รีเซต
อาแอส โมนาโก : ส่วนผสมที่ลงตัวของ "ความสด และประสบการณ์"

อาแอส โมนาโก : ส่วนผสมที่ลงตัวของ "ความสด และประสบการณ์"

อาแอส โมนาโก : ส่วนผสมที่ลงตัวของ "ความสด และประสบการณ์"
kentnitipong
18 พฤษภาคม 2560 ( 11:01 )
1K

อาแอส โมนาโก ผงาดคว้าแชมป์ลีกเอิงเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี หลังเปิดบ้านคว่ำ แซงต์ เอเตียน ไปด้วยสกอร์ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 92 แต้ม ดับฝัน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่หวังสร้างสถิติคว้าแชมป์ลีก 5 สมัยติดต่อกัน

 

แชมป์ในซีซั่นนี้ส่งผลให้ โมนาโก คว้าโทรฟี่เป็นสมัยที่ 8 ทำสถิติเข้าใกล้ แซงต์ เอเตียน ที่ยังคงเป็นเจ้าของสถิติเจ้าของแชมป์ลีกมากที่สุดในฝรั่งเศสที่ 10 สมัย

การผ่านทะลุเข้าไปถึงรอบเซมิไฟน่อลในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการหักด่านอรหันต์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ย่อมเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ถ้าเทียบกันที่เม็ดเงิน ขนาดทีม และชื่อเสียงของสโมสร

ขณะที่ผลงานในฟุตบอลถ้วยในประเทศของ โมนาโก นั้นก็ไม่ธรรมดา หลังจบด้วยการคว้ารองแชมป์เฟร้นช์ ลีกคัพ อีกทั้งยังตะลุยไปถึงรอบสี่ทีมสุดท้าย เฟร้นช์ คัพ แต่น่าเสียดายที่ โมนาโก นั้นไปไม่ถึงดวงดาวด้วยน้ำมือของ “เปแอสเช” ทั้งสองรายการ

104 ประตู จากการลงเล่น 37 นัด คือเครื่องหมายการันตีได้อย่างชัดเจนว่า “เกมรุก” ของทีมจากแดนใต้นั้น คือปัจจัยสำคัญที่ส่งให้ทีมทำผลงานได้อย่างสุดยอดในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะ ราดาเมล ฟัลเกา, คีเลียน เอ็มบัปเป้, วาแลร์ แชร์กแมง ที่ประสานงานกันได้อย่างลงตัวจนกลายเป็นเครื่องจักรถล่มประตูขนานแท้ โดยสามคนนี้พังประตูรวมกันได้มากถึง 46 ลูกในลีก

แม้หลายคนอาจจะเคยปรามาสว่า โมนาโก นั้นไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะพวกเขาใช้ “ดาวรุ่ง” เป็นแกนหลักของทีมมากจนเกินไป อีกทั้งนักเตะตัวเก๋าของทีม โดยเฉพาะเสือเฒ่าอย่าง ราดาเมล ฟัลเกา นั้นก็ถูกมองว่าผ่านฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดไปแล้ว

แต่ เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม กลับสมบทเชฟมือทอง ด้วยการนำส่วนผสมที่แตกต่างกันนี้ มาปรุงแต่งให้ โมนาโก นั้นกลมกล่อม ลงตัวยิ่งกว่าเมนูชั้นเลิศระดับมิชลินสตาร์ ที่แฟนบอลต่างติดอกติดใจในสไตล์การทำทีมที่เน้นเอนเตอร์เทนเป็นหลัก

กุนซือชาวโปรตุกีสรายนี้ ใช้เวลาล้มลุกคลุกคลาน และยอมเป็นเบี้ยล่างของ “เปแอสเช” ในลีกแดนน้ำหอมกว่า 3 ปี กว่าจะผงาดขึ้นมาได้ ต้องยกเครดิตให้กับอดีตโค้ชของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน รวมถึงบอร์ดบริหารที่ใช้ความอดทนในการรอคอยความสำเร็จครั้งนี้

ความกระหายในความสำเร็จของแกงค์กุมารดาวรุ่งอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้, โธมัส เลอมาร์, แบร์นาโด้ ซิลวา, เบนฌาแม็ง เมนดี้ และติเอมูเอ้ บากาโยโก้ ผนวกกับแข้งตัวเก๋าประจำทีมทั้ง ราดาเมล ฟัลเกา, เจา มูตินโญ่ และนายทวารอย่าง ดานิเยล ซูบาซิช ได้ส่งให้ โมนาโก ชุดนี้กลายเป็นอีกหนึ่งทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรไปแล้ว ทั้งในแง่ของโทรฟี่แชมป์ ความสมดุลของเกมรุก-รับ และคะแนนที่ทำได้

“ความสด” และ “ประสบการณ์” คือคำตอบสุดท้ายที่ทำให้ โมนาโก คว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ครับ…

 

ดูบอลออนไลน์!! ฟุตบอลลีกชั้นนำของโลก และ คลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @Trueid

 

ยอดนิยมในตอนนี้