TRUE FOCUS : 5 แข้งแจ้งเกิด โดยมีนายอำเภอชื่อ ราเยวัช ... by "Arm Phukrit"

ได้เห็นกันไปแล้ว ช้างศึก โฉมใหม่ภายใต้การคุมทีมของ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย ในแมตช์อุ่นเครื่องกับ ทีมชาติอุซเบกิสถาน และแมตช์ ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย 12 ทีมสุดท้าย กับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ทั้งนี้ ราเยวัช ได้เรียกผู้เล่นหน้าใหม่ๆ เข้ามาติดทีมชาติ โดยมีนักเตะหลายคนสามารถทำผลงานได้ดี โดยวันนี้ทางทีมงาน Sport Trueid นำเอา 5 ผู้เล่นแจ้งเกิด ในยุคของ ราเยวช มาให้ชมกันดังนี้

1. พรรษา เหมวิบูลย์

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ วัย 27 ปี จากปราสาทสายฟ้า เจ้าของความสูง 190 ซม. ติดทีมชาติไทยครั้งแรกในชีวิต ภายใต้การคุมทีมของ ราเยวัช เนื่องจากมีสไตล์การเล่นที่ภาษาฟุตบอลเรียกกันว่า ปลอดภัยไว้ก่อน  “เจ้าโย่ง” ไม่เคยเล่นบอลในจังหวะที่ยากหรือทำให้เพื่อนร่วมทีมตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน จังหวะชุลทุนหน้าประตู มักจะเป็นเจ้าตัวที่ตัดสินใจ เตะบอลทิ้งออกไปให้ไกลที่สุด เรียกได้ว่า เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่มักจะเคลียร์บอลขาดอยู่เป็นประจำ และอีกจุดเด่นคือ ลูกกลางอากาศด้วยความสูง 190 ซม. เขามักจะชิงจังหวะลูกโหม่งได้ดี และมีเกมวินัยในเกมรับเป็นอย่างดี นี่ถือว่าเป็นอนาคตกองหลังทีมชาติไทยเลยก็ว่าได้

2. เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ วัย 30 ปี จากสวาทแคท ติดทีมชาติไทยครั้งแรกในชีวิต ภายใต้การคุมทีมของ ราเยวัช เช่นเดียวกับ “เจ้าโย่ง” คู่กองหลังหน้าใหม่ แต่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กัปตันจากสวาทแคท อาศัยประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอล รวมไปถึงสไตล์การเล่นที่เด็ดขาด จนได้รับฉายากำแพงหินแห่งช้างศึก ในจังหวะที่เขาสกัดบอลจากคู่ต่อสู้ “เจ้าบอล” มักทำได้ดี แม้แต่ในจังหวะที่ต้องเคลียร์บอล แฟนบอลอาจจะได้เห็นอยู่หลายครั้งในขณะที่ “กัปตันบอล” เล่นให้กับ สวาทแคท สไตล์การเล่นจะคล้ายๆ กับ “พรรษา” อยู่ไม่น้อย ในเรื่องของ จังหวะการตัดสินใจ และ ความเด็ดขาด

3. ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

มิดฟิล์ดเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม – งานฟุตบอลสยามโกลเด้นบอล ครั้งที่ 4 จากกว่างโซ้งมหาภัย ติดทีมชาติไทยมาแล้วหลายชุด ได้ไปเล่นซีเกมส์และคว้าแชมป์เมื่อปี 2015 แต่หลังจากนั้นมักจะไม่ค่อยได้รับโอกาสลงชุดใหญ่ในยุคของซิโก้ แต่ทว่ามาในยุคของ ราเยวัช “เจ้านิว” มีโอกาสได้ลงสนามเป็นตัวจริงทั้งสองนัดและสามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะในแมตช์ล่าสุด ที่พบกับยูเออี ไม่รู้ไปเอาเรียวแรงมาจากไหน วิ่งไล่บอลตลอดทั้งเกม วิ่งขึ้นวิ่งลง ตัดบอล ทำลายเกมรุกของยูเออีได้อยู่หมัด ทำเอา อุมัร อับดุลรอฮ์มาน เล่นยากทั้งเกม แถมยังมีสถิติบ่งบอกอีกด้วยว่า “เจ้านิว” สามารถดวลตัวต่อตัวชนะคู่แข่งได้มากถึง 10 ครั้ง และ แท็คเกิ้ล ถึง 8 ครั้งมากที่สุดในเกม พร้อมกับได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอลเป็นจำนวนมาก

4. มงคล ทศไกร

กองหน้าตัวริมเส้นจาก กิเลนผยอง “จ่าเย็น” กลับมาติดทีมชาติในยุคของ ราเยวัช ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักของแฟนบอล ทำเอาเจ้าตัวถึงกับอึดอัดและเครียดอยู่ไม่น้อย หลังจากนั้นแมตช์ล่าสุด “จ่าเย็น” เป็นผู้พังประตูขึ้นนำให้กับช้างศึก จากลูกเปิดริมเส้นและชาร์จจ่อๆ ถือว่าเป็นลูกเก่งของเขา เลยก็ว่าได้ การกลับมาติดทีมชาติในครั้งนี้ “จ่าเย็น” ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความขยันในการเล่นฟุตบอล ถึงแม้อาจจะไม่ได้เล่นฟุตบอลสไตล์การเลี้ยงหลบแบบสวยงาม แต่ถ้ามองในเรื่องของลูกขยัน การมีน้ำอึดน้ำทน การเล่นตามคำสั่งของกุนซือ “จ่าเย็น” คนนี้ตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม

5. บดินทร์ ผาลา

กองหน้าตัวริมเส้น จากปราสาทสายฟ้า เคยถูกเรียกติดทีมชาติในยุคของซิโก้ ในการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ จะไม่ได้รับโอกาสในการลงเล่น พอมาถึงในยุค ราเยวัช “เจ้าโดม” ได้ลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงในนัดที่ไปอุ่นเครื่องกับอุซเบกิสถาน ตำแหน่งปีกซ้าย ซึ่งก็ถือว่าทำผลงานได้ดี ในช่วงครึ่งแรก “เจ้าโดม” รับหน้าที่พากองหลังอุซเบฯ ทัวร์รอบบริเวณฝั่งซ้าย พร้อมทั้งมีโอกาสเปิดถวายพานให้ นูรูล ได้ชาร์จจ่อๆ แต่พลาดไปอย่างน่าเสียดาย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ทำผลงานเข้าตาอีกหนึ่งคน

ชมสด!! ศึกไทยลีก และคลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @Trueid