รีเซต
เปิดประวัติ 5 นักเตะสู้ชีวิต จากชีวิตสุดพัง สู่นักฟุตบอลดังแข้งเทพ

เปิดประวัติ 5 นักเตะสู้ชีวิต จากชีวิตสุดพัง สู่นักฟุตบอลดังแข้งเทพ

เปิดประวัติ 5 นักเตะสู้ชีวิต จากชีวิตสุดพัง สู่นักฟุตบอลดังแข้งเทพ
TNP1459
29 สิงหาคม 2566 ( 10:19 )
390

       กว่าจะเป็นนักฟุตบอลระดับโลกแน่นอนว่าไม่ง่าย แต่สำหรับ 5 นักเตะสู้ชีวิต ที่เราคัดมานี้ เรียกว่าอุปสรรคไม่ธรรมดา! จากชีวิตสุดพัง สู่นักฟุตบอลดังแข้งเทพ พวกเขาจะต้องผ่านอะไรมาบ้าง ไม่ว่าจะปัญหาครอบครัว ปัญหาสุขภาพ หรือปัญหาส่วนตัวด้านอื่นๆ มาติดตามและเก็บเป็นแรงบันดาลใจกันเลย!

 

อันดับที่ 5 นักเตะสู้ชีวิต คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo)

 

cristiano barni / Shutterstock.com

 

         เรียกได้ว่าเป็นนักสู้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เพราะเขาเกือบจะไม่ได้ลืมตาดูโลกเสียแล้ว เนื่องจากครอบครัวมีฐานะลำบากมาก ทำให้แม่ของเขามีความคิดที่จะทำแท้ง แต่ได้ตัดสินใจยอมลำบากเพื่อคลอดโรนัลโดออกมาในที่สุด และนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดเลยก็ว่าได้ เขาเป็นลูกคนสุดท้องมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน อาศัยรวมกันกับญาติๆ ในบ้านหลังเล็กย่านชุมชนคนยากจน แม่ของเขาทำอาชีพแม่บ้าน ส่วนพ่อเป็นคนสวนที่ติดสุราอย่างหนักถึงขั้นเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ทำให้ชีวิตวัยเด็กของเขาลำบากมากทีเดียว

        สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขมากก็คือการเล่นฟุตบอลข้างถนนกับเพื่อนๆ และพรสวรรค์ของเขาก็โดดเด่นสะดุดตามาก การเดินทางของโรนัลโด้สู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพต้องเผชิญกับอุปสรรคไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นที่ทราบกันดีว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้อนตั้งแต่เด็ก และถูกไล่ออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 14 ปีเพราะปาเก้าอี้ใส่ครู นอกจากนี้ เมื่ออายุ 15 ปี เขาได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหัวใจเต้นเร็ว ซึ่งเป็นภาวะที่อาจขัดขวางอาชีพนักฟุตบอลของเขา อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้เข้ารับการผ่าตัดด้วยเลเซอร์เพื่อรักษาอาการและสามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้ตามปกติในที่สุด

       ปัจจุบันโรนัลโด้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า 5 สมัย และได้รับรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย อีกทั้งยังเดินหน้าต่อในอาชีพนักฟุตบอลอาชีพโดยยังรั้งอันดับ 1 นักเตะที่ได้ค่าเหนื่อยต่อปี เยอะที่สุดของโลก อยู่ที่ 173 ล้านปอนด์ ต่อปี เรียกได้ว่าสู้ว่าไม่น้อยแต่ผลลัพธ์ก็คุ้มค่ามากจริงๆ

 

 

อันดับที่ 4 นักเตะสู้ชีวิต หลุยส์ ซัวเรซ (Luis Suarez)

 

Christian Bertrand / Shutterstock.com

 

        หลุยส์ ซัวเรซ เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 1987 ในเมืองซานโตส ประเทศอุรุกวัย เขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ยากจน แม่ของเขาเลี้ยงลูกคนเดียวในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยว ซัวเรซเป็นสมาชิกคนที่ 5 และมีพี่น้องอีก 6 คน ดในวัยเด็ก ซัวเรซต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย เขาต้องช่วยแม่ทำงานหาเงิน บางครั้งต้องอดอาหาร บางครั้งต้องนอนข้างถนน เขาต้องต่อสู้กับความรุนแรงในโรงเรียน และถูกรังแกจากเด็กคนอื่นๆ

