รีบเถอะครับ!! คณะกรรมการกลาง ชี้วันเลือก30เสียงใหม่แล้ว เผยถ้าช้า ฟีฟ่า อาจสั่งแบน
ความเคลื่อนไหวของการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และสภากรรมการชุดใหม่ ที่กำลังจะมีกำหนดการเลือกตั้งเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ซึ่งยังคงมีปัญหามากมายอีรุงตุงนังก่อนการเลือกตั้ง ภายใต้สูญญากาศของนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อนายวรวีร์ มะกูดี ยังอยู่ในภาวะถูกแบนจาก “ฟีฟ่า” สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ โดย ฟีฟ่ามีการแต่งตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาดูแลแทนที่ไปก่อน
ทั้งนี้ ล่าสุด ได้มีการหารือกันอย่างเคร่งเครียด และจบลงไปเมื่อไม่นานมานี้ ระหว่างคณะกรรมการกลาง ซึ่งฟีฟ่า เป็นผู้แต่งตั้งขึ้นมา, ตัวแทนจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟ่า” และ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ “เอเอฟซี” โดยหลังจากการหารือจบลง ก็ได้มีการแถลงการณ์ออกมา โดยมีใจความดังนี้
“คณะกรรมการกลาง ได้รับการชี้แจงจากตัวแทน ฟีฟ่า และเอเอฟซี ว่าประธานคณะกรรมการกลางดำรงตำแหน่งเทียบเท่านายกสมาคมฟุตบอลฯ ตามข้อบังคับสมาคมฟุตบอลฯ 2558 ข้อ 35 และสามารถแต่งตั้งหรือเพิกถอนเลขาธิการสมาคมฯ หากขัดขวางหรือไม่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการกลาง นอกจากนั้นคณะกรรมการกลางมีอำนาจทุกอย่างโดยที่ต่อไปนี้ไม่ต้องขอความเห็นจาก ฟีฟ่า หรือ เอเอฟซี อีกต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้การทำงานของคณะกรรมการกลางเป็นไปตามกำหนด ทาง ฟีฟ่า และเอเอฟซี ยืนยันว่า ไม่มีคำสั่งอนุญาตให้คณะกรรมการกลางเลื่อนกำหนดการใดๆ อีก และหากไม่ดำเนินการการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ก่อนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ตัวแทน ฟีฟ่า และเอเอฟซี ไม่สามารถบอกได้ว่าผลการพิจารณาจากคณะกรรมการฉุกเฉินของ ฟีฟ่า จะออกมาเป็นอย่างไร”
“คณะกรรมการกลางได้หารือกับ “ไตรภาคี” ซึ่งประกอบไปด้วย ตัวแทนจากฟีฟ่าและเอเอฟซี, ตัวแทนจาก กกท. และคณะกรรมการกลาง มีมติ 3 ข้อ ดังนี้ 1.คณะกรรมการกลางจะจัดส่งเอกสารต่างๆ ไปยังสมาชิกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เอง 2.กำหนดการรับสมัครสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คือวันที่ 8 และ 11 มกราคม ณ ตึก กกท. เวลา 9.00 น. – 17.00 น. และ 3.เห็นชอบให้วันที่ 22 มกราคม เป็นกำหนดวันเลือกตั้ง 30 เสียงจากดิวิชั่น 2 ณ ตึก กกท. เวลา 13.00 น.”
“คณะกรรมการกลาง จะจัดการเลือกตั้ง 30 เสียงของดิวิชั่น 2 ในวันที่ 22 มกราคม โดยเวลา 13.00 น. จะเริ่มลงทะเบียนจนถึง 14.45 น. ก่อนจะเริ่มการเลือกตั้ง ซึ่งขั้นตอนจะเหมือนเดิมคือโหวตลับหรือเข้าคูหา โดย 1 ทีม สามารถเลือกได้ 5 สโมสร หากมีสโมสรไหนคะแนนเท่ากัน จะทำการเลือกใหม่อีกครั้ง หากยังเท่ากันอีกจะใช้วิธีจับฉลาก ซึ่งหลังจากได้ 30 เสียงของดิวิชั่น 2 แล้ว ก็จะประกาศอย่างเป็นทางการ พร้อมนำไปรวมกับ 42 เสียงจากโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก, ดิวิชั่น 1 และถ้วยพระราชทาน ข, ค, ง รวมเป็น 72 เสียง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ต่อไป”
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากแฟนเพจเฟสบุ๊ค Nakleng Football TV T Sport