ต้านไม่ไหว!ไทยพ่ายซาอุฯ 0-3 คัดบอลโลก

วันที่ 23 มีนาคม 2560 เวลา 19.00 น. ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบสาม โซนเอเชีย ในกลุ่ม บี ระหว่าง ทีมชาติไทย ที่มี 1 คะแนนจาก 5 นัดอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง พบกับ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย จ่าฝูงของกลุ่ม ที่มี 10 คะแนนจาก 5 นัด

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย หมดสิทธิ์ใช้ สารัช อยู่เย็น ที่อยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า โดยเกมนี้ส่ง จักรพันธ์ แก้วพรม ประเดิม11 ตัวจริง ร่วมกับแกนหลักชุดเดิมอย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , ธีราทร บุญมาทัน , ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีรศิลป์ แดงดา ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า

ด้าน เบิร์ต ฟาน มาร์ไวก์ กุนซือชาวดัตช์ ของ กรีน ฟอลคอนส์ ไม่มีชื่อของ ฟาฮัด อัล มุวาลัด กองกลางที่เรียกจุดโทษ ในเกมเปิดบ้านชนะทีมชาติไทย 1-0 ที่ได้รับอาการบาดเจ็บ โดยเกมนี้ ไตซิร อัล ญัซซิม ทำหน้าที่กัปตันทีม พร้อมแกนหลักอย่าง นาซิร อัล ชัมรอรี และ นาวาฟ อัล อะบิด ผู้ยิงประตูชัยในเกมก่อน

เริ่มเกมเพียง 8 นาที ทีมเยือนได้ลุ้นประตูขึ้นนำ จากจังหวะ ยะห์ยา อัล ชิห์ริ วิ่งทะลุมาทางกราบซ้ายเลี้ยงบอลมาสุดเส้นก่อนที่จะเปิดบอลมา ให้ มุฮัมมัด อัล ซะห์ลาวี ที่ยืนรออยู่หน้าปากประตู แต่ อดิศร พรมรักษ์ ยังสไลด์มาบล็อกไว้ได้ทัน

น. 22 ทีมเยือนได้โอกาสลุ้นประตูจากจังหวะขึ้นเกมทางกราบขวาก่อนที่ นาวาฟ อัล อะบิด ได้โอกาสตั้งป้อมวิ่งระยะ 35 หลาแต่บอลไม่แรงรอ หลุดเสาแรกออกไปนิดเดียว

น. 26 ทีมชาติซาอุดิอะราเบีย ได้ประตูขึ้นนำสำเร็จจากจังหวะที่ นาวาฟ อัล อะบิด โยนบอลจากหน้ากรอบเขตโทษให้ มุฮัมมัด อัล ซะห์ลาวี ที่หลุดกับดักล้ำหน้าวิ่งทะลุแผงหลังของเจ้าถิ่น แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยขวาเข้าประตูไป ทีมเยือนนำ 0-1

น.34 ทีมชาติไทย ได้โอกาสได้ลุ้นตีเสมอบ้างจากจังหวะโต้กลับของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายบอลทะลุช่องให้กับ ธีรศิลป์ แดงดา ที่วิ่งเบียดเอาชนะกับกองหลังทีมเยือนจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกฟาวล์ของทีมเยือน

น.36 ทีมชาติไทย ได้ลุ้นประตูตีเสมออีกครั้งจากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เปิดฟรีคิกระยะ 25 หลาแต่ผู้เล่นทีมเยือนยังสกัดออกมาไว้ได้

น.40 ทีมชาติไทย เกือบได้ประตูตีเสมอสำเร็จ จาก จังหวะที่ สิโรจน์ ฉัตรทอง แหวกแนวรับของทีมเยือน ก่อนปั่นด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลหลุดออกเสาสองไปนิดเดียว