        แต่ซัวเรซก็ไม่เคยยอมแพ้ต่อความฝันของเขา เขารักฟุตบอลมากจึงมักจะใช้เวลาว่างไปกับการซ้อมฟุตบอล และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้ และก็ทำได้สำเร็จเมื่ออายุได้ 14 ปี ซัวเรซได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรนาซิอองนาล ประเทศอุรุกวัย เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งทำประตูได้มากมาย และยังช่วยให้ทีมนาซิอองนาลคว้าแชมป์ลีกในปี 2005 อีกด้วย

       เส้นทางนักเตะของเขานับว่าสดใสมาก ซัวเรซได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก และยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีด้วย ถึงแม้จะมีข่าวลบๆ อยู่บ้างจากพฤติกรรมกัดนักเตะฝ่ายตรงข้าม แต่ก็ยังคงเล่นตำแหน่งกองหน้าให้สโมสร Grêmio และทีมชาติอุรุกวัยอยู่ใมนปัจจุบัน

 

 

อันดับที่ 3 นักเตะสู้ชีวิต อังเคล ดิ มาเรีย (Angel Di Maria)

 

cristiano barni / Shutterstock.com



         อังเคลต้องดิ้นรนทำงานหนักตั้งแต่เด็กๆ เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว รวงมถึงช่วยพ่อแม่ทำงานที่เหมืองถ่านหินร่วมกับพี่น้อง เพราะครอบครัวของเขามีฐานะยากจนมาก การจะซื้อรองเท้าฟุตบอลดีๆ สักครู่จึงเป็นเรื่องเกินฐานะไปมากทีเดียว

         แต่ความพยายามก็ไม่เคยทำร้ายใคร เมื่อเขาเริ่มเล่นฟุตบอลก็ฉายแววโดดเด่นเข้าตาแมวมอง จนได้เซ็นสัญญากับทีมเยาวชน Newell's Old Boys เมื่ออายุ 10 ปี และลงเล่นอาชีพครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี รวมถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในอาร์เจนตินา 

        ถึงแม้หลังจากนั้นอังเคลจะประสบความสำเร็จแบบฉุดไม่อยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าได้มาง่ายๆ ด้วยความที่เขาย้ายไปเล่นให้กับทีมในต่างประเทศหลายทีม ทำให้ต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่และเรียนรู้ภาษาใหม่อยู่เสมอ แต่ก็ไม่ทำให้อังเคลย่อท้อ ในที่สุดเขาจึงสามารถพูดได้ทั้งภาษาสเปน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, อิตาลี และรัสเซีย 

       นอกจากนี้ยังได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง เช่น บาดเจ็บที่หัวเข่าในปี 2010 และ 2014 บาดเจ็บที่ขาในปี 2016 และ 2020 รวมถึงบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายในปี 2022 ทำให้พลาดลงสนามหลายครั้งและโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นนักเตะขี้แพ้ 

       แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถหยุดเขาไว้ได้ ทำให้ปัจจุบันอังเคล ดิ มาเรียหลายเป็น 1 ใน10 นักเตะที่ แมนยู ซื้อมาด้วยค่าตัวแพงที่สุดในราคาถึง 59.7 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

 

 

อันดับที่ 2 นักเตะสู้ชีวิต ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (Zlatan Ibrahimovic)

 

LiveMedia / Shutterstock.com

 

        ซลาตัน เกิดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1981 ที่เมืองมัลโม ประเทศสวีเดน เขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจนมาก โดยพ่อของเขาเป็นชาวบอสเนียและแม่ของเขาเป็นชาวโครเอเชียที่อพยพมาอยู่ที่สวีเดนเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ตั้งแต่ซลาตันอายุได้เพียงสองขวบ ไม่เพียงแต่ต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่และเรียนรู้ภาษาใหม่เท่านั้น แต่ซลาตันเองยังต้องทำงานหนักตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้อง แม่มักจะตีหัวเขาด้วยช้อนไม้จนหัก น้องสาวต่างแม่ของเขามีปัญหายาเสพติด เมื่อแม่ของเขาถูกจับข้อหาขโมยของ ซลาตันก็ต้องถูกส่งตัวไปอยู่กับพ่อตอนอายุ 9 ขวบ แต่ก็ต้องหนีกลับมาหาแม่อีกครั้งเพราะตู้เย็นของพ่อไม่มีอาหาร มีแต่ขวดเหล้าเบียร์ เรียกได้ว่าชีวิตครอบครัวพังสุดๆ 

