เดลฟิน ปินไฮโล : "เพราะทีมชาติไทยคือความฝันของผม"

ว่ากันว่าชีวิตของคนเรามักจะต้องมีอะไรสักอย่างที่คอยเป็นตัวนำทาง หรือกำหนดเส้นทางชีวิตเสมอ บางคนก็เลือกที่ใช้ความชอบ บางคนหลงใหลในการเดินทาง บ้างก็เป็นธรรมชาติ เป็นเสียงดนตรี ธรรมะ หรือบางคนที่คิดอะไรไม่ออกจริงๆ ก็ยอมปล่อยให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนดชีวิตไป… แต่สำหรับเด็กหนุ่มวัย 21 ปี เลือดไทย-ดัตช์ อย่าง เดลฟิน ปินไฮโล นั้นตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าเจ้าตัวเลือก “ฟุตบอล” เป็นตัวนำทางของชีวิต !
เดลฟิน ปินไฮโล เฟรเดอริโก หรือ “เดลฟิน” หนุ่มน้อยลูกครึ่งไทย-เนเธอร์แลนด์ ผู้มีเลือดสยามอยู่ในตัวครึ่งหนึ่งจากคุณแม่ “ปูเป้” ภูวรสวรรค์ รัตนวงศ์ โดยแข้งดาวรุ่งรายนี้มีจุดเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังที่อาจจะดูแตกต่างจากเด็กทั่วไปอยู่พอสมควร เพราะเจ้าตัวเริ่มต้นจากการเป็น “นักวิ่ง” มาก่อน
ทางครอบครัวของเดลฟิน บอกกับเราว่า “ตอนเด็กๆ เดลฟิน วิ่งเร็วมาก เราเลยให้เขาไปฝึกซ้อมเพื่อการเป็นนักกรีฑาชั้นยอด ต่อจากนั้นก็ไปเล่นกีฬายูโด แต่สุดท้ายกีฬาที่ เดลฟิน รัก และสนุกกับมันมากที่สุดก็คือ ฟุตบอล”
จากการเตะฟุตบอลกับเพื่อนเล่นๆ เจ้าหนูเดลฟินในวัย 8 ขวบเริ่มหมั่นคอยฝึกฝนลับคมฝีเท้าของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสโมสรดอร์เดรชท์ ได้เห็นแวว และตัดสินใจรับเขาไปอยู่ในอะคาเดมีด้วยวัย 12 ขวบ
หากเปรียบ เดลฟิน เป็นดอกไม้ แข้งรายนี้ก็คงเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานสวยงาม และถูกเพาะบ่มจากสโมสรต้นสังกัดอย่างเต็มที่ เพราะหลังจากนั้นอีกสามปี สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม (ยูธ) อีกหนึ่งทีมเก่าแก่ของวงการฟุตบอลแดนกังหัน ลงทุนเดินมาดูฟอร์มก่อนตัดสินใจคว้า เดลฟิน ไปเป็นนักเตะในสังกัด
หลังจากนั้นไม่นาน ดาวรุ่งเลือดไทย-ดัตช์รายนี้ชีพจรลงเท้าอีกครั้ง ด้วยการก้าวเข้ามาเป็นนักเตะในสังกัดของ ไนกี้ อะคาเดมี และย้ายมาทีม ซีพี คาเซเรโน (CP Cacereño) ทีมในลีกดิวิชั่น 2 (เชกุนด้า) สเปน จากนั้นก็ย้ายกลับมาเล่นในเนเธอร์แลนด์ กับทีมโคซัคเคน บอยส์ (Kozakken Boys) จากนั้นปี 2015 – 2016 ก็ย้ายอยู่กับ เอชบีเอส คราเยนเฮาท์ (HBS Craeyenhout) ก่อนที่ฤดูกาล 2017 เลกที่ 2 จะมาเซ็นสัญญาร่วมทัพ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพื่อสู้ศึกไทยลีก โดย เดลฟิน ปินไฮโล เฟรเดอริโก ถือเป็นนักเตะรายที่ 4 ที่ทีมได้มาเสริมความแข็งแกร่งในเลกที่ 2 ต่อจาก ศศลักษณ์ ไหประโคน, ราฟาเอล บาสโตส และการได้ อันเดรส ตูเญซ กลับมาจากการยืมตัว
“เดลฟิน มีความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาโดยตลอด วันนี้ครอบครัวเราดีใจที่จะได้เห็นลูกชายเล่นฟุตบอลให้กับแผ่นดินแม่ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีทีมจากอังกฤษติดต่อมา แต่เราเชื่อว่าการได้กลับมาเมืองไทย และการได้เป็นส่วนหนึ่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะสามารถต่อยอด และพัฒนาศักยภาพในตัวของ เดลฟิน ได้” คุณแม่ภูวรสวรรค์ รัตนวงศ์ บอกกับเรา
น่าสนใจว่าสุดท้ายแล้ว เจ้าของดีกรีนักเตะจากศูนย์ฝึกระดับโลกอย่าง NIKE ACADEMY จะสามารถแจ้งเกิดในเวทีไทยลีกได้หรือไม่ คงมีเพียงตัวของ เดลฟิน เท่านั้นที่จะสามารถให้คำตอบได้ จากนี้ไปเจ้าตัวคงต้องงัดเอาพรสวรรค์ พรแสวง และศักยภาพที่มีอยู่ รวมถึงประสบการณ์ในการลงเล่นในยุโรปมาปรับใช้ และปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลไทยให้เร็วที่สุด เพื่อนำทัพ “ปราสาทสายฟ้า” กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง
และก่อนจะจากกันไป เราพอมีโอกาสได้ทิ้งท้ายกับประโยคสั้นๆ ถึงแฟนๆ ของแข้งดาวรุ่งรายนี้ รวมถึงโอกาสในการลงเล่นให้กับทัพ “ช้างศึก” ในอนาคตของ เดลฟิน
“ผมอยากจะขอบคุณแฟนบอลชาวไทย และแฟนบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดทุกคนที่ให้การต้อนรับผมอย่างอบอุ่น มันเหนือความคาดหมายเอามากๆ ผมจะตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งในสนาม และนอกสนามเพื่อแฟนบอล เพื่อสโมสรที่เชื่อมั่นในตัวผม และผมอยากบอกไว้ว่า ผมภูมิใจในความเป็นไทยในตัวผมเสมอ”
“เพราะทีมชาติไทย คือความฝันของผม”
ชมสด!! ศึกไทยลีก และคลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @Trueid