น. 45 ทีมเยือนเกือบได้ประตูที่สอง จากจังหวะโต้กลับเร็ว ซัลมาน อัล ฟารัจญ์ ก่อนจ่ายให้ ยะห์ยา อัล ชิห์ริ ยิงไปติด อดิศร พรหมรักษ์ ออกหลังไป และเป็นจังหวะสุดท้ายก่อนหมดเวลาในครึ่งเวลาแรก ทีมชาติไทยตามหลังทีมชาติซาอุดิอาระเบีย 0-1

ก่อนเริ่มเกมในครึ่งหลัง ทีมชาติไทย ได้ทำกาเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกโดยถอดกองหลังอย่าง ประทุม ชูทอง ออก ส่ง พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ลงสนาม

น.52 ทีมชาติไทย มีโอกาสลุ้นประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ จักรพันธ์ แก้วพรม จ่ายบอลทะลุช่องให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยขวาแต่บอลไม่แรงพอ ยาสซิร อัล มุไซลีม รับได้สบาย

น.63 ทีมชาติไทย ได้ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สอง ส่ง ชาริล ชัปปุยส์ ลงสนามแทน จักรพันธ์ แก้วพรม

น.66 ทีมชาติไทย เกือบได้ประตูตีเสมอสำเร็จ จากจังหวะที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หลอกผู้เล่นทีมเยือนหนึ่งจังหวะก่อนส่งให้ ธีรศิลป์ แดงดา ก่อนจ่ายให้ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ที่หลุดมาทางกราบซ้าย ก่อนยิงบอลหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียว และทีมชาติไทยได้เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้าย ส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงสนามแทน สิโรจน์ ฉัตรทอง

น. 70 ทีมซาอุดิอาระเบีย ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกส่ง ซัลมาน อัลมุอาชิร ลงสนามแทน นาวาฟ อัล อะบิด

น.80 ทีมชาติไทยได้ลุ้นประตูตีเสมออีกครั้งจากจังหวะที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แหวกแนวรับทีมเยือนหน้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายให้ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ที่หลุดมาทางกราบซ้ายก่อนยิงบอลปลิ้นออกเสาแรกออกไป

น.84 ขุนพล กรีน ฟอลค่อนส์ มาได้ประตูขึ้นนำ 0-2 จากจังหวะที่ มันซูร อัล ฮัรบี หลุดมาจากกราบซ้าย ก่อนเปิดบอลมาหน้ากรอบประตู แต่เป็น ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่ยกขาสกัดบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซัลมาน อัลมุอาชิร มาทำประตูปิดท้ายให้ซาอุดิอาระเบีย จบเกม ทีมชาติไทย พ่าย ซาอุดิอาระเบีย 0-3 ทำให้ยังคงมีแต้มเดียวจาก 6 นัด แทบจะหมดโอกาสไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียเรียบร้อยแล้ว

รายชื่อ 11 ตัวจริงทั้งสองทีม

ทีมชาติไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK) : อดิศร พรหมรักษ์ , ธนบูรณ์ เกศารัตน์ , ประทุม ชูทอง , ปกเกล้า อนันต์ , จักรพันธ์ แก้วพรม , ทริสตอง โด , ธีราทร บุญมาทัน , ชนาธิป สรงกระสินธ์ , สิโรจน์ ฉัตรทอง , ธีรศิลป์ แดงดา

ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย : ยาสซิร อัล มุไซลีม (GK) มันซูร อัล ฮัรบี , มุต๊าซ เฮาซาวี , อุมัร เฮาซาวี , ซัลมาน อัล ฟารัจญ์ , ยะห์ยา อัล ชิห์ริ , มุฮัมมัด อัล ซะห์ลาวี , อับดุลมาลิก อัล คอยบรี , ไตซิร อัล ญัซซิม , นาวาฟ อัล อะบิด , นาซิร อัล ชัมรอรี

ชมสด!! ศึกไทยลีก พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ TrueID App และ เว็บไซต์ Sport TrueID