5 สิ่งที่ "บัลเบร์เด้" ต้องทำที่ บาร์ซ่า !!!
อาจไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่นัก หลังยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลันอย่าง บาร์เซโลน่า ออกมาประกาศแต่งตั้งอดีตลูกหม้อเก่าอย่าง เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ขึ้นมารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่แทนที่ของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ที่ประกาศวางมือยุติการคุมทีมหลังจบซีซั่นที่ผ่านมา… แม้ว่าทีมจะอุดมไปด้วยนักเตะระดับโลกมากมาย แต่ขึ้นชื่อว่า บาร์เซโลน่า นั้นย่อมไม่มีอะไรที่ง่าย บวกกับความกดดันจากเหล่าสาวก “อาซูลกราน่า” ที่พร้อมจะถาโถมเข้าใส่กุนซือใหม่ถอดด้ามวัย 53 ปีรายนี้ นับตั้งแต่วินาทีที่แรกที่ตกลงรับตำแหน่ง ทำให้ บัลเบร์เด้ เอง ต้องเร่งวางแผน และลงมือสร้าง “บาร์ซ่า” ยุคใหม่ให้เร็วที่สุด
และที่คือ 5 สิ่งที่ “บัลเบร์เด้” ต้องทำ หากหวังที่จะพา บาร์เซโลน่า กลับมาประสบความสำเร็จให้ได้อีกครั้ง โดยเฉพาะสองรายการใหญ่ที่หลุดมือไปในซีซั่นที่ผ่านมาอย่าง ลา ลีกา และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
- รั้ง “เมสซี่” ไว้ให้ได้
นี่คือภารกิจแรก และเป็นภารกิจที่ “สำคัญที่สุด” ของอดีตกุนซือบิลเบารายนี้ ในการทำให้ดาวเตะหมายเลข 1 และนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของทีมอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ตัดสินใจจรดปากกาเซ็นสัญญาอยู่กับทีมต่อไปให้ได้
แม้จะมีข่าวหลุดออกมาบ้างว่ากัปตันทีมรายนี้ตัดสินใจต่อสัญญากับทีมไปจนถึงปี 2021 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าก็ยังไม่มีแถลงการณ์ยืนยันอย่างเป็นทางการจากสโมสรแต่ยังใด จึงเป็นหน้าที่ของ บัลเบร์เด้ ในการพูดคุยแนวทางการเสริมทัพ ปรัชญาการทำทีม เพื่อโน้มน้าวใจให้ “ลีโอ” อยู่กับทีมต่อไป
ดาวเตะหมายเลข 10 รายนี้ เปรียบเสมือนหัวใจ สัญลักษณ์ และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของ บาร์เซโลน่า ฉะนั้น หาก บัลเบร์เด้ ไม่รีบลงมือทำอะไรสักอย่าง บางทียอดทีมจากแคว้นคาตาลันอาจจะต้องเสียนักเตะที่พวกเขารักที่สุดอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ก็เป็นได้
2. รื้อ “แนวรับ” โดยด่วน
แม้ บาร์เซโลน่า จะมีเกมรุกที่ดีที่สุดในยุโรป แต่นั่นคงไม่มีประโยชน์อะไรหากทีมยังเสียประตูง่ายๆ อยู่ในหลายๆ เกม และการโดนเจาะตาข่ายถึง 37 ประตูในลีก น่าจะเป็นสถิติที่ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่สำหรับทีมที่ต้องการความสำเร็จในทุกๆ ซีซั่น
เคราร์ด ปิเก้ กับ ซามูเอล อุมตีตี้ อาจจะยังไม่ใช่พาร์ทเนอร์ที่ลงตัวที่สุด ขณะที่ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กับ เฌเรมี่ มาติเยอ นั้นก็โรยราเกินกว่าจะรับมือกับบรรดาหัวหอกใน ลา ลีกา แล้ว น่าสนใจว่า บัลเบร์เด้ จะดึงเด็กในคาถาอย่าง อายเมริก ลาปอร์เต้ มายืนปักหลักในแดนหลังหรือไม่
นอกจากนี้ การสูญเสีย ดานี่ อัลเวส ไปให้กับ ยูเวนตุส คือหายนะในแนวรับอย่างแท้จริง เนื่องจากดาวเตะแซมบ้ารายนี้สามารถสร้างสมดุลได้ทั้งเกมรุก และเกมรับ จนกลายเป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ดที่ บาร์ซ่า ขาดหายไป อีกทั้ง เซร์จี้ โรเบร์โต้ ก็ยังไม่ใช่ฟูลแบ็คโดยธรรมชาติ บวกกับ จอร์ดี้ อัลบา ดันมาฟอร์มตก จึงเป็นหน้าที่ของ บัลเบร์เด้ ที่จะเรียกความมั่นใจของนักเตะกลับมา หรือมองหาใครสักคนในตลาดซื้อขายนักเตะ เพื่อมายกระดับแนวรับของทีมให้ดีกว่าเดิม
3. กลับไปพาเพชรเม็ดงามใน “ลา มาเซีย”
“ลา มาเซีย” คือหนึ่งในอคาเดมีลูกหนังที่ดีที่สุดในโลก และแน่นอนว่าสถาบันแห่งนี้ได้สร้างเพชรเม็ดงามมาประดับวงการ รวมถึงทีมมาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงสอง-สามซีซั่นหลังนี้ ดูเหมือนว่า บาร์เซโลน่า จะใช้ประโยชน์จากศูนย์ฝึกเยาวชนของทีมนี้น้อยเกินไป จนเราแทบไม่เห็นเด็กรุ่นใหม่ที่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ได้เลย มีเพียง เซร์จี้ โรเบร์โต้ คนเดียวเท่านั้นที่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้
ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสต้า, เคราร์ด ปิเก้ หรือแม้กระทั่ง ลิโอเนล เมสซี่ คือผลผลิตจาก “ลา มาเซีย” ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักให้กับทีมได้ตั้งแต่ยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งถ้าเราสังเกตให้ดีจะเห็นได้เลยว่า เด็กๆ จาก ลา มาเซีย นั้นลงเล่นด้วยแพสชั่น และความกระหายต่อชัยชนะ อันนำมาซึ่งความสำเร็จสู่ทีมอย่างมากมาย ซึ่งบางที บัลเบร์เด้ อาจจะต้องกลับไปช้อนเพชรเม็ดงามสักสอง-สามชิ้นใน ลา มาเซีย เพื่อหยิบมาเจียระไน และผลักดันให้ขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมในระยะยาว
4. “ติกี้ ตาก้า” บวก “เอร์เนสโต้ สไตล์”
โค้ชทุกคนย่อมมีสไตล์การทำทีมเป็นของตัวเอง บัลเบร์เด้ ก็เช่นกัน เราคงไม่บอกให้เจ้าตัวไปปรับเปลี่ยนแผน หรือแนวทางการเล่นอะไรมากมาย เพียงแต่อยากเสนอให้กุนซือรายใหม่นี้ ลอง “มิกซ์ & แมทช์” ระหว่างปรัชญาของ “อาซูลกราน่า” และแท็คติกในแบบฉบับของ บัลเบร์เด้
บาร์เซโลน่า ยึดแนวทางการเล่นที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก รวดเร็ว เน้นการผ่านบอลบนพื้น และให้ผู้เล่นทุกคนขยับหาช่องเข้าทำกันอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ “เอร์เนสโต้ สไตล์” นั้นเน้นการขึ้นเกมจากตรงกลาง บวกกับการเซ็ตบอลยาวเพื่อขึ้นเกมรุก บางที เราอาจจะเห็น บาร์เซโลน่า ยุคใหม่ ที่มีการเข้าทำ หรือโจมตีที่หลากหลายมากขึ้น อันเป็นสิ่งที่น่าจะเข้ามาเติมเต็มเกมรุกของ บาร์ซ่า ที่ดูเหมือนว่า บางทีก็มีตื้อๆ อยู่เหมือนกัน เนื่องจากถูกคู่แข่งจับทางได้ และเน้นอุดจนสามประสานอย่าง MSN นั้นทำอะไรไม่เป็นเหมือนกัน
5. มองหา “จอมทัพ” สักคนในแดนกลาง
บาร์เซโลน่า อาจจะมีสะดุดเล็กน้อยในตอนที่พวกเขาเสีย ชาบี เอร์นานเดซ ออกจากทีมไป แต่นั่นยังคงไม่มีผลกระทบอะไรมาก เพราะพวกเขายังมี อันเดรส อิเนียสต้า อยู่… แต่ถ้าทีมกำลังจะเสีย อิเนียสต้า ไปหล่ะ ?
แม้ อิเนียสต้า จะยังคงยืนปักหลักเป็นตัวจริงให้กับทีม แต่เราต้องยอมก่อนว่า ด้วยวัย 33 ปี กัปตันทีมตัวจริงนั้นเริ่มแสดงอาการโรยราให้เห็นบ้าง และผ่านฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดไปแล้ว บางที บัลเบร์เด้ อาจจะต้องมองหา “จอมทัพ” สักคนในแดนกลาง เพื่อไม่ให้ทีมต้องเกิดอาการสะดุด หาก อิเนียสต้า ประกาศแขวนสตั๊ด หรือย้ายออกจากทีมไป อีกทั้งด้วยคิวโปรแกรมที่อัดแน่นตลอดทั้งปี จึงม่แปลกที่ บาร์เซโลน่า จะตกเป็นข่าวกับ อันเดร เอร์เรร่า ตั้งแต่ที่ บัลเบร์เด้ ยังไม่ก้าวมาเป็นกุนซือด้วยซ้ำ
ดูบอลออนไลน์!! ฟุตบอลลีกชั้นนำของโลก และ คลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @Trueid