        และจุดเปลี่ยนในชีวิตก็มาถึง เมื่อเขาเริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกเมื่ออายุ 6 ขวบ โดยเล่นให้กับทีมเยาวชนของสโมสรท้องถิ่น ด้วยทักษะการยิงประตูที่แม่นยำ และความเร็วในการเลี้ยงลูกหลบหลีกชนิดหาตัวจับยาก ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในยุโรป เขาเซ็นสัญญากับทีมเยาวชนของมัลโมเมื่ออายุ 15 ปี และลงเล่นอาชีพครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี จนกระทั่งกลายเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

        อุปสรรคหนึ่งที่ซลาตันต้องต่อสู้มาตลอดก็คือ อาการบาดเจ็บ ซึ่งเขาบาดเจ็บหนักมาหลายครั้งมากทีเดียว นอกจากนี้เขายังถูกวิจารณ์จากสื่อหลายครั้งว่าเป็นคนหยิ่งและเอาแต่ใจ เป็นคนสร้างปัญหาให้กับทีม ซึ่งหลายคนมองว่าส่วนหนึ่งอาจจะมาจากปัญหาครอบครัวในวัยเด็กของเขานั่นเอง แต่ถึงแม้จะเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งอาการบาดเจ็บและปัญหาส่วนตัว แต่ซลาตันก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอล โดยเขาสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดใน 6 ประเทศที่แตกต่างกัน รวมถึงอิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน และสหรัฐอเมริกา และเขายังคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสองสมัยอีกด้วย

 

 

อันดับที่ 1 นักเตะสู้ชีวิต ดิเอโก้ มาราโดน่า (Diego Maradona)

   

colomboPICS / Shutterstock.com

 

       ดิเอโก มาราโดน่า มีชีวิตที่ยากลำบากทั้งในด้านชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงาน เขาเติบโตมาในครอบครัวยากจนในสลัมของเมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ทำให้พวกเขาต้องดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพแบบปากกัดตีนถีบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังชักหน้าไม่ถึงหลังทำให้มาราโดน่าต้องอดอยากอยู่บ่อยครั้ง

       แม้จะมีอุปสรรคมากมาย มาราโดน่าก็โดดเด่นในกีฬาฟุตบอล เขาเข้าร่วมทีมเยาวชนเมื่ออายุ 10 ขวบ และลงเล่นอาชีพครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี เขากลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว และยังพาทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1986 อีกด้วย

       หลังจากฟุตบอลโลก มาราโดน่าย้ายไปเล่นให้กับนาโปลีในอิตาลี เขาช่วยนาโปลีคว้าแชมป์เซเรีย อาสองสมัยแรก ในตอนนั้นๆ ใครๆ ต่างก็รักและชื่นชมในตัวเขา เรียกได้ว่าเป็นบุคลต้นแบบเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม เขาเริ่มมีปัญหาติดยาเสพติดในเวลาต่อมา โดยถูกตรวจพบว่าใช้โคเคนในปี 1991 และถูกแบนจากวงการฟุตบอลเป็นเวลา 15 เดือน

       มาราโดน่ายังคงเล่นฟุตบอลหลังจากถูกแบน แต่อาชีพการงานของเขาไม่เคยฟื้นตัวกลับมาได้อีกเลย จนกระทั่งเกษียณจากฟุตบอลอาชีพในปี 1997

       หลังจากเกษียณ มาราโดน่ายังคงมีปัญหาติดยาเสพติดและน้ำหนักเกิน รวมถึงปัญหาสุขภาพอีกหลายอย่าง รวมถึงหัวใจวายในปี 2004 แต่ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ก่อนที่มาราโดน่าจะเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายในปี 2020 เมื่ออายุ 60 ปี ถึงแม้เขาจะมีช่วงชีวิตที่ลำบากและตกต่ำอยู่หลายครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ดิเอโก้ มาราโดน่าคือหนึ่งในผู้เล่นฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่!

เคล็ดลับการรับชมพรีเมียร์ลีกให้มันส์จุใจในทุกช่องทาง คลิกเลย!

อัปเดตข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัปเดตข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้