ปรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก บ็อกซิ่งเดย์ 26 ธ.ค.59

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เดินทางมาถึงช่วง บ็อกซิ่งเดย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวันนี้ (26 ธ.ค.59) มีคู่แข่งขันกันทั้งหมด 8 คู่ แมตช์ที่น่าจับตามองน่าจะเป็น การกลับมาเยือนถิ่นเก่าของ เดวิด มอยส์ และการพบกันระหว่าง จิ้งจอกสยาม และ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน

วัตฟอร์ด (12) – คริสตัล พาเลซ (17) ( ถ่ายทอดสด BeIN Sports 1 เวลา 19:30 น. )

ในฤดูกาลที่แล้ว พาเลซ ทำได้ดีกว่าโดยใน พรีเมียร์ลีก ผลัดกันแพ้คาบ้าน แต่ใน เอฟเอ คัพ พาเลซ เปิดบ้านเฉือนชนะไป 2-1

“แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด เสีย โรเบร์โต้ เปเรย์ร่า มิดฟิลด์อาร์เจนไตน์เข่าพังเข้ารับการผ่าตัดที่ สเปน เรียบร้อยน่าจะพักนานพอสมควร ในส่วนของ แผงหลังต้องเช็กฟิต เซบาสเตียน โพรเดิ้ล มีอาการเจ็บขารบกวนเช่นเดียวกับแดนหน้า สเตฟาโน่ โอกาก้า มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง

“ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัน พาเลซ เปลี่ยนกุนซือจาก อลัน พาร์ดิว เป็นกุนซือจอมเก๋าอย่าง แซม อัลลาร์ไดซ์ ได้ มาติเยอ ฟลามินี่ กองกลางเฟรนช์แมนสลัดอาการโคนขาหนีบเดี้ยงกลับมา แต่ พาเลซ ก็ยังมีรายชื่อนักเตะบาดเจ็บอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น สตีฟ ม็องด็องด้า, เจมส์ ทอมกิ้นส์, ปาเป้ ซูอาเร่ ในแนวรับและ โลอิก เรมี่, บาการี่ ซาโก้, คอนเนอร์ วิคแฮม ในแนวรุก

สรุป ดูจากสภาพทีมแล้ว วัตฟอร์ด ดูจะมีความพร้อมกว่าในเรื่องของตัวผู้เล่นบาดเจ็บที่มีน้อยกว่า และด้วยการเล่นในบ้าน พร้อมกับอันดับที่สูงกว่า และ พาเลซ ก็พึ่งจะได้กุนซือคนใหม่ ดูแล้วไม่น่าจะพลาดเก็บชัยด้วยปราการทั้งปวง

ฟันธง !! วัตฟอร์ด 2 – 1 คริสตัน พาเลซ

เชลซี (1) – บอร์นมัธ (10) ( ถ่ายทอดสด BeIN Sports 1 เวลา 22:00 น. )

ในฤดูกาลที่แล้ว ทั้ง 2 ทีมผลัดกันแพ้คาบ้านมาทั้งคู่ โดย บอร์นมัธ สร้างเซอร์ไพร์สสร้างสามารถจัดการ เชลซี 0-1 และ เชลซี ก็จัดการตบเด็กถึงบ้านโชว์ 1-4

“สิงห์บูล” เชลซี จะไม่มีทั้ง ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าตัวเก่ง และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์จอมขยัน เป็นครั้งแรกในซีซั่นนี้ติดโทษแบนทั้งคู่ นอกนั้นทีมขาดแค่กัปตัน จอห์น เทอร์รี่ สะโพกยังเดี้ยงแต่ไม่ใช่ตัวเลือกแรกในแผงหลังอยู่แล้ว

“เดอะ เชอร์รี่ส์” บอร์นมัธ อดใช้ นาธาน อาเก้ ปราการหลังดัตช์แมนเพราะติดเงื่อนไขในสัญญาเช่าจากเจ้าถิ่น แผงกลาง จูเนียร์ สตานิสลาส ที่เจ็บข้อเท้าและ แอนดรูว์ เซอร์แมน ที่เจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงใกล้หายกลับมาซ้อมทั้งคู่แต่ยังลงเกมนี้ไม่ได้

