EXCLUSIVE : บทสัมภาษณ์ มาโน่ โพลกิ้ง จาก FOX SPORTS ASIA
ชัยชนะ 11 จาก 12 เกมหลังสุดในลีก บวกกับการถล่มประตูทีมคู่แข่งไปถึง 67 ประตูจากการลงเล่น 23 นัด ซึ่งถือว่ามากที่สุดในลีก คงเป็นเครื่องหมายการันตีได้ว่า “แข้งเทพ” ภายใต้การนำทัพของกุนซือจอมวางหมากอย่าง มาโน่ โพลกิ้ง กำลังเดินหน้าอย่างเต็มสูบ เพื่อเป้าหมายใหญ่นั่นคือ การผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนสยามให้ได้
และในวันนี้ เรามีบทสัมภาษณ์พิเศษของโค้ชมาโน่ ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อกีฬายักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง FOX SPORTS ASIA ถึงฟอร์มอันร้อนแรงของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ณ เวลานี้
FSA : คุณต้องดีใจกับฟอร์มการเล่นของสโมสรในตอนนี้แน่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนที่ทีมทำประตูได้ ทุกสิ่งทุกอย่างดูเป็นเรื่องที่ดีในตอนนี้
Mano : แน่นอน นี่เป็นช่วงเวลาที่ดี หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยากลำบาก แต่เรายังมีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องไปต่อ
มีอยู่ประมาณ 6-7 ทีม ที่มีระดับความสามารถใกล้เคียงกันในลีก ผมจำเป็นต้องคิดและมีสมาธิกับวิธีการที่เรารักษาฟอร์มการเล่นและหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้
FSA : คุณได้สร้างจุดเปลี่ยนในการเดินหน้าบุกและจิตวิญญาณในเกมรุกสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อช่วยให้ทีมหนีจากจุดตกต่ำในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลใช่ไหม
Mano : ผมเป็นโค้ชที่ชื่นชอบเกมรุก ทุกคนรู้ดีว่าผมไม่สนใจว่าลูกทีมจะเล่นเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทีมตามหลัง แต่ผมจะไม่ตั้งเป้าเรื่องการทำประตู เพราะผมรู้ดีว่านั่นคือจุดแข็งของทีมเรา เรามีนักเตะอย่าง ดราแกน บอสโควิช ที่สามารถทำประตูในเกือบทุกจังหวะที่สัมผัสบอล ผมกลับกังวลในเรื่องที่เราเสียประตูเยอะเกินไป
เราเสียประตูเยอะมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความผิดพลาดเฉพาะบุคคล เราจะเป็นต้องแก้ไขในเรื่องนี้ เพราะทีมที่จะสามารถคว้าแชมป์ได้จะต้องมีเกมรับที่แข็งแกร่ง
FSA : แม้ว่าคุณจะเข้ามาคุมทีมในปี 2014 แต่คุณกลายเป็นโค้ชทีมคุมทีมยาวนานที่สุดในลีก ซึ่งเป็นลีกที่ขึ้นชื่อว่าการไล่โค้ชออกเกิดขึ้นทันทีที่ผลงานเริ่มแย่ ช่วงเริ่มต้นฤดูกาลนี้ คุณมีความกังวลว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับคุณหรือไม่
Mano : เราพบกับความพ่ายแพ้ 3 จาก 6 เกม แต่เรายังได้รับเสียงของความเชื่อมั่นจากประธานสโมสร ผมรู้ดีว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย
เมื่อสิ่งต่างๆ เริ่มแย่ เขาคือคนแรกที่เข้ามาพูดคุยกับผม เชิญผมไปที่ออฟฟิศ และอธิบายว่าเขาเข้าใจในเรื่องฟุตบอล และธุรกิจ ไม่มีอะไรที่จะดีตลอดเวลา บางครั้งเรามีช่วงเวลาที่แย่ นั่นคือคำพูดที่ช่วยผมได้อย่างแท้จริง
โดยปกติ เรามีทั้งทีมงานและผู้เล่นที่ดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ประธานสโมสรทำเป็นเรื่องที่ไม่ปกติในประเทศไทย เขาคอยสนับสนุนทีมอยู่เสมอ และไม่ได้คอยบอกว่าผมจะต้องทำอะไรหรือเลือกใครลงเล่น
ผมได้เจอสโมสร และประธานที่น่าเหลือเชื่อ เขาคอยช่วยเหลือทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก
FSA : คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ทีมเริ่มต้นได้ไม่ดี
Mano : สโมสรมีความฝันที่จะทำได้ดีในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งมีผลต่อช่วงเริ่มต้นฤดูกาล เราต้องพบเจอกับบางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
ในลีก คุณสามารถใช้ผู้เล่นต่างชาติ 5 คน แต่ในฟุตบอลถ้วยเอเชียใช้ได้เพียงแค่ 4 ผมรู้ดีว่าผมจำเป็นต้องลดโควต้าต่างชาติลง นั่นทำให้ผู้เล่นต้องซ้อมในระบบทีมที่เราจะใช้ในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นการลดปัจจัยในการแข่งขันที่ผมชอบในช่วงเวลาเตรียมทีม
รวมถึงเรื่องที่เราแพ้จุดโทษในเกมเพลย์ออฟ ผมคิดว่ามันเกิดปัญหาในเรื่องของจิตวิทยาในทีม เราสูญเสียความมั่นใจ แต่ทุกคนรวมถึงตัวผมได้เรียนรู้มากมายในช่วงเวลานั้น ต่อมา เมื่อเราเริ่มต้นทำผลงานได้ดี กลับมามีความมั่นใจ สิ่งต่างๆ ก็กลับมาดีตั้งแต่ช่วงเวลานั้น
FSA : ผมเดาว่าคุณต้องไม่ชอบช่วงเบรคของลีกในช่วงเวลานี้แน่ๆ
Mano : ในทางหนึ่งก็ใช่ เพราะมันหยุดช่วงเวลาที่ดีของเรา แต่ในอีกทางหนึ่ง ผมก็รอคอยช่วงเวลานี้เพื่อให้ผู้เล่นของผมได้มีโอกาสพักร่างกาย
ช่วงหลังนี้เรามีโปรแกรมที่หนักมาก ทุกสัปดาห์เราต้องลงเล่นสองเกม และเป็นผู้เล่นกลุ่มเดิมที่ลงเล่นเกมเหล่านั้น พวกเขาต้องการเวลาพักและฟื้นฟู และเราก็จะได้พักอีกครั้ง ก่อนที่จะเข้าแคมป์ในเชียงใหม่ ผมคิดว่ามันจะส่งผลดีกับทุกคน
FSA : อะไรคือเป้าหมายสำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาล 11 เกมต่อจากนี้ ความเป็นไปได้ที่จะลดช่องว่างกับบุรีรัมย์ฯ เพื่อเป็นแชมป์ลีก
Mano : เรามีแต้มตามหลังเมืองทองฯ สองคะแนน และหกคะแนนตามหลังบุรีรัมย์ฯ แต่ผมคิดว่าหลังจากการเริ่มต้นที่แย่ เป้าหมายของเราคือการทำให้แน่ใจในการจบสามอันดับแรก เพื่อที่จะได้ไปเล่นในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกปีหน้า และถ้าคุณมองถึงการลงทุนของเชียงรายฯ เรารู้ดีว่านั่นไม่ใช่งานที่ง่าย
อีกทางหนึ่ง ผมไม่คิดว่าช่องว่างกับบุรีรัมย์ฯ จะห่างมากนัก มันจะไม่ใช่ 6 คะแนน ถ้าเรามองถึงเกมที่จะได้พบกับพวกเขาในบ้านเรา ซึ่งนั่นคือโอกาสที่สำคัญมาก
