รีเซต
ดูเทนนิสให้สนุก ต้องรู้จักกฏและกติกา

ดูเทนนิสให้สนุก ต้องรู้จักกฏและกติกา

ดูเทนนิสให้สนุก ต้องรู้จักกฏและกติกา
truelife_sport
8 กุมภาพันธ์ 2560 ( 11:49 )
10K

เทนนิส (Tennis) เป็นกีฬาที่เล่นในร่มหรือกลางแจ้ง แบ่งเป็น 2 ฝ่ายแข่งกัน โดยมีผู้เล่นในประเภทเดี่ยวฝ่ายละ 1 คน และผู้เล่นในประเภทคู่ฝ่ายละ 2 คน ใช้ไม้เทนนิสตีส่งลูกไปมาเหนือตาข่ายภายในเขตที่กำหนด โดยพยายามตีลูกให้ลงในแดนคู่แข่ง จนคู่แข่งไม่สามารถตีลูกกลับมาลงในแดนของเราได้

 

 

เทนนิสเป็นเกมกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งใช้ไม้แร็กเก็ต ถือกำเนิดในยุโรปช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ช่วงแรกๆนั้นเทนนิสได้แพร่ขยายไปยังกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นสูง แท้จริงแล้วเทนนิสเป็นกีฬาสากลและเป็นเกมที่เล่นกันเกือบทุกประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1926 ซึ่งมีการจัดทัวร์นาเมนต์ครั้งแรก เทนนิสจึงได้กลายเป็นกีฬาอาชีพ เทนนิสได้ถูกบรรจุในกีฬาโอลิมปิก ณ โซล ปี ค.ศ.1988

การเล่น
การเลือกแดน/เลือกเสิร์ฟ
ผู้ตัดสินจะโยนเหรียญเพื่อตัดสินหาผู้ชนะ ซึ่งจะได้เลือก 1 ใน 3 ตัวเลือกต่อไปนี้

1.เลือกเสิร์ฟหรือรับเสิร์ฟก่อนในเกมแรก โดยคู่แข่งจะได้เลือกแดนแทน
2.เลือกแดนในเกมแรก โดยคู่แข่งจะได้เลือกเสิร์ฟหรือรับเสิร์ฟในเกมแรกแทน
3.เลือกให้คู่แข่งเป็นฝ่ายเลือก 1 ใน 2 ข้อด้านบน
ลูกการเสิร์ฟ

การเสิร์ฟ (serving) คือ การตีส่งบอลครั้งแรกของคะแนนนั้นๆไปให้คู่แข่ง ประเภทผู้เล่นเดี่ยวจะผลัดกันเสิร์ฟฝ่ายละ 1 เกมไปเรื่อยๆ ส่วนในการเล่นประเภทคู่ ผู้เล่นทั้งสองคนในฝ่ายเดียวกันจะต้องผลัดเสิร์ฟคนละ 1 เกมด้วย (ฝ่ายหนึ่งผลัดเสิร์ฟในเกมคี่ ฝ่ายหนึ่งผลัดเสิร์ฟในเกมคู่)

