รีเซต
TRUE FOCUS : PFA Team of the Year กับสถิติตัวเลขที่ "ไม่โกหก" ... by "เต้ BlackPearl"

TRUE FOCUS : PFA Team of the Year กับสถิติตัวเลขที่ "ไม่โกหก" ... by "เต้ BlackPearl"

TRUE FOCUS : PFA Team of the Year กับสถิติตัวเลขที่ "ไม่โกหก" ... by "เต้ BlackPearl"
kentnitipong
20 เมษายน 2561 ( 16:59 )
7.3K

เต้ BlackPearl : ประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2017-18 ของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ หรือ PFA ซึ่งจะมีการโหวตกันทั้ง 4 ลีกอาชีพของอังกฤษ ไล่ตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก ไปจนถึงลีก ทู โดยใช้การโหวตจากแข้งนักเตะกันเอง เพราะฉะนั้น นี่คือรางวัลที่ได้รับการยอมรับ และกลั่นกรองจากนักฟุตบอลด้วยกันว่าในสนามหญ้าสีเขียว ใครคือ “สุดยอด” ในแต่ละตำแหน่งของปีนี้กันบ้าง

 

 

โดยผลที่ออกมาต้องบอกว่าทีมยอดเยี่ยมของศึกพรีเมียร์ลีก แข้งจากทีมแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ติดโผมามากที่สุดถึง 5 ราย ตามด้วย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3 ราย และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และเชลซี ติดมาทีมละ 1 ราย โดยปราศจากแข้งจาก อาร์เซน่อล เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ทั้ง 11 คนจะมีใครกันบ้าง ไปไล่เรียงกัน โดยผมมีสถิติมาประกอบให้อ่านกันสนุกๆด้วยครับว่าแต่ละคนที่ถูกเลือกมามีสถิติตัวเลขสมเป็นเบอร์ 1 ของแต่ละตำแหน่งมากน้อยแค่ไหน

….

…..

ผู้รักษาประตู : ดาบิด เด เกอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

Adam Davy/PA via AP

 

ไม่มีข้อสงสัยเลยสำหรับการติดโผของนายประตูจากค่ายปีศาจแดงรายนี้ ผลงานเฝ้าเสาที่ยอดเยี่ยมรวมถึงลูกเซฟมหัศจรรย์มีให้เราเห็นกันแทบทุกแมทช์ การติดโผครั้งนี้ถือเป็นการติดทีมครั้งที่ 5 เข้าไป บ่งบอกถึงการเป็นนายทวารหมายเลข 1 ของลีกอังกฤษอย่างแท้จริง

ถึงขณะนี้เจ้าตัวทำสถิติเก็บคลีนชีตถึง 17 นัด มากที่สุดในลีก และเสียไปเพียง 26 ลูก เซฟไปแล้ว 96 ครั้ง เรียกว่างานชุกพอๆ กับนายทวารทีมอันดับล่างๆ อย่าง แจ็ค บัตแลนด์ ที่เซฟไปแล้ว 100 ครั้ง หรือจะเป็น จอร์แดน พิคฟอร์ด เซฟเยอะสุดในลีก 103 ครั้ง คำถามคือแล้วนายทวารทีมหัวตารางเค้าเซฟกันเยอะแบบนี้หรือไม่ ? คำตอบคืองานสบายกว่าเยอะครับ อาทิ เอแดร์ซอน เซฟแค่ 48 ครั้ง, ติโบต์ กูร์กตัวส์ 53 ครั้ง และอูโก้ โยริส 63 ครั้ง เห็นสถิติแล้วคิดดูแล้วกันครับว่ากองหลังแมนฯยูไนเต็ดขยันหางานให้เด เกอา ทำแค่ไหน !

….

…..

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : นิโกลัส โอตาเมนดี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) / แยน แฟร์ต็องเก้น (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)

 

AP Photo/Rui Vieira

 

นี่คือการติดทีมยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกของ โอตาเมนดี้  เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักของเรือใบสีฟ้า ที่กับต้นสังกัดได้รับโอกาสยืนเป็นตัวจริงให้กับทีมมาโดยตลอดพร้อมมีคู่หูอาทิ แว็งซ็องต์ กอมปานี และจอห์น สโตนส์ ถูกสับเปลี่ยนหมุนเวียนมายืนคู่อยู่เสมอ ส่วน แฟร์ทองเก้น ปราการหลังทีมชาติเบลเยี่ยม ติดทีมยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 2 แล้ว แม้การเล่นอาจดูไม่หวือหวา แต่ความเหนียวแน่นยังไว้ใจได้เสมอ

โอตาเมนดี้ มีสถิติที่โดดเด่นในเรื่องการจ่ายบอลสำเร็จที่ทำได้ถึง 92 เปอร์เซ็นต์ โดยจ่ายมากถึง 2,866 ครั้งมากที่สุดในลีก เรียกว่าการผ่านบอลทำได้แน่นอนเข้ากับแผนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เน้นต่อบอลตั้งแต่แดนตัวเองได้เป็นอย่างดี รวมถึงขึ้นมาทำประตูถึง 4 ลูกด้วยกัน แต่สถิติการเล่นเกมรับกลับไม่ค่อยดีนักเมื่อดวลตัวๆ ชนะคู่แข่งแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนลูกกลางอากาศทำได้แค่ 56 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐาน

 

Gareth Fuller/PA via AP

 

ส่วน แฟร์ทองเก้น ถือว่าสถิติทำได้ครบเครื่อง แม้จะไม่เด่นในการเล่นเกมรุก แต่เกมรับไว้ใจได้เสมอ มีสถิติดวลชนะคู่แข่ง 61 เปอร์เซ็นต์ ดวลลูกกลางอากาศชนะคู่แข่งได้ 65 เปอร์เซ็นต์ และตัดบอลได้ถึง 59 ครั้ง ถือเป็นสถิติเบอร์ต้นๆ ของเซนเตอร์ลีกอังกฤษเลยทีเดียว

นอกจาก 2 คนนี้มีใครน่าสนใจอีก? น่าเสียดายที่ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังสถิติโลกไม่ได้ลงสนามเลยในช่วงครึ่งซีซั่นแรก เช่นเดียวกับ เอริค ไบญี่ ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน คนอื่นๆ ที่น่าสนใจยกให้ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ปราการหลังจาก เบิร์นลี่ย์ มีสถิติดวลลูกกลางอากาศชนะสูงถึง 69 เปอร์เซ็นต์ บล็อกลูกยิงอีก 39 ครั้ง ส่วนสถิติดวลชนะคู่แข่งทำได้อีก 59 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกคนคือ ฟิล โจนส์ จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ดูผลงานดูไม่หวือหวาเหมือน คริส สมอลลิ่ง เพื่อนร่วมค่าย แต่สถิติกลับเด่นมาก สามารถดวลลูกกลางอากาศชนะ 68 เปอร์เซ็นต์ ส่วนดวลตัวต่อตัวทำได้ถึง 61 เปอร์เซ็นต์พอๆ กับแฟร์ทองเก้น การผ่านบอลก็ทำได้สำเร็จถึง 91 เปอร์เซ็นต์ หากวัดกันเฉพาะตัวเลข 2 คนนี้ถือว่าทำได้ดีกว่า โอตาเมนดี้ เสียอีกในเรื่องเกมรับ

….

…..

แบ็กขวา : ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

 

AP Photo/Frank Augstein

 

แบ็กขวาดีกรีทีมชาติอังกฤษ คว้าตำแหน่งนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้เปลี่ยนสีเสื้อมาเป็นสีฟ้าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หาใช่ชุดขาวของ สเปอร์ส อย่างซีซั่นก่อน

ฤดูกาลนี้เรือใบสีฟ้า คว้าตัว วอล์คเกอร์ เข้ามาแก้ปัญหาฟูลแบ็ก ด้วยสนนราคา 45 ล้านปอนด์ ถือว่าการเข้ามาของแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษช่วยเสริมให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นทั้งเกมรับ ที่เหนียวแน่นผ่านยาก ที่โดดเด่นคือลูกกลางอากาศที่เอาชนะคู่แข่งได้ถึง 67 เปอร์เซนต์ และการเข้าปะทะชนะทำได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เหนือกว่าแบ็คขวารายอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด

ส่วนเกมรุก แม้ยังทำประตูให้ต้นสังกัดใหม่ไม่ได้ แต่ก็แอสซิสต์ไปแล้วถึง 6 ประตู โดยมีสถิติผ่านบอลสำเร็จถึง 88 เปอร์เซนต์ เรียกว่าตรงตามสเป็คของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกหนึ่งคน ส่วนการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งก็อยู่ในลำดับต้นๆ โดยรวมถือว่าสถิติต่างๆ ยังดูดีกว่า อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คีแรน ทริปเปียร์ และเอคตอร์ เบเยริน ถือว่าเป็นการเลือกที่สมเหตุสมผล

….

…..

