รีเซต
อึ้ง!! ค่าตัว ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แพงกว่า4นักเตะ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก

อึ้ง!! ค่าตัว ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แพงกว่า4นักเตะ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก

อึ้ง!! ค่าตัว ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แพงกว่า4นักเตะ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก
kajohnjohnyos
2 พฤศจิกายน 2559 ( 16:31 )
25.7K

 

กลายเป็นที่ฮือฮา สนั่นทั้งวงกรฟุตบอลไทยลีกอย่างมาก สำหรับการย้ายทีมระดับบิ๊กดีลของ “ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มิดฟิลด์ตัวรับธรรมชาติ ดีกรีทีมชาติไทย ของ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่จัดการย้ายจากถิ่น เอสซีจี สเตเดี้ยม ขึ้นเหนือไปซบถิ่น ยูไนเต็ด สเตเดี้ยม ของ “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมดังของไทยลีก

ทั้งนี้ สำหรับค่าตัวของการเซ็นสัญญาระดับบิ๊กโปรเจคในครั้งนี้ มีการคาดหมายกันว่า สูงถึงราวๆ 50 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบเป็นเงินปอนด์ของอังกฤษ ก็จะได้เท่ากับ 1.17 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว สำหรับค่าตัวของ “เจ้าตั้ม” ธนบูรณ์ เจ้าของฉายา บุสเก็ตต์ ไทยแลนด์

**(ค่าเงินปอนด์ในปัจจุบัน 1 ปอนด์ = 42.75 บาท โดยประมาณ)

ซึ่งจากราคาค่าตัว เมื่อเปรียบเทียบเป็นค่าเงินปอนด์แล้วนั้น จะพบว่า ค่าตัวของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มีราคามากกว่า ค่าตัวของ 4 นักเตะตัวหลักของ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2015-16 เลยทีเดียว

 

 

เริ่มจากรายแรก กัปตันทีม เวส มอร์แกน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมแกร่งวัย 32 ปี ของทีมชาติจาเมก้า ซึ่งย้ายจาก “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ อดีตยอดทีมของเกาะอังกฤษ มาอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ปี 2012 ด้วยสนนราคาค่าตัว 9.5 แสนปอนด์ โดยประมาณ ซึ่งปีที่แล้ว มอร์แกน ในฐานะกัปตันทีมชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก ของเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ทำสถิติลงสนามครบทั้ง 38 เกม ให้กับต้นสังกัดอีกด้วย

รายต่อมา เป็นกองกลางตัวกลั่น อย่าง แดนนี่ ดริ้งวอเตอร์ ซึ่งย้ายจาก “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ปั้นเจ้าตัวมาตั้งแต่สมัยเยาวชน หลังจากไม่มีตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ ด้วยค่าตัว 7.5 แสนปอนด์ เมื่อตลอดนักเตะรอบที่สอง เดือนมกราคม เมื่อปี 2012 ซึ่ง ดริ้งวอเตอร์ ลงเล่นไปในลีกทั้งสิ้น 35 เกม เมื่อปีที่แล้ว

รายที่สาม หากย้อนกลับเมื่อปี 2014 คงไม่มีใครรู้จัก “ริยาด มาร์เรซ” แนวรุกชาวแอลจีเรีย ที่ย้ายมาจาก เลอ อาร์ฟ ทีมในลีก เดอซ์ ฝรั่งเศส มาสู่ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 3.5 แสนปอนด์ แต่หลังเวลาผ่านไป 2 ปี มาร์เรซ ก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอันฉกาจฉกรรจ์ จนสามารถพาเลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร โดยมาร์เรซ ซัดไปถึง 17 ประตู ในลีก และคว้าตำแหน่ง นักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ประจำปี 2015-16 อีกด้วย

รายสุดท้าย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “เจมี่ วาร์ดี้” กองหน้ามหาประลัยดีกรีทีมชาติอังกฤษ ซึ่ง เลสเตอร์ ซิตี้ ไปสอยมาจาก ฟลีตวู้ด ทาวน์ ด้วยราคาค่าตัวที่เป็นสถิติของทีมนอกลีกในอังกฤษ จำนวน 1 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2012 ซึ่งซีซั่นที่แล้ว อดีตหนุ่มโรงงานจอมขี้เมาอย่าง วาร์ดี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างมหัศจรรย์ ซัดไปถึง 24 ประตู โดยมีสถิติยิงประตูติดต่อกันถึง 11 เกมอีกด้วย แถมยังได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก อีกด้วย

 

ยอดนิยมในตอนนี้