รีเซต
ไม่ใช่แค่แต้ม!! 7 สิ่งสำคัญเหนือคะแนน ที่ ทีมชาติไทย ได้รับจากแมตช์เสมอ ออสเตรเลีย

ไม่ใช่แค่แต้ม!! 7 สิ่งสำคัญเหนือคะแนน ที่ ทีมชาติไทย ได้รับจากแมตช์เสมอ ออสเตรเลีย

ไม่ใช่แค่แต้ม!! 7 สิ่งสำคัญเหนือคะแนน ที่ ทีมชาติไทย ได้รับจากแมตช์เสมอ ออสเตรเลีย
kajohnjohnyos
17 พฤศจิกายน 2559 ( 16:57 )
5.2K



ได้คำชมอย่างล้นหลามสำหรับฟอร์มการเล่นของทีมชาติไทย ในเกมเปิดบ้าน ราชมังคลากีฬาสถาน เสมอกับ ออสเตรเลีย 2-2 เก็บแต้มแรกศึก ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี ได้สำเร็จ โดยเกมดังกล่าว เหล่าพลพรรคช้างศึกสามารถต่อกรกับ “ซ็อคเกอร์รูส์” ดีกรีแชมป์เอเชีย 2015 ได้อย่างสนุก สูสี แถมเกือบชนะด้วยซ้ำ หากออสเตรเลียไม่ได้ลูกจุดโทษตีเสมอในช่วงท้ายเกม

ทั้งนี้ นอกจากแต้มสำคัญแต้มแรกให้แฟนบอลชาวไทยได้ใจชื้นแล้วนั้น ยังมีอีก 7 สิ่งสำคัญที่เป็นผลพวงเชิงบวกที่เกิดขึ้นหลังเกม ซึ่งจะมีสิ่งใดบ้างนั้น Sport.truelife ขอพาทุกท่าน ไปหาคำตอบได้เลย

 

1. แรงกิ้งฟีฟ่า

ย้อนหลังไปต้นปีที่ผ่านมา ก่อนจับสลากรอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชียอันดับโลกของทีมชาติไทยนั้น อยู่ถึงอันดับที่ 118 และเป็นอันดับที่ 17 ของเอเชีย แต่เมื่อแข่งไปสี่เกมแรก ทีมชาติไทย ก็แพ้รวดทั้งสี่นัดอย่างที่ทราบกัน ได้ทำให้อันดับโลกของทีมชาติไทย รูดลงมาจากต้นปีถึง 28 อันดับ โดยอยู่ในอันดับที่ 146 ในเดือนล่าสุด และเป็นอันดับที่ 26 ของเอเชีย แถมยังตกจากบัลลังก์เบอร์หนึ่งของอาเซียนเมื่อต้นปี ลงมาอยู่อันดับที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียน รองจาก ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม ทั้งนี้ จากผลการแข่งขันที่เสมอ ออสเตรเลีย เบอร์สองของเอเชีย ซึ่งเป็นอันดับที่ 40 ของโลก ห่างจากอันดับของไทยถึง 106 อันดับ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จะทำให้คะแนน รวมถึงอันดับโลกของทีมชาติไทย ถีบตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน

 

 

2. ข่มขู่ชาติในอาเซียน

ให้หลังเกมกับออสเตรเลีย ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทีมชาติไทยต้องเดินทางต่อทันทีไปฟิลิปปินส์ เจ้าภาพร่วมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 เพื่อป้องกันแชมป์อาเซียน และเตรียมตัวลงสนามนัดประเดิมกับ อินโดนีเซีย
วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ ดังนั้น เกมระหว่าง ไทย กับ ออสเตรเลีย จึงถูกจับมองเป็นพิเศษจากชาติคู่แข่งในอาเซียน ทั้งที่ร่วมกลุ่มเดียวกันอย่าง ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ รวมถึงไม้เบื่อไม้เมาอย่าง เวียดนาม และ มาเลเซีย ซึ่งผลเสมอกับออสเตรเลีย จะเป็นคำข่มขู่ที่น่ากลัวพอสมควรต่อเหล่าบรรดาชาติต่างๆ ในอาเซียน ที่หมายปองตำแหน่งแชมป์ ซูซูกิ คัพ ครั้งนี้

 

 

3. เพิ่มมูลค่าให้นักเตะเป็นรายบุคคล

แม้จะพ่ายแพ้ในสี่เกมแรก แต่นักเตะไทยหลายคน ก็ได้รับการจับตามองอย่างมากจากสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะในระดับเอเชีย และพอมาถึงเกมกับออสเตรเลีย ที่สามารถบดขยี้กันได้อย่างสนุก สูสี จนได้รับแต้มสำคัญ ก็ยิ่งทำให้นักเตะเหล่านั้น ฉายแววความสามารถ และทักษะที่ยอดเยี่ยม ที่มีมูลค่าของฝีเท้าเกินระดับไทยลีกออกมาชัดเจนมากขึ้น ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน หรือแม้กระทั่งน้องใหม่อย่าง สิโรจน์ ฉัตรทอง ซึ่งผลข้างเคียงในเชิงบวก นั่นคือ นักเตะเหล่านี้ จะมีมูลค่าของฝีเท้าที่มากขึ้น ถูกจับตามองมากขึ้น และถึงขั้นอาจจะมีทีมจากลีกบิ๊กเนมของเอเชีย มาสู่ขอนักเตะไทย
ในช่วงเปิดตลาดนักเตะซีซั่นหน้าของลีกเอเชีย ก็เป็นได้