  • การเสิร์ฟ โยนบอลและตีกลางอากาศ
  • การเสิร์ฟ ห้ามเดิน วิ่ง หรือเคลื่อนที่ไปมาขณะเสิร์ฟ (foot fault) ยกเว้นเท้าเคลื่อนที่เล็กน้อย ส่วนฝ่ายรับจะยืนบริเวณใดก็ได้ในฝ่ายของตน
  • การเสิร์ฟ ยืนหลังเส้นหลังในด้านที่กำหนดไว้สำหรับคะแนนนั้นๆ ห้ามเหยียบเส้นใดๆ รวมทั้งห้ามยืนเลยแนวเส้นข้างและแนวขีดกลางของเส้นหลัง (foot fault)
  • การเสิร์ฟโดยตีไม่โดนบอล จะถือว่าการเสิร์ฟครั้งนั้นเสีย แต่การโยนบอลแล้วปล่อยบอลตกลงพื้นโดยที่ไม่พยายามตีบอลสามารถทำได้และสามารถเริ่มเสิร์ฟใหม่ได้
  • การเสิร์ฟโดยตีบอลแล้วบอลไปโดนหรือสัมผัสวัตถุอื่นก่อนตกลงพื้นสนามถือว่าเสิร์ฟเสีย เช่น โดนเสาตาข่าย โดนผู้เล่นฝ่ายเดียวกับเรา เป็นต้น
  • การเสิร์ฟ จะต้องเสิร์ฟโดยสลับฝั่งขวา/ซ้ายของเส้นเสิร์ฟกลางไปทุกคะแนน กล่าวคือ ในเกมทั่วไปเริ่มเสิร์ฟคะแนนแรกที่ด้านหลังสนามด้านขวาของเส้นเสิร์ฟกลาง(ด้าน Deuce court) และในคะแนนถัดไปต้องสลับไปเสิร์ฟที่หลังสนามด้านซ้ายของเส้นเสิร์ฟกลาง(ด้าน Advantage court)
  • การเสิร์ฟเมื่อเล่นเกมไทเบรก(โปรดดูที่ไทเบรก) ฝ่ายแรกจะเสิร์ฟแค่คะแนนที่ 1 ก่อน จากหลังสนามด้านขวาของเส้นเสิร์ฟกลาง(ด้าน Deuce court) และต่อจากนี้จะผลัดการเสิร์ฟฝ่ายละ 2 คะแนนไปเรื่อยๆสลับกัน โดยตั้งแต่คะแนนที่ 2 จะให้อีกฝ่ายเริ่มเสิร์ฟจากหลังสนามด้านซ้ายของเส้นเสิร์ฟกลาง(ด้าน Advantage court) และต้องสลับด้านเสิร์ฟซ้าย/ขวาไปทุก 1 คะแนนเช่นกัน หากเล่นประเภทคู่ก็ต้องสลับกันเสิร์ฟคนละ 2 คะแนนเช่นกัน
  • การเสิร์ฟจะต้องเสิร์ฟให้บอลลงในกรอบพื้นที่เสิร์ฟ (service box) ของฝ่ายตรงข้ามในแนวทแยง เช่น กรณีเราเสิร์ฟจากด้านซ้าย ลูกเสิร์ฟจะต้องไปตกในกรอบพื้นที่เสิร์ฟด้านซ้ายของฝ่ายตรงข้ามด้วยเช่นกัน(ด้านขวามือเรา) เป็นต้น
  • เสิร์ฟเล็ต (let) จะต้องทำการเสิร์ฟลูกนั้นใหม่ ได้แก่ การเสิร์ฟโดยที่ลูกสัมผัสตาข่ายแล้วตกลงในกรอบพื้นที่เสิร์ฟที่ถูกต้องในแนวทแยง หรือลูกสัมผัสตาข่ายแล้วไปโดนผู้เล่นฝั่งตรงข้ามโดยที่ลูกยังไม่ตกพื้น หรือการเสิร์ฟเมื่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามยังไม่พร้อม ยกเว้นการเสิร์ฟที่ลูกสัมผัสตาข่ายแล้วตกนอกกรอบพื้นที่เสิร์ฟที่ถูกต้องจะถือว่าลูกนั้นเสียทันที (fault)
  • การเสิร์ฟ มีสิทธิ์เสิร์ฟได้คะแนนละ 2 ครั้ง หากเสิร์ฟครั้งแรกเสีย จะต้องเสิร์ฟครั้งที่ 2 และหากเป็นการเสียของลูกเสิร์ฟครั้งที่ 2 ของคะแนนนั้น(double fault) จะต้องเสียคะแนนนั้นให้คู่แข่งด้วย

การตีลูกกลับ

  • เมื่อลูกข้ามตาข่ายมาแล้ว สามารถตีลูกกลับไปในแดนคู่แข่ง โดยที่ลูกบอลอาจจะยังไม่กระทบพื้นสนามเลยก็ได้ หรือลูกกระทบพื้นสนามฝ่ายของเรามาแล้วไม่เกิน 1 ครั้งก็ได้
  • ต้องตีลูกบอลกลับภายในครั้งเดียว
  • การตีลูกบอลกลับแล้วลูกสัมผัสตาข่ายข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามไม่ถือว่าผิดกติกา
  • ผู้เล่นฝ่ายใดไม่สามารถตีลูกบอลกลับไปยังแดนของฝ่ายตรงข้ามได้โดยถูกกติกา จะต้องเสียคะแนนนั้นให้คู่แข่ง

การสลับแดน

การสลับแดน สลับแดนเมื่อเกมรวมกันเป็นเลขคี่และเมื่อจบเซ็ต แต่หากจบเซ็ตโดยเกมรวมกันเป็นเลขคู่ จะสลับแดนหลังจากจบเกมแรกของเซ็ตถัดไป ส่วนการสลับแดนในการเล่นไทเบรกจะสลับเมื่อคะแนนรวมกันได้ทุก 6 คะแนน
การตัดสินผู้ชนะ

การตัดสินผู้ชนะของการแข่งขัน(match) ตัดสินจากจำนวนเซ็ต(set) ที่ได้กำหนดไว้ในการแข่งขันนั้น โดยในแต่ละเซ็ตจะประกอบด้วยหลายๆเกม(game) และในแต่ละเกมจะประกอบไปด้วยการนับคะแนน(point) จากการเล่น ดังนี้

