TRUE TALK : เชียงใหม่เอฟซี เส้นชัย ฝั่งฝัน ?
กลับมาพบกันเป็นประจำกับ TRUE TALK คอลัมน์ที่จะพาทุกท่านเกาะติดกับทุกความเป็นไปในวงการฟุตบอลทั้งไทย และเทศ และประเด็นร้อนๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นก็เห็นจะเป็น ผลงานของ เชียงใหม่ เอฟซี ภายใต้การนำของกุนซือชื่อดังอย่าง “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์
ความพ่ายแพ้ 9 หนจากการเล่นนอกบ้าน 12 นัด น่าจะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า เชียงใหม่ เอฟซี คือทีมที่มีผลงานย่ำแย่ที่สุดในศึก M-150 แชมเปี้ยนชิพ หรือให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ พวกเขาออกไปเล่นในฐานะทีมเยือนได้ไม่เอาอ่าวในลีกรองของวงการลูกหนังบ้านเรา
เกิดอะไรขึ้นกับทีมที่พร้อมไปด้วยทั้งเม็ดเงินจากเจ้าของทีม มีโค้ชดีกรีระดับทีมชาติ ผนึกด้วยนักเตะฝีเท้าดีจากทั่วสารทิศ บวกกับฐานแฟนบอลที่พร้อมจะซัพพอร์ตทีมไม่ว่ายามประสบความสำเร็จ หรือตกต่ำ และที่สำคัญที่สุด เชียงใหม่ คือเมืองที่มีศักยภาพพร้อมแทบจะในทุกๆ ด้านมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย
แต่นั่นก็ยังไม่พอที่จะทำให้ เชียงใหม่ เอฟซี ก้าวสู่ยิ่งใหญ่แห่งวงการลูกหนังแดนสยาม…
ยิ่งถ้าเหลือบมองดูทีมบ้านพี่เมืองน้องอย่าง “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด หรือแม้กระทั่งเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, นครราชสีมา มาสต้า เอฟซี หรือแม้แต่อดีตคู่ปรับอย่าง สุโขทัย เอฟซี จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้ ต่างเป็นสโมสรฟุตบอลที่เฉิดฉายอยู่ในลีกสูงสุดทั้งสิ้น !
ในฐานะแฟนบอล และคนที่ทำงานคลุกคลีในวงการฟุตบอลมาพอสมควร ผมมองว่าปัญหาของ เชียงใหม่ เอฟซี นั้นคงไม่ได้อยู่ที่ปัจจัยภายนอกแต่อย่างใด หากแต่ผู้บริหารของทีมนั้นอาจจะเผลอมองข้ามสิ่งๆ หนึ่งไป
นั่นคือ “หัวใจ” ของนักเตะ ?
เชียงใหม่ เอฟซี ในยุคก่อนหน้านี้ อาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จแบบเป็นชิ้นเป็นอันสุดๆ นอกเหนือไปจากโทรฟี่แชมป์ลีกภูมิภาค (เดิม) บางปีทีมต้องดิ้นรนหนีตกชั้น บางซีซั่นก็ไม่รอด บางครั้งถึงกับมีการโละนักเตะค่อนทีมเพื่อคัดแข้งรายใหม่ แต่ถึงอย่างไร สิ่งที่แฟนบอลทั้งขาประจำ และขาจรของทีมแห่งนครล้านนาทีมนี้ ต่างยังคงปักหลักไม่หนีไปไหน นั่นเป็นเพราะ เชียงใหม่ เอฟซี ก่อนหน้านี้ ต่างลงเล่นด้วย “จิตวิญญาณ” ความเป็นนักสู้ !
แองเจลโล่ มาชูก้า, อนุชา ไชย์วงศ์, รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก, ฉัตรชัย นาควิจิตร, อุสมาน, จักรพงษ์ แสนหลวง, ธีระวุฒิ รองไชย หรือแม้กระทั่ง “เก็ตโด้” ชนัตพล สิกขะมณฑล ล้วนแต่เป็นชื่อที่ยังตรึงอยู่ในใจแฟนบอลเชียงใหม่ อยู่เสมอ เพราะแข้งเหล่านี้บู๊เต็มที่ไม่มีถอย และลงเล่นด้วยความกระหายอยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่เราจะได้สัมผัสแฟนบอลเรือนหมื่นในสังเวียนแข้งสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เป็นประจำ… สวนทางกับในช่วงปี-สองปีที่ผ่านมา แม้ว่าทีมจะพยายามใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่มีอยู่ในมือโหมประกาศให้แฟนบอลมาเชียร์ในสนาม แต่ทว่า…
“……………….”
