รีเซต
เชลซี VS ลิเวอร์พูล : พรีวิว นัดชิงฟุตบอลคาราบาว คัพ 2023/24 (ช่องถ่ายทอดสด)

เชลซี VS ลิเวอร์พูล : พรีวิว นัดชิงฟุตบอลคาราบาว คัพ 2023/24 (ช่องถ่ายทอดสด)

เชลซี VS ลิเวอร์พูล : พรีวิว นัดชิงฟุตบอลคาราบาว คัพ 2023/24 (ช่องถ่ายทอดสด)
THEO
25 กุมภาพันธ์ 2567 ( 17:00 )
34.8K
1
  • รายการ : ฟุตบอลคาราบาว คัพ 2023/24 นัดชิงชนะเลิศ
  • แมตช์การแข่งขัน : เชลซี พบ ลิเวอร์พูล
  • วัน/เวลาแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 22.00 น.
  • สนาม : เวมบลีย์
  • ถ่ายทอดสด : ไทยรัฐ ทีวี

วิเคราะห์บอล : เชลซี VS ลิเวอร์พูล

สภาพความพร้อม เชลซี

เชลซี ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ด้วยการถล่ม มิดเดิ้ลสโบรห์ ด้วยสกอร์รวม 6-2 ในรอบรองชนะเลิศ ส่วนฟอร์มล่าสุด ทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” ทำเซอร์ไพรส์ด้วยบุกไปเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก ซึ่งน่าจะช่วยเรียกความมั่นใจให้กับทีมสิงห์บลูส์ได้ไม่น้อยก่อนลงบู๊กับ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้

ส่วนความพร้อมขุมกำลัง กุนซือเมาริซิโอ โปเชตติโน่ จะหมดสิทธิใช้งานผู้เล่นบาดเจ็บได้แก่ เวสลีย์ โฟฟาน่า, รีซ เจมส์, เบอนัวต์ บาเดียชิล, โรเมโอ ลาเวีย, เลสลีย์ อูโกชุควู และ มาร์ค กูกูเรยา 

ขณะที่การจัดทัพคาดว่า เชลซี จะยึดผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่เสมอแมนซิตี้ 1-1 โดยแผงแนวรับประกอบด้วย  มาโล กัสโต, อักเซล ดิซาซี่, ลีวาย โคลวิลล์ และ เบน ชิลเวลล์ โดยมีคู่กองกลางเป็น มอยเซส ไกเซโด้ กับ เอ็นโซ แฟร์นันเดซ ส่วนแนวรุกใช้บริการ คอเนอร์ กัลลาเกอร์, โคล พาลเมอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง พร้อมด้วย นิโคลัส แจ็คสัน รับบทกองหน้าตัวเป้า

สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล

ในรอบรองชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เฉือน ฟูแล่ม ด้วยสกอร์รวม 3-2 และผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี ซึ่งการเข้าชิงครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ ทีมหงส์แดงก็เจอกับ เชลซี เมื่อปี 2022 และเป็นฝ่ายได้ฉลองแชมป์ด้วยการเอาชนะจุดโทษอย่างระทึกใจ 11-10 หลังจากเสมอกัน 0-0 ในเวลา 120 นาที

ส่วนเกมนี้ ลิเวอร์พูล มีปัญหาผู้เล่นเจ็บระนาวตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า ไม่ว่าจะเป็น อลีสซง เบ็คเกอร์, โฌแอล มาติป, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เคอร์ติส โจนส์, ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ดิโอโก้ โชต้า ส่วนในรายของ โดมินิค โซบอสไล, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องรอเช็กอาการอีกครั้ง

ขณะที่แกนหลักรายอื่น กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เตรียมส่งลงสนาม นำโดยคู่เซนเตอร์ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กับ อิบราฮิมา โกนาเต้ ส่วนแดนกลางคาดว่าจะใช้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอ็นโด และ ไรอัน กราเฟนแบร์ช ขณะที่แดนหน้า หลุยส์ ดิอาซ เตรียมลงประสานงานกับ ซาลาห์ และ นูนเญซ ซึ่งน่าจะฟิตลงช่วยทีมได้ทันเวลา 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี : ยอร์เย เปโตรวิช (GK), มาโล กัสโต, อักเซล ดิซาซี่, ลีวาย โคลวิลล์, เบน ชิลเวลล์, มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ แฟร์นันเดซ, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, โคล พาลเมอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง, นิโคลัส แจ็คสัน

ลิเวอร์พูล : ควีวิน เคลเลเฮอร์ (GK), คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, หลุยส์ ดิอาซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ

ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุด

เชลซี

  • 17/02/24 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
  • 13/02/24 ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
  • 07/02/24 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ
  • 04/02/24 แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
  • 31/01/24 แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก 

ลิเวอร์พูล

  • 21/02/24 ชนะ ลูตัน ทาวน์ 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 
  • 17/02/24 ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 4-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก 
  • 10/02/24 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 
  • 04/02/24 แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก 
  • 31/01/24 ชนะ เชลซี 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด

  • 01/02/24 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 4-1 (พรีเมียร์ลีก)
  • 13/08/23 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
  • 04/04/23 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
  • 21/01/23 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
  • 14/05/22 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0, ลิเวอร์พูล ชนะจุดโทษ 6-5 (เอฟเอ คัพ)

บทวิเคราะห์

หากเทียบฟอร์มโดยรวมในซีซั่นนี้ ต้องยกให้ ลิเวอร์พูล ที่เหนือกว่าชัดเจน แต่เกมรอบชิงชนะเลิศนัดเดียวจบ อะไรก็เกิดขึ้นได้ อีกทั้งเกมล่าสุดที่ เชลซี บุกไปเสมอ แมนซิตี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหากทัพ  “สิงห์บลูส์” เล่นได้เข้าฟอร์ม คู่แข่งไม่ว่าจะทีมไหนก็กินพวกเขายากเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของ เชลซี คือฟอร์มการเล่นขึ้นๆ ลงๆ ไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควร ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว ลูกทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ดูจะคงเส้นคงวาและไว้ใจได้มากกว่า โดยเฉพาะเกมรุกที่กำลังเข้าฝัก หลังจากแข้งหงส์ทะลวงตาข่ายคู่แข่งอย่างน้อย 3 ลูกได้ถึง 5 จาก 6 นัดหลังสุด

ยิ่งถ้าเกมนี้ ซาลาห์ และ นูนเญซ ฟิตกลับมาลงช่วยทีมได้ทัน บอกเลยว่าแนวรุกหงส์แดงจะยิ่งดุดันขึ้นเป็นเท่าตัว และน่าจะเบียดคว้าชัย ได้ฉลองแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 10 ของสโมสร

สกอร์ที่คาด

เชลซี 1-2 ลิเวอร์พูล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่!

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