การนับเกมของเซ็ต

  • ในแต่ละเซ็ต ฝ่ายใดทำได้ 6 เกมก่อนและอีกฝ่ายทำได้ไม่เกิน 4 เกม จะเป็นฝ่ายชนะในเซ็ตนั้น เช่น ชนะ 6-4 เกม หรือ 6-3 เกม เป็นต้น
  • กรณีเซ็ตนั้น เสมอกันที่ 5-5 เกม จะต้องเล่นต่อจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำได้ 7 เกมก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะเซ็ตนั้น เช่น ชนะ 7-5 เกม
  • กรณีเซ็ตนั้น เสมอกันที่ 6-6 เกม จะต้องเล่นไทเบรกต่อในเกมที่ 7 เพื่อตัดสินผู้ชนะเซ็ต ซึ่งจะชนะ 7-6 เกม หรือแพ้ 6-7 เกม (ยกเว้นในเซ็ตสุดท้ายของรายการแกรนด์สแลมจะไม่มีการเล่นไทเบรก จะเล่นจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำคู่แข่งได้ 2 เกม)
  • จำนวนเกมในแต่ละเซ็ตอาจแปรเปลี่ยนได้ตามกติกาของบางรายการแข่งขันที่กำหนดขึ้นเฉพาะกิจ

การนับคะแนนของเกม

  • ในเกมหนึ่งๆ ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตามทำคะแนนได้จะนับคะแนนของฝ่ายนั้นเรียงตามลำดับดังนี้ 15, 30, 40, เกม (ซึ่งก็คือคะแนนที่ 1, 2, 3, 4 ที่ทำได้ตามลำดับนั่นเอง) ส่วนคะแนนศูนย์ (0) ภาษาอังกฤษขานว่า เลิฟ (love)
  • ในการขานคะแนน ให้ขานคะแนนของฝ่ายที่เสิร์ฟขึ้นก่อน เช่น 40-30 หมายถึง ฝ่ายเสิร์ฟได้ 40 คะแนน และฝ่ายรับเสิร์ฟได้ 30 คะแนน เป็นต้น
  • หากคะแนนเสมอกันที่ 40-40 จะต้องเล่นต่อไปอีก 2 คะแนน เรียกว่า ดิวซ์ (deuce) และเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำคะแนนนำ 1 คะแนนได้ก่อน เรียกว่า ได้เปรียบ (Advantage มักใช้อักษรย่อ A หรือ Adv) เช่น 40-A หรือ A-40 และหากฝ่ายนั้นทำได้อีก 1 คะแนน ก็จะชนะในเกมนี้ไป แต่หากทำไม่ได้ก็ถือว่ากลับมาเสมอกันที่ 40-40 อีกครั้ง และก็ต้องเล่นดิวซ์ต่อไป (แต่มีกติกาพิเศษในบางรายการแข่งขันที่กำหนดว่าจะไม่มีการเล่นต่อ 2 คะแนน ฝ่ายไหนได้คะแนนหลังจากคะแนนที่ 40 ก่อนถือว่าชนะเกมนั้น)
  • หากเกมใดที่ฝ่ายเสิร์ฟของเกมนั้นเป็นฝ่ายชนะ จะเรียกว่า รักษาเกมเสิร์ฟได้ แต่หากฝ่ายเสิร์ฟแพ้เกมนั้น จะเรียกว่า ถูกเบรกเกมเสิร์ฟ
  • ไทเบรก (tie break) ใช้เพื่อตัดสินผู้ชนะของเซ็ตนั้นในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายเสมอกันที่ 6-6 เกม การเล่นเกมที่ 7 เป็นเกมสุดท้ายของเซ็ต เรียกว่าเล่น ไทเบรก โดยในเกมนี้จะนับคะแนนเป็น 1, 2, 3,… ไปเรื่อยๆ ฝ่ายใดที่ทำได้ 7 คะแนนก่อนจะเป็นผู้ชนะในเซ็ตนั้น เช่น ชนะ 7-4 คะแนนของเกมที่ 7 ก็จะเป็นฝ่ายชนะในเซ็ตนั้น เป็นต้น แต่หากคะแนนของเกมนี้เสมอกันที่ 6-6 คะแนนอีก ผู้เล่นฝ่ายใดก็ตามที่ทำคะแนนนำคู่แข่งได้ 2 คะแนนก่อนจะเป็นผู้ชนะในเซ็ตนั้น เช่น ชนะ 8-6 คะแนน หรือแพ้ 8-10 คะแนน เป็นต้น เมื่อไทเบรกจบลง ผลจะเป็นชนะ 7-6 เกม หรือแพ้ 6-7 เกมในเซ็ตนั้นๆ (ยกเว้นในเซ็ตสุดท้ายของรายการแกรนด์สแลมจะไม่มีการเล่นไทเบรก)

ยอดนิยมในตอนนี้