แบ็กซ้าย : มาร์กอส อลอนโซ่ (เชลซี)

 

AP Photo/Matt Dunham

 

แบ็กซ้ายชาวสเปน โชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นจนมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรก แม้ต้นสังกัดผลงานโดยรวมอาจจะดูไม่เข้าตานัก ผลงานของ อลอนโซ่ ในซีซั่นนี้ ทีเด็ดคงอยู่ที่การเติมขึ้นไปสนับสนุนเกมรุก โดยทำไปได้แล้วถึง 6 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ ถือเป็นกองหลังที่ยิงประตูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้อีกด้วย

แต่หากย้อนดูสถิติ ไม่น่าเชื่อว่า อลอนโซ่ กลับเป็นรองแบ็กซ้ายรายอื่นๆ อาทิ การเข้าปะทะชนะเพียง 47 เปอร์เซ็นต์ การเลี้ยงผ่านคู่แข่งได้เพียงแค่ 46 เปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่าความเร็วคือจุดอ่อนของแบ็ครายนี้ ส่วนการผ่านบอลสำเร็จอยู่ที่ 79 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าใช้ได้แต่ก็ยังเป็นรองรายอื่นเล็กน้อย

ปัจจัยที่ อลอนโซ่ ดูมีสถิติส่วนตัวไม่สวยหรูคงมาจากการที่เจ้าตัวเล่นเป็นวิงแบ็กให้ต้นสังกัด ซึ่งตำแหน่งนี้แน่นอนว่ามีความแตกต่างจากการเล่นแบ็กซ้าย อาทิ การเข้าปะทะที่มีน้อยกว่าแน่ๆเนื่องจากมีสต็อปเปอร์มาช่วยซ้อน หรือการเกมรุกที่มีโอกาสทะลุขึ้นไปได้มากกว่า

ไม่น่าเชื่อว่า แบ็คซ้ายที่มีสถิติสวยงามกลับเป็น ฟาเบียน เดลฟ์ ที่ถูกจับเล่นแบ็กซ้าย จากการที่เล่นตำแหน่งกองกลางมาก่อนทำให้สถิติต่างๆ ทำได้ดี อาทิ การเลี้ยงผ่านคู่แข่งทำได้ถึง 96 เปอร์เซ็นต์ ดวลคู่แข่งชนะ 54 เปอร์เซ็นต์ และจ่ายบอลสำเร็จอีก 93 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามคงมาเทียบกันลำบาก เนื่องจาก เดลฟ์ ลงสนามในซีซั่นนี้ไปเพียง 18 เกมเท่านั้น ส่วนอีกหนึ่งคนที่โดดเด่นในตำแหน่งนี้ได้แก่ เบน เดวิส ของสเปอร์ส โดยเฉพาะการเลี้ยงบอล และการแอสซิสต์ให้เพื่อนไปแล้วถึง 6 ประตู กับยิงเอง 2 ลูก ด้าน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เก่งเรื่องลูกกลางอากาศทำได้ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ แถมแอสซิสต์ไปแล้ว 4 ประตู

….

…..

กองกลาง : ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) / เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) / คริสเตียน อีริคเซ่น (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)

 

AP Photo/Tim Ireland

 

ขอเหมารวมไปเลยแล้วกันนะครับ เพราะปีนี้กองกลาง 3 รายที่ติดโผมา เป็นพวกเล่นเกมรุกทั้งสิ้น 2 คนจากซิตี้ทั้ง ซิลบา และเดอ บรอยน์ ถือว่าเล่นได้ไร้ที่ติ ส่วนอีริคเซ่นก็โดดเด่นกับสเปอร์สสุดๆ

เริ่มที่ ซิลบา ทำไปแล้ว 8 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ โดยผ่านบอลสำเร็จถึง 89 เปอร์เซ็นต์แม้จะมีปัญหาเรื่องของลูกชายที่คลอดก่อนกำหนดต้องบินกลับไปสเปนบ่อยๆ แต่ก็ยังฉายฟอร์มสุดยอดออกมาได้ ส่วน เดอ บรอยน์ นี่คือตัวจ่ายบอลที่ดีที่สุดของลีกอย่างแท้จริง ล่าสุดทำไปแล้ว 7 ประตู กับ 15 แอสซิสต์ มีอัตราผ่านบอลสำเร็จที่ 84 เปอร์เซ็นต์ และสร้างสรรค์โอกาสให้ทีมถึง 102 ครั้ง

 

AP Photo/Frank Augstein

 

ด้าน อีริคเซ่น สถิติอาจเป็นรอง 2 คนก่อนหน้านี้ แต่เป็นคนที่ทำประตูได้มากที่สุด 11 ประตู 8 แอสซิสต์ ผ่านบอลสำเร็จ 82 เปอร์เซ็นต์ และสร้างสรรค์โอกาสให้ทีม 82 ครั้ง โดยทำจังหวะให้ แฮร์รี่ เคน คนเดียวก็ปาไป 35 ครั้งแล้ว

ส่วนคนอื่นๆ ก็มีสถิติสูสีไม่แพ้กัน ลีรอย ซาเน่ (9 ประตู 2 แอสซิสต์) และราฮีม สเตอร์ลิ่ง (17 ประตู 8 แอสซิสต์) ก็ถือว่าผลงานไม่ธรรมดาเช่นกัน แต่ให้ติดกันยกแผงคงจะน่าเกลียด ด้าน เอแด็น อาซาร์ ก็