สรุป ในฤดูกาลนี้ คอนเต้ โชคดีในเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บมีไม่เยอะ แต่ในเกมนี้จะเป็นเกมแรกที่ เชลซี จะไม่มีดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกอย่าง คอสต้า ลงล่าตาข่าย และ ก็องเต้ กองกลางตัวดูดบอล สิงห์บูล ที่ต้องการสร้างสถิติชนะติดต่อกันเป็นเกมที่ 12 ก็น่าจะยากเอาการ เพราะอาจจะเจอทีเด็ดของ บอร์นมัธ เล่นงานเอาแบบไม่ทันตั้งตัวก็ว่าได้

ฟันธง !! เชลซี 2 – 2 บอร์นมัธ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (6) – ซันเดอร์แลนด์ (18)  ( ถ่ายทอดสด BeIN Sports 2 เวลา 22:00 น. )

ในฤดูกาลที่แล้ว ทั้ง 2 ทีมผลัดกันชนะบ้านใครบ้านมัน  แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 , ซันเดอร์แลนด์ 2-1 แต่ในฤดูกาลที่แล้ว กุนซือของทั้ง 2 ทีมไม่ใช่คนที่คุมอยู่ในปัจจุบัน

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แผงหลังได้ เอริค ไบญี่ หายเจ็บเข่าฟิตพร้อมเป็นตัวเลือกแต่ ลุค ชอว์ ยังไม่หายเดี้ยงพลาดลงสนามต่อ แผงกลางรุก เฮนริค มคิทาร์ยาน ก็หายเจ็บข้อเท้ากลับมาฟิตสมบูรณ์ เป็นทางเลือกเช่นกัน สภาพทีมมีความพร้อมพอสมควร

“แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ปัญหาเพียบเริ่มตั้งแต่แผงหลังไม่มี แพ็ดดี้ แม็คแนร์ เดี้ยงยาวแถมต้องเช็กฟิต บิลลี่ โจนส์ กับ ฆาบี มานกีโญ่ แผงกลางไปกันใหญ่ แยน เคียร์ชโฮฟฟ์, ลินเด้น กูช, ดันแคน วัตมอร์, ลี แค็ตเตอร์โมล เจ็บยาวหมด, สตีเว่น พีนาร์ ก็มีอาการบาดเจ็บรบกวน แถม อัดนาน ยานาไซจ์ ติดเงื่อนไขในสัญญายืมจากเจ้าถิ่นลงเกมนี้ไม่ได้

สรุป เกมนี้มองจาก สถิติของ 2 กุนซือ มูรินโญ่ คุมทีมมายังไม่เคยแพ้ มอยส์ และสภาพของตัวผู้เล่น แมนยู มีความพร้อมมากกว่า เนื่องจากผู้เล่นบาดเจ็บมีแค่ ลุค ชอว์ และเล่นในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดต่อหน้าแฟนบอล มูรินโญ่ น่าจะสั่งลูกทีม เปิดเกมบุกเต็มสูบ

ฟันธง !! แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 0 ซันเดอร์แลนด์

อาร์เซน่อล (4) – เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (8) ( ถ่ายทอดสด BeIN Sports 3 เวลา 22:00 น. )

ในฤดูกาลที่แล้ว 2 ทีมนี้มีสถิติที่ดีเมื่อเล่นในบ้าน โดยผลการแข่งขัน คือ บ้านใครบ้านมัน ( อาร์เซน่อล 2-0 , เวสต์บรอมวิช 2-1 )

“ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล แผงกลางได้ อารอน แรมซี่ย์ หายเจ็บแฮมสตริงกลับมาซ้อมแต่น่าจะยังไม่ถูกเสี่ยงส่งลงเกมนี้ส่วน อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เจ็บบริเวณเดียวกันแต่คัมแบ็คปีใหม่ ขณะที่ แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าจอมฮาหายเจ็บเข่า 7 เดือนกลับมาซ้อมเต็มสูบแต่จะยังไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้

