รีเซต
ยุคทองของทีมชาติไทย โดยผู้ชายที่ชื่อ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

ยุคทองของทีมชาติไทย โดยผู้ชายที่ชื่อ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

ยุคทองของทีมชาติไทย โดยผู้ชายที่ชื่อ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
armcasanova
1 เมษายน 2560 ( 10:46 )
3.2K

 

หลังจากมีกระแสการปลดโค้ชซิโก้ จากผลงานที่ไม่ค่อยดีในศึก ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย แข่ง 7 นัด มีเพียง 1 คะแนน หมดสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซียแน่นอนแล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ประกาศยุติบทบาท การเป็นหัวหน้าผู้ฝุชึกสอนทีมขาติไทย เรียบร้อยแล้ว

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กลายเป็น ทอล์คออฟเดอะทาวน์ ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา วันนี้จึงทำให้ ทีมงาน Sport Trueid รวบรวมผลงานการทำทีมขาติไทย กลับมาสู่ยุคทองอีกครั้ง ของ ซิโก้ โดยใช้เวลาในการคุมทีม 4 ปี

 

 

เมื่อปี 2556  สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แต่งตั้งให้ ซิโก้ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เพื่อทำศึกซีเกมส์ 27 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า และในช่วงการเตรียมทีม ทีมชาติไทยชุดดังกล่าวได้มีโอกาสไปเตะแมตช์กระชับมิตรกับ ทีมชาติจีน โดยทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทีมชาติจีน ด้วยการทำประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือ 5-1 หลังจากนั้นปลายปี ซิโก้ ก็พาทีมชาติไทย ยู23 คว้าแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ได้สำเร็จ

การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2557 ทำผลงานได้ดี พาทีมคว้าอันดับ 4 ไปได้

ต่อมา ซิโก้ ได้ขึ้นไปคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ โดยการใช้นักเตะชุดเดิมจากแชมป์ซีเกมส์ที่เนปิดอว์ โดยถือได้ว่า เป็นจุดเริ่มต้นในการแจ้งเกิดทั้งตัวเองและผู้เล่นหลายๆคน โดยการพาทีมคว้าแชมป์ อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2557 เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่ทีมชาติไทยทำได้

 

 

ต่อมาปี 2558 พาทีมได้รองแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 43 โดยนัดสุดท้ายเสมอเกาหลีใต้ 0-0 หลังจบเกมซิโก้ออกมาขอโทษแฟนบอลที่ไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้

หลังจากนั้น มีการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ ก็ด้มอบหมายให้ โชคทวี พรหมรัตน์ เข้ามาคุมทีมแทน โดยใช้นักเตะดาวรุ่งในชุดที่แจ้งเกิดกับซิโก้ด้วย โดยมี สารัช อยู่เย็น เป็นกัปตันทีม ก็สามารถแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ไปครองได้

ปี 2559 ซิโก้ สามารถสร้างความยินดีให้กับแฟนบอลอีกมากมาย โดยการเป็น แชมป์กลุ่ม F ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 3 โดยสร้างความชื่นมื่นให้แฟนบอลโดยการ เสมอ อิรักในราชมัง 2-2

 

 

ซิโก้ ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับทีมชาติไทยอีกครั้ง ในวันที่ 3-5 มิถุนายน ปีเดียวกัน ด้วยการพาทีมชุดเดิมคว้ารางวัลชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 44 จากการชนะในการดวลจุดโทษกับซีเรียด้วยสกอร์รวม 9-8 หลังจากใน 90 นาทีเสมอกัน 2-2 และชนะจอร์แดน 2-0 นับเป็นการคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี หลังจากครั้งล่าสุดคว้าแชมป์ในครั้งที่ 38 เมื่อปี พ.ศ. 2550

ต่อมาในช่วงสิ้นปี ซิโก้ ก็ไม่ทำให้แฟนบอลไทยผิดหวัง โดยการพาทีมป้องกันแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2559 ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์สุดท้ายในยุคของเจ้าตัว

 

 

จากการทำทีมชาติไทยของ ซิโก้ ทำให้บรรดานักเตะแจ้งเกิดกันไปตามๆ กัน โดยทีมชาติไทยในยุคนี้ เป็นชุดที่ใครใครต่อใครก็อยากติดทีมชาติ โดยผู้เล่นที่แจ้งเกิดในยุคนี้ อาทิเช่น ชาริล ชัปปุยส์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, สิโรจน์ ฉัตรทอง เป็นต้น

จากตำนานนักเตะจอมตีลังกาดาวยิงทีมชาติไทย ที่เคยประกาศไว้หลังจากวันที่อำลาผืนหญ้า ว่า สักวันหนึ่งจะกลับมาเป็นโค้ชทีมชาติไทย และตลอดระยะเวลา 4 ปี ในการคุมทีม ซิโก้ ก็สามารถเข้าไปอยู่ในหัวใจของแฟนบอลได้อีกครั้ง ในนาม หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้

แต่แล้ววันนี้ ซิโก้ ได้กลายเป็นอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เรียบร้อยแล้ว แต่ผลงานของเขาก็ยังคงอยู่ในใจแฟนบอลไทยต่อไปแน่นอน

 

ชมสด!! ศึกไทยลีก พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ TrueID App และ เว็บไซต์ Sport TrueID

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้