“หลายครั้งที่ผมยอมลางาน เสียเงิน เพื่อตามไปให้กำลังใจทีมรัก จะแพ้-ชนะ ผมเข้าใจ ผมไม่ว่า เพราะนี่คือฟุตบอล แต่ถ้าลงเล่นแบบไม่เต็มที่ ไร้หัวใจ บอกตรงๆ ผมเสียใจ” นี่คือเสียงจาก “พยัคฆ์” พันธุ์แท้ ท่านหนึ่งที่แอบกระซิบหลังไมค์มากับผม ซึ่งน่าจะเป็นคำตอบในช่องว่างที่ผมเว้นไว้บนบรรทัดก่อนหน้านี้
“ยินดีกับ ตราด ที่ได้ 3 แต้ม ส่วน เชียงใหม่ ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเล่นแบบนี้ไม่ต้องไปไหน ตนบอกตรงๆ ความมุ่งมั่นไม่มีเลย ต้องเอาไปคิดกัน ไม่ใช่ว่าเล่นสูงสุดแล้วมาดาวน์สุดๆ แบบนี้ มันไม่ใช่ บอกเลยว่าตนรู้สึกไม่ดี”
“เราขาดความมุ่งมั่น แต่ละคนเล่นกันฉายเดี่ยวอย่างเดียว ระบบทีมไม่มี งงเหมือนกัน ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าแก้แล้วมาเป็นอย่างนี้ ตนบอกเลยว่าไปไหนไม่ได้ ถ้ามานอกบ้านแล้วเล่นอีกแบบกับเล่นในบ้าน เพราะฉะนั้นมาตรฐานมันไม่เท่ากัน ก็ไปไม่ได้”
นี่คือเสียงหลังเกมจากแม่ทัพใหญ่อย่าง “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ที่ออกลูก “ก้าย” อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเกมดังกล่าวเป็นการพ่ายนอกบ้านนัดที่ 4 ติดต่อกัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทีมชนะในบ้านมา 3 เกมรวดจากทุกรายการ
ความสม่ำเสมอของฝีเท้า อาจจะไม่สำคัญเท่ากับความสม่ำเสมอของ “หัวใจ” นี่คือ ดาวินชี่ โค้ด ที่เราตีความจากคำพูดของอดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ที่ สิงคโปร์
ยิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อย “เส้นชัย และฝั่งฝัน” ของแฟนบอลเชียงใหม่อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะทางสมาคมฟุตบอลฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ออกมาแถลงแล้วว่าจะลดจำนวนทีมในลีกสูงสุดให้เหลือเพียง 16 ทีมในปี 2019 และนั่นย่อมหมายความว่า ทีมที่จะสอดแทรกขึ้นไปโชว์ฝีเท้าบนลีกสูงสุดนั้นต้องเป็น “ของจริง” และ “ตัวจริง” เท่านั้น
จากนี้ไปขึ้นอยู่กับทีมแล้วว่าจะสามารถกอบกู้ศรัทธาจากแฟนบอลได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอย่าลืมว่า “ศรัทธา” คือหนึ่งในสิ่งที่สร้างได้ยากที่สุด แต่กลับทำลายทิ้งได้ง่ายที่สุดเช่นกัน
ผมเชื่อว่ามาถึงตรงนี้ สิ่งเดียวที่สาวก “พยัคฆ์ล้านนา” รวมถึงแฟนบอลไทยที่คอยเอาใจช่วยยักษ์หลับจากเมืองเหนือทีมนี้ คงพูดด้วยใจที่ห่อเหี่ยวเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ฮา ก้าย บะเฮ้ย”
ขอขอบคุณรูปภาพจาก Action24
ชมสด!! ศึกไทยลีก และคลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @Trueid