เรามีทีมที่มีคุณภาพ เรามีความมั่นใจ เรามีฟอร์มที่น่าอัศจรรย์ นั่นทำให้เรามีความฝันเล็กๆ ผมไม่คิดว่าระยะห่างนั้นจะมากมายอะไรถ้านับว่าเรายังมีเกมในบ้านนัดสุดท้ายกับพวกเขา
FSA : สุดท้ายนี้ คุณเป็นโค้ชที่ยังอายุน้อยมาก แค่คุณก็มีสถิติที่น่าประทับใจ รวมถึงความคิดและวิธีการที่พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ บางครั้งคุณเคยคิดไหมว่าคุณอยากจะพักและหนีออกจากความกดดันเหล่านี้สำหรับการเป็นโค้ช หรือว่าฟุตบอลคือเวลาพักของคุณที่ทำให้คุณได้ผ่อนคลาย
Mano : ชีวิตของผมคือฟุตบอล
ผมไม่คิดว่าภรรยาของผมจะมีความสุขนัก แต่ผมก็ไม่เคยพลาดเกมสำคัญของฟุตบอลยุโรป แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาตี 2 หรือ 3 ผมไม่เคยพลาดแมตช์ชิงแชมเปี้ยนส์ลีก 30 เกมหลังสุด หรือ เอล กลาซิโก้ 30 ครั้งหลังสุด หรือเกมอื่นๆ นี่คือชีวิตของผม และผมรักมันมาก
แน่นอนว่าสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปจากตอนที่ผมเล่นอยู่ สมันที่ยังเล่นแล้วไม่รู้สึกว่าผลการแข่งขันจะมีความสำคัญโดยตรงต่ออนาคต แต่กับการเป็นโค้ชมันใช่
ผลการแข่งขันคือทุกสิ่งทุกอย่างของโค้ช มันมาพร้อมกับความกดดันมากกว่าตอนเป็นผู้เล่น แต่นี่คือสิ่งที่ผมอยากทำในฐานะเป็นโค้ชที่ยังอายุน้อย ยังไม่ถึง 5 ปีในฐานะหัวหน้าโค้ช ผมรู้ว่ายังมีอะไรมากมายที่ต้องเรียนรู้ในเส้นทางนี้
ผมรู้ว่ามันไม่ได้มีเพียงแค่วิธีเดียวสำหรับการที่จะประสบความสำเร็จ แม้ว่าคุณจะได้ยินคำวิจารณ์จากผู้คนมากมายถึงวิธีการต่างๆ ดูอย่างที่ จอห์น เทอร์รี่ ได้พูดถึง อันโตนิโอ คอนเต้ ในการทำทีม แม้ว่าโค้ชบางคนจะไม่เห็นด้วย แต่เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้
หรืออย่างที่ ซีเนดีน ซีดาน นำลูกทีมวิ่งขึ้นลงบนภูเขา ซึ่งเป็นวิธีที่โค้ชหลายคนไม่คิดว่ามีความเกี่ยวข้องกับฟุตบอล แต่มันกลับได้ผลดี วิธีหนึ่งอาจได้ผลในประเทศหนึ่ง แต่ไม่ได้ผลในอีกหนึ่งประเทศ คุณจำเป็นต้องมีการปรับตัว
โค้ชทุกคนมีความแตกต่าง แต่ต้องมีประสบการณ์และความคิดเป็นของตัวเอง ผมต้องทำให้แน่ใจว่าผมได้เรียนรู้สิ่งที่ดีที่สุด เพื่อที่จะสามารถพัฒนาต่อไปในฐานะการเป็นโค้ช… มาโน่ โพลกิ้ง กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ
และนี่บทสัมภาษณ์พิเศษที่เรานำมาให้ทุกท่านได้ติดตาม กับความคิด ปรัชญา และประสบการณ์ที่น่าสนใจของกุนซือหนุ่มวัย 41 ปีรายนี้ กับภารกิจที่ท้าทายที่สุดนั่นก็คือ การพา “แข้งเทพ” ประสบความสำเร็จในศึกไทยลีกให้ได้นั่นเอง
ขอขอบคุณรูปภาพจาก เพจ : BANGKOK UNITED FC
ชมสด!! ศึกไทยลีก และคลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ TrueID App และ เว็บไซต์ sport.trueid.net หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID