รีเซต
พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เปิดใจ เหตุผลในการสร้าง ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ

พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เปิดใจ เหตุผลในการสร้าง ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ

พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เปิดใจ เหตุผลในการสร้าง ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ
kajohnjohnyos
27 ธันวาคม 2559 ( 18:02 )
571

 

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกมาร่ายความในใจยาว พูดถึงแผนการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ผ่านแฟนเพจเฟสบุ๊ค FAIR โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ตามที่ แฟนบอลชาวไทย ได้เห็นภาพข่าว พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางลงพื้นที่สำรวจความเหมาะสมของที่ดินเพื่อก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติในหลายๆ จังหวัด อาทิ จังหวัดชลบุรี จังหวัดเพชรบุรี และก็ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมถึงต้องสร้างศูนย์ฝึกแห่งใหม่? ทำไมต้องสร้างในพื้นที่เหล่านั้น? หรือ ทำไมไม่สร้างใกล้ๆ? และคำถามสำคัญคือ จะเอางบประมาณที่ไหนมาสร้าง? วันนี้จะพาไปหาคำตอบ…

“เรียนอย่างนี้นะครับว่า นับตั้งแต่ผมเข้ามาเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จากคนนอกวงการ อาจจะรู้เรื่องฟุตบอลเล็กๆ น้อยๆ แต่วันนี้ผมได้รับรู้ว่าการพัฒนาฟุตบอลจะต้องมีแบบแผนทั้งระยะสั้น และระยะยาว ตลอดการทำงานในปี 2559 ผมได้พบได้เห็นหลายๆ อย่างที่ขาดหายไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วงการฟุตบอลไทยยังขาดการวางแผนการพัฒนาที่เป็นรูปธรรม พูดง่ายๆ คือไม่มีแผนพัฒนาที่ชัดเจน ทุกคนทำงานเพื่อแก้ปัญหาไปวันๆ ไม่มีการคิดวางแผนระยะยาว

มาวันนี้ ผมคิดว่า ถ้าเราไม่มีแผนระยะยาว เราก็จะไม่มีกรอบหรือแนวทางที่เดินต่อไปในอนาคต คนที่มาทำงานต่อจากผมก็ไม่มีแนวทาง เราก็จะเดินสะเปะสะปะ และสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะเป็นหนึ่งในอาเซียน จะก้าวไปในระดับเอเชีย หรือ ระดับโลก ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าไม่มีแบบแผนหรือทิศทางที่ชัดเจน

ผมได้ออกจดหมายเชิญคนที่มีความรู้ ความสามารถ เชิญท่านเหล่านั้นมาร่วมกันคิด ช่วยกันวางแผน “สภาปฏิรูปฟุตบอลไทย” เราจะวางแผนแม่บทระยะยาว 20 ปี ที่ผมพูดถึง 20 ปีอาจจะคิดว่ามันยาว หรือไกลเกินไป แต่ญี่ปุ่นหรือชาติอื่นเขาพัฒนากันมานานแล้ว ส่วนประเทศไทยของเราเพิ่งเริ่มตั้งไข่
วันนี้จึงเป็นเรื่องที่เราต้องกลับมาคิดว่าจะทำอย่างไรดี ในการพัฒนาฟุตบอลอย่างเป็นระบบ คือ พัฒนาทีมฟุตบอลที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่พัฒนาแค่ตัวนักเตะ มันมีหลายๆ อย่างที่เราต้องพัฒนาไปพร้อมๆกัน เช่น ต้องมีสนามฟุตบอลอย่างเพียงพอ ต้องมีโค้ชที่ได้มาตรฐาน ต้องมีกรรมการที่มาตรฐานเป็นสากล ต้องมีวิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการ หลายๆ อย่างนี้เป็นเรื่องที่เราต้องมีการพัฒนา แต่เราไม่เคยคิดหรือไม่มีแผนเลยที่ผ่านมา

ที่ผ่านมา สมาคมฯ มีการอบรมบุคลากรต่างๆ มากมาย อบรมกรรมการ อบรมโค้ช ซี ไลเซ่น, บี ไลเซ่น, เอ ไลเซ่น และ โปร ไลเซ่น ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในรอบ 100 ปี ตรงนี้เป็นเครื่องบ่งบอกว่าการจะพัฒนากีฬาฟุตบอลไปข้างหน้าได้ มันต้องพัฒนาให้บุคลากรมีความสามารถ เป็นทรัพยากรของวงการกีฬาฟุตบอล เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมต้องการรีบพัฒนา คือ สร้างบุคลากรที่มีความรู้ขึ้นมาทำงาน
สำหรับการพัฒนานักกีฬาฟุตบอล เราพูดกันอยู่ตลอดว่าคนไทยร่างกายเล็ก แต่แข็งแรงปราดเปรียวว่องไว เราต้องดึงตรงนั้นจากจุดอ่อนมาเป็นจุดแข็ง และหาให้เจอว่าสไตล์การเล่นแบบไหนที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักกีฬาของเรา

ผมคิดว่า สมาคมฯ ควรมีอะคาเดมี หรือ ศูนย์ฝึกซ้อมเป็นของตัวเอง ก็เพราะว่าผมอยากจะสร้างเด็กๆ อย่างมีแบบแผน จากการไปดูในสโมสรต่างประเทศ นักกีฬาเขามีระเบียบวินัยมาก แต่สิ่งที่ผมสัมผัสและได้เห็นกับนักกีฬาเกือบทุกประเภทในวงการกีฬาไทย ส่วนมากเราจะขาดระเบียบวินัย ผมไม่ได้คิดจะสร้างดรีมทีมเหมือนที่อดีตเคยทำมา แต่ผมจะสร้างรูปแบบของคนที่ผ่านเข้ามาในหลักสูตรนี้และได้รับอะไรไปจากศูนย์ฝึกฟุตบอลของสมาคม นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ วางให้เห็นว่าเมื่อเขาเข้ามาอยู่ตรงนี้เขาจะมีอนาคต แต่เขาต้องพร้อมที่จะอยู่ในกฎกติกา นี่คือสิ่งที่ผมคิด

พอเราคิดอยากจะมีศูนย์ฝึก สิ่งแรกที่เราคิดไม่มีใครเคยคิดเลยว่า คุณต้องคิดก่อนว่าคุณมี “ที่ดินหรือไม่” วันนี้พอผมจุดพลุว่า ผมไปดูที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งผมทำเรื่องขอท่านอธิบดีกรมธนารักษ์ ไปแล้วว่าจะขอใช้ที่ตรงนี้ทำเป็นศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ก็อยู่ระหว่างขอซึ่งไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า

พอผมจุดประกายตรงนี้ เทศบาลนายาง เขาเชิญผมไปดูที่ดินที่จังหวัดเพชรบุรี เขาบอกว่าจะดำเนินการยกที่ดินให้สมาคม นี่คือผมกำลังมองไกลไปถึง 20 ปีข้างหน้านะ มีหลายๆ สโมสร หลายๆ คนที่มีที่อยู่ตามหัวเมืองต่างๆ พร้อมจะยกที่ดินให้สมาคมกีฬาฟุตบอล วันนี้ใครยกที่ให้ผมเอาหมด วันหน้าคนที่มาทำหน้าที่เป็นนายกสมาคมฯ ต่อก็มีที่ดินที่จะสร้างศูนย์ฝึก ไม่ใช่ 10 ปีข้างหน้าถึงคิดที่จะทำสนามแล้วค่อยมาหาที่ดินเพื่อก่อสร้าง ลองนึกดูซิครับ ราคาที่ดินจะสูงแค่ไหน แล้วที่ดินที่ใกล้ๆ เมืองหลวงจะมีไหม

ดังนั้น เราต้องคิดตั้งแต่วันนี้ ถ้าเราไม่เริ่มตั้งแต่วันนี้ก็ไม่ทันแล้ว นี่คือทำไมผมถึงคิดเรื่องนี้ เพราะว่าผมศึกษาแผนพัฒนาฟุตบอลของประเทศที่เขาทำเรื่องนี้มาก่อน ประสบความสำเร็จมาก่อน เช่น ฮอลแลนด์ เขาพัฒนาวงการฟุตบอล ไม่ต่ำกว่า 30 ปี เขามีศูนย์ฝึกที่เป็นศูนย์ฝึกฟุตบอลอย่างเดียวจริงๆ ทั่วประเทศ แต่ของเรามีแค่ศูนย์ฝึกกีฬาของ กกท. คือ ศูนย์ฝึกกีฬาทุกชนิด และที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลหนองจอก เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น เขาก็มีศูนย์ฝึกฟุตบอลทั้งประเทศ ซึ่งเขาก็จ้างฝรั่งมาเขียนแผน เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่คิดวางแผนวันนี้เราจะเริ่มตอนไหน แล้วถ้าเริ่มตอนนี้จะสร้างตรงไหนก่อนล่ะ ผมถึงต้องหาที่ดิน เดินทางไปดูที่ดินที่จังหวัดชลบุรี เพราะว่าท่านอธิบดีกรมธนารักษ์บอกว่ามีที่ดินตรงนั้น ทำไมต้องไปดูที่ตำบลนายาง จังหวัดเพชรบุรี เพราะเขามีที่ดินพร้อมที่จะให้เราก่อสร้าง ไปดูที่เขาใหญ่ แต่เราก็ต้องไปดูไปสำรวจ เสร็จแล้วเราก็มาเปรียบเทียบดูความเหมาะสมอีกรอบ

ส่วนคำถามที่ว่าทำไมไม่ไปใช้ศูนย์ฝึกของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผมอยากใช้นะครับ ทำไมไม่ใช้ศูนย์ฝึกที่หนองจอก ผมอยากใช้นะครับ โดยเฉพาะศูนย์ฝึกของ กกท. ที่สระบุรี ถือว่าดีมาก ทั้งที่พักนักกีฬา บรรยากาศ และท่านผู้ว่า กกท. เองก็ยินดีให้เราเข้าไปใช้ แต่ที่ศูนย์ฝึกของ กกท.ที่สระบุรี มีสนามฟุตบอลหญ้าเทียม แค่สนามเดียวเท่านั้น เหมือนกัน ที่ศูนย์ฝึกหนองจอก ก็มีสนามฝึกซ้อมไม่กี่สนาม แต่ทีมชาติไทยเรามีหลายชุด ทั้ง ชาย-หญิง รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี, 16 ปี, 19 ปี, 21 ปี, และทีมชาติ ชุดใหญ่ ลองนึกดูซิครับ ถ้าเรามีรายการแข่งขันพร้อมๆ กัน ทีมชาติต้องเข้าไปเก็บตัวพร้อมๆ กัน เราจะซ้อมอย่างไรครับ ด้วยเหตุนี้ทำให้เราต้องมีศูนย์ฝึกเพิ่มขึ้นและแต่ละศูนย์ฝึกจะต้องมีสนามซ้อมอย่างน้อย 3-5 สนาม เพื่อรองรับในกรณีที่นักกีฬาทีมชาติเข้าไปเก็บตัวแต่รุ่น แต่ละครั้ง

มีคำถามว่า ทำไมไม่ใช้ที่ศูนย์ฝึกหนองจอก หรือศูนย์ฝึกที่เรามีอยู่ เราก็ใช้อยู่ครับ ใช้อยู่ตลอด ทีมชาติหญิง ชุดใหญ่ หรือ ชุด 19 ปี, 16 ปี ก็ใช้ ทีมชาย 14 ปี, 16 ปี, 19 ปี, 21 ปี เราเข้าไปใช้อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราจะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางฟุตบอลของอาเซียน เราจะต้องสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานระดับสากล เพื่อดึงทีมชาติ หรือทีมในระดับสโมสรชั้นนำต่างๆ ให้เดินทางเข้ามาเก็บตัวที่ประเทศไทย เหมือนกับที่ศูนย์ฝึกหนองจอกก็มีทีมจากประเทศต่างๆ มาใช้บริการอยู่ ทั้ง กัมพูชา ลาว พม่า หรือแม้กระทั่ง อิหร่าน ก็เข้ามาเก็บตัวที่นี้ด้วย

ประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถเล่นกีฬาได้ตลอดทั้งปีเหมาะสมแก่การเก็บตัว อย่างในฤดูหนาว ทีมชาติญี่ปุ่น จีน หรือ เกาหลี ก็เข้ามาเก็บตัวในบ้านเราแต่ไม่มีใครทราบ แต่การที่จะมาใช้ที่หนองจอก ก็ถูกมองว่ามาตรฐานยังไม่ถึง เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากให้ทีมชั้นนำเหล่านี้มาเก็บตัว เราต้องมีศูนย์ฝึกที่มีมาตรฐาน ใครอยากมาเก็บตัวเราพร้อมให้บริการและเก็บค่าใช้จ่าย เหมือนอย่างที่ทีมชาติไทยไปเก็บตัวต่างประเทศเราก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย พอเรามีศูนย์ฝึกฟุตบอลที่ดี ทีมชาติไทยเราอยากเก็บตัวก็สามารถเข้าไปใช้ได้เลย

ถ้าเรามีศูนย์ฝึกฟุตบอลทุกภูมิภาค ต่อไปเราก็เปิดลีก สร้างทัวร์นาเมนต์การแข่งขันของแต่ละศูนย์ได้ แต่สิ่งที่ต้องดูแลไปพร้อมๆ กันคือเด็กๆ ทุกคนต้องได้รับการศึกษาด้วย เวลาผมไปดูที่ดิน ที่จะใช้สร้างศูนย์ฝึกไม่ใช่ว่ามีที่ดินแล้วจะสร้างเลยไม่ใช่นะครับ ต้องดูด้วยว่าครบวงจรหรือไหม มีสถานที่ให้เด็กๆ ได้เรียนหรือไม่ ผมอยากให้แฟนบอลชาวไทยคิดให้ครบวงจร อย่ามองแค่ว่าผมมาใหม่ผมไม่อยากใช้ศูนย์ฝึกหนองจอก หรือ มีศูนย์ฝึกหนองจอกแล้วเราไม่คิดที่จะสร้างศูนย์ฝึกแห่งใหม่เหรอ ถ้าจะสร้างศูนย์ฝึกแล้วเราไม่ต้องหาที่ดินเพื่อศึกษาและเตรียมพร้อมก่อนเหรอ สิ่งหนึ่งที่เราต้องมีที่ดินและที่ดินต้องมาจากการบริจาคให้สมาคมฯ เพราะว่า สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เขามีนโยบายเรื่องการสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาฟุตบอลของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะ เอเอฟซี เขามีนโยบายเรื่องการสนับสนุนการสร้างสนามฟุตบอล ทุกๆ ปีเขาจะมีโครงการสร้างสนามฟุตบอล 7 คน (หญ้าเทียม) ให้ทุกๆ ประเทศปีละ 1 สนาม ถามว่าถ้าเราไม่มีที่ดินเตรียมไว้ก่อนถึงเวลา งบประมาณมาก็อด งบประมาณตรงนี้ก็ไปประเทศอื่น ผมถึงได้หาที่ดินเพื่อเตรียมพร้อมไว้ทั้งวันนี้และในอนาคต อีก 10-20 ปี

อีกเรื่องหนึ่งข้อดีของการมีศูนย์ฝึกฟุตบอลทั่วประเทศทุกภูมิภาค วันนี้เราเริ่มสร้างโค้ช และเรากำลังจะสร้างแบบฝึกฟุตบอลให้เข้ากับสรีระร่างกายของคนไทย จากนั้นเราก็ใช้แบบฝึกนี้สอนเด็กๆ แล้ววันหนึ่งเราก็จะได้นักกีฬาฟุตบอลที่เล่นแบบ “ไทยสไตล์” เล่นแบบเดียวกับญี่ปุ่นที่เล่นฟุตบอลเหมือนกันทุกชุด
นี่คือสิ่งที่ผมคิดและจะทำ ซึ่งมันอาจจะไม่เกิดขึ้นใน 3 ปี หรือ 5 ปี อาจจะเกิดขึ้น 10 ปีไปแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าการสร้างบุคคลากรและหลายๆ สิ่งของวงการฟุตบอลเราไม่อาจจะสร้างได้ใน 3 เดือน หรือ 6 เดือน มันต้องใช้เวลา ต้องมีการเรียนรู้ หาประสบการณ์ ต้องฝึกฝน และการเตรียมความพร้อม เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมคิดผมทำทั้งหมดไม่ใช้เป็นการฝันเฟื้อง แต่ผมคิดไว้ให้คนรุ่นหลังที่จะเข้ามาสามารถเดินต่อหรือสานต่อได้ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมคนเดียว คนที่มาทำงานต่อจากผมก็จะต้องทำต่อ แม้จะไม่เกิดในยุคผมก็ขอให้เกิดในยุคต่อๆ ไป ก็ยังดี ที่สำคัญที่สุดสมาคมฯ ไม่สามารถทำได้โดยลำพัง หากไม่ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนอย่างจริงจังของรัฐบาล เหมือนรัฐบาลของประเทศอื่นๆ เขาทำกัน”

 

ยอดนิยมในตอนนี้