“มวยโลก” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เกมรับแน่นขึ้นได้ จอนนี่ อีแวนส์ หายเจ็บน่องกลับมาหลังพักไป 2 นัด แผงกลางต้องลุ้น เจมส์ มอร์ริสัน ที่เป็นไข้จนพลาดการซ้อม

สรุป อาร์เซน่อล เกมนี้ดูดีกว่าด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา เวงเกอร์ สั่งลูกทีมงดฉลองและให้พักผ่อนเก็บตัว เพื่อเตรียมลงแข่งขันในช่วง บ็อกซิ่งเดย์ เนื่องจากแพ้ติดต่อมา 2 แมตช์ สำหรับนัดนี้ ดูแล้วไอ้ปืนใหญ่ต้องเอาแน่นอน

ฟันธง !! อาร์เซน่อล 3 – 1 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

เลสเตอร์ ซิตี้ (15) – เอฟเวอร์ตัน (9)  ( ถ่ายทอดสด BeIN Sports 4 เวลา 22:00 น. )

ในฤดูกาลที่แล้ว เลสเตอร์ แชมป์เก่าสามารถเอาชนะ เอฟเวอตัน ได้ทั้งไปและกลับ ด้วยการเล่นในบ้านชนะ 3-1 และ ออกไปเยือนชนะ 3-2

“จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่มี เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงตัวเก่งติดโทษแบน 3 นัดหลังอุทธรณ์ใบแดงเกมกับ สโต๊ค ซิตี้ ไม่ผ่าน แผงกลางต้องรอเช็กความฟิต แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ส่วนแผงหลังไร้ คริสเตียน ฟุคส์ กับ โรเบิร์ต ฮูธ สะสมใบเหลืองครบ 5 ติดโทษแบน 1 นัดทั้งคู่

“ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอตัน ไม่มี เจมส์ แม็คคาร์ธี่ มิดฟิลด์ไอริชกล้ามเนื้อแฮมสตริงพังจาก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่แพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้านพัก 3 สัปดาห์ด้วยกัน เกมรับต้องลุ้น มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ที่มีอาการศีรษะกระทบกระเทือนจากเกมกับ “หงส์แดง” แต่ เลห์ตัน เบนส์ แบ็คซ้ายฟิตพร้อม

สรุป ในฤดูกาลนี้ฟอร์มของ จิ้งจอกสยาม ดูจะเนือยๆ ลงไป เนื่องจากการขาดกองกลางอย่าง ก็องเต้ อันดับจึงหล่นลงไปเกือบท้ายตาราง บวกกับไม่มี วาร์ดี้ ในวันนี้ และถ้าเทียบกับฟอร์มการล่นของ เอฟเวอตัน ถือได้ว่า ไม่น่าเกลียดเท่าไร

ฟันธง !! เลสเตอร์ ซิตี้ 1 – 2 เอฟเวอตัน

เบิร์นลี่ย์ (16) – มิดเดิลส์โบรห์ (14) ( ถ่ายทอดสด BeIN Sports 5 เวลา 22:00 น. )

ในฤดูกาลที่แล้ว ในลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ มิดเดิลส์โบรห์ ทำได้ดีกว่า ( เหย้า 1-0 , เยือน 1-1 ) แต่ใน เอฟเอ คัพ เบิร์นลี่ย์ บุกชนะ 2-1

“เดอะ คลาเร็ตส์” เบิร์นลี่ย์ ไม่มี แม็ทธิว โลว์ตัน แบ็คขวาตัวเก่งสะสมใบเหลืองครบ 5 ติดโทษแบน 1 นัด ริมเส้นได้ โยฮัน เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน หายเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงฟิตกลับมาเป็นตัวเลือก

“สิงห์แดง” มิดเดิลส์โบรห์ ปัญหาอยู่ที่แผงกลางรุกล้วนๆเมื่อ วิคเตอร์ ฟิสเชอร์ เข่าพังจากเกมชนะ สวอนซี ซิตี้ อดช่วยทีมช่วงเทศกาลโปรแกรมชุก ขณะเดียวกันต้องรอเช็กความฟิต กาสตอน รามิเรซ กับ คริสเตียน สตูอานี่ มีอาการเจ็บเท้ารบกวนทั้งคู่