 

 

4. สร้างสถิติจารึกเป็นประวัติศาสตร์ของทีมชาติไทย

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม รอบสุดท้าย ของการคัดเลือกฟุตบอลโลก โซนเอเชีย อยู่ 2 สมัย นั่นคือ รอบ 10 ทีมสุดท้าย เมื่อครั้งฟุตบอลโลก 2002 และในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมานั้น ทีมชาติไทย ลงสนามในรอบนี้มาแล้วทั้งสิ้น 12 เกม (ปี 2002 จำนวน 8 เกม) ทีมชาติไทย ยังไม่เคยทำประตูได้เกิน 1 ประตูในแมตช์เดียวเลยสักเกม ซึ่งเกมเสมอกับ ออสเตรเลีย 2-2 จึงกลายเป็นแมตช์แรกที่ทีมชาติไทยทำประตูได้เกิน 1 ลูกในรอบดังกล่าว รวมถึงอีกสถิติของธีรศิลป์ แดงดา ที่ซัดเบิ้ลในเกมดังกล่าว ก็ได้กลายเป็นเจ้าของสถิตินักเตะไทยคนแรกที่ยิงได้เกิน 1 ประตูในแมตช์เดียว ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม รอบสุดท้าย อีกด้วย

 

 

5. ค้นพบแท็กติกใหม่ๆ สำหรับทีมชาติไทย

เสียศูนย์พอสมควร สำหรับ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮ้ดโค้ชทีมชาติไทย ในสี่เกมแรกที่แพ้รวด เมื่อโดนแฟนบอลจำนวนมาก วิจารณ์ทั้งเรื่องฟอร์มการเล่นของนักเตะบางราย เรื่องแท็กติกเดิมๆ รวมถึงรายชื่อ 11 ตัวจริงที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ซึ่งผลลัพท์ที่ดีจากการเปลี่ยนโฉมของ 11 ตัวจริง และการปรับแท็กติกมาเป็น 3-5-2 นั้น ทำให้ช่องว่างระหว่างแฟนบอลกับซิโก้ดูแคบลง และคำวิจารณ์ก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยแท็กติกที่ได้ผลนี้ แสดงให้เห็นว่า ทีมชาติไทยสามารถใช้กองหลังสามคนได้ ใช้ผู้เล่นทางกราบแค่ฝั่งละคนได้ รวมถึงใช้กองหน้าคู่ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องยึดติดแผนเดิมๆ ที่ถูกคู่ต่อสู้จับทางได้หมดแล้ว

 

 

6. ศรัทธา และความเชื่อมั่นกลับคืนสู่แฟนบอล

ต้องยอมรับว่า ศรัทธา และความเชื่อมั่นในทีมชาติไทย และ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หดหายพอสมควรจากฟอร์ม 4 นัดแรก และองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 11 ตัวจริง เรื่องการเรียกนักเตะมาติดทีม และการแก้เกมส์ต่างๆ ที่ทำให้เกิดคำถาม และคำวิจารณ์ในหมู่แฟนบอลแบบถล่มทลายอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเกมนี้ นับเป็นเกมใหญ่ระดับทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลกของทีมชาติไทย เกมแรกๆ ในรอบหลายปี ที่ขายบัตรไม่หมด แม้จริงๆ แล้วอาจจะมีสาเหตุจากสิ่งอื่นๆ แต่ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความศรัทธาที่หายไปก็คือส่วนหนึ่งที่ทำให้ขายบัตรไม่หมด ทั้งนี้ทั้งนั้น จากผลการแข่งขันที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม ทำให้เกิดการปลุกศรัทธาในหมู่แฟนบอลขึ้นทันเวลา ก่อนทัวร์นาเมนต์ป้องกันแชมป์อาเซียน จะเริ่มต้นขึ้น

 

 

7. ทำเพื่อพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ตามที่ตั้งใจเอาไว้

เป็นความตั้งใจของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช นักเตะทุกคน รวมถึงแฟนบอล ที่ต่างพร้อมใจ สรรค์สร้างบรรยากาศ ของแมตช์กับออสเตรเลียออกมาให้ดีที่สุด เรียบร้อยที่สุด สวยงามที่สุด และเกิดผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ทั้งนี้ ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น เหล่านักฟุตบอลก็ได้มีการแปลอักษรเป็นรูป ๙ ในสนาม ขณะที่แฟนบอล
จากทุกโซน ต่างพร้อมใจกันยืนเป็นรูป ๙ เช่นกันที่บริเวณข้างอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก รวมถึงมีการจุดเทียน ถวายความอาลัยอีกด้วย โดยน้ำตาแห่งความปิติหลังเกม “ซิโก้” น่าจะทำให้ทราบดีว่า นักฟุตบอลและสต๊าฟฟ์โค้ช ตั้งใจเต็มที่สุดความสามารถแค่ไหน กับหนึ่งแต้มที่ได้มาจากแมตช์นี้

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