และ 2000 พร้อมกับเป็นรองแชมป์ฟุตบอลเอฟเอ คัพ 4 สมัย และเป็นแชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์ 1 สมัย ปัจจุบันมี เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือชาวอิตาเลียนคุมทัพ ทั้งนี้ เลสเตอร์ ทีมเพิ่งทำสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันในลีก 10 นัดได้เป็นหนแรกในการเล่นระดับพรีเมียร์ลีก และเป็นทีมที่รักษาสถิติไม่แพ้ใครได้นานที่สุดปีนี้ของพรีเมียร์ลีกจนกระทั่งสัปดาห์ที่ 7 พร้อมกับมีนักเตะระดับชั้นนำมากมาย อาทิ แคสเปอร์ ชไมเคิล นายประตูทีมชาติเดนมาร์ก, ก๊อกคาน อินแลร์ กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์, เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ, ชินจิ โอคาซากิ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น รวมถึง ริยาด มาห์เรซ ปีกทีมชาติแอลจีเรีย ที่ฟอร์มดีในซีซั่นนี้ เป็นต้น

 

 

 

 

 

วันที่ 6ต.ค.2558 เวลา  15.21น.

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

541