สรุป ชื่อชั้นและอันดับ ผลงานต่างๆ ทั้งในเดอะ แชมป์เปี้ยนชิพ รวมไปถึงในพรีเมียร์ลีกปีนี้ ผลงานสูสีกันมาก คาดว่าน่าจะกินกันไม่ลง

ฟันธง !! เบิร์นลี่ย์ 1 – 1 มิดเดิลส์โบรห์

สวอนซี ซิตี้ (19) – เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (13) ( ถ่ายทอดสด BeIN Sports 6 เวลา 22:00 น. )

เจอกันฤดูกาลก่อน สวอนซี ทำได้ดีกว่า ( เหย้า 0-0 , เยือน 4-1 )

“หงส์ขาว” สวอนซี ซิตี้ ได้ คี ซุง-ยอง มิดฟิลด์เคป็อปหายเจ็บกลับมาซ้อม แผงหลังได้ เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ สลัดเดี้ยงกลับมาซ้อมเช่นกันมีลุ้นคัมแบ็คลงเกมนี้ทั้งคู่

“ขุนค้อน” เวสต์แฮม ไม่มี ดิอาฟร่า ซาโก้ กองหน้าทีมชาติเซเนกัลแผ่นหลังเดี้ยงพัก 8 สัปดาห์พลาดยันศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ต้นปีหน้า แผงกลางไม่มี เปโดร โอเบียง สะสมใบเหลืองครบ 5 ติดโทษแบน 1 นัด

สรุป ทั้ง 2 ทีม ถ้าไม่ดูจากอันดับชื่อชั้น ไม่เป็นรองกันเท่าไร น่าจะอยุ่ที่ว่า จังหวะความผิดพลาดในเกมของฝ่ายใดมีมากกว่ากัน

ฟันธง !! สวอนซี ซิตี้ 1 – 3 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ฮัลล์ ซิตี้ (20) – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (3) ( ถ่ายทอดสด BeIN Sports 1 เวลา 00:10 น. )

เจอกันครั้งหลังสุดฤดูกาล 2014/15 แมนซิตี้ ทำได้ดีกว่าทั้งใน พรีเมียร์ลีก ( เหย้า 1-1 , เยือน 4-2 ) และ ลีก คัพ ( 4-1 ในบ้าน )

“เดอะ ไทเกอร์ส” ฮัลล์ ซิตี้ ไม่มี อเบล เอร์นานเดซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยผ่าตัดไส้เลื่อนพักยาวถึงปีใหม่ อย่างไรก็ดีแผงกลางได้ ไรอัน เมสัน หายเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือกเช่นเดียวกับ จอช ไทม่อน ในแผงหลัง

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าอาร์เจนไตน์แบนนัดสุดท้ายจาก 4 นัดหลังใบแดงในเกมกับ เชลซี แต่ในราย แฟร์นานดินโญ่ พ้นโทษกัก 3 นัดเรียบร้อย และ กุนโดกัน ที่พึ่งผ่าตัดนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนแผงหลังต้องรอทดสอบความฟิต ปาโบล ซาบาเลต้า มีอาการเจ็บเข่ารบกวน

สรุป ชื่อชั้นแน่นอนว่า แมนซิตี้ ดีกว่าในทุกๆด้าน ถึงแม้จะขาดกองหน้าตัวเก่ง อเกวโร่ ไปแต่ก็ไม่น่าเป็นปัญหา ยังมีกองหน้าดาวรุ่งอย่าง อิเฮียนาโช่ พร้อมลงล่าตาข่ายแทน ดูแล้ว แมนซิตี้ ไม่น่าจะพลาด

ฟันธง !! ฮัลล์ ซิตี้ 0 – 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

มันส์กับฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฟุตบอลไทย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รวมทั้งหมด 6 บอลลีก 5 บอลถ้วย กับแพ็คเกจ True Super Soccer

สมัครผ่านแอพ True ID เพียงเดือนละ 29 บาท รับสิทธิดูผ่านคอมพิวเตอร์ฟรีผ่านเน็ตทรู !! ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 60

ดาวน์โหลดแอพ True ID ได้ฟรี ที่ App Store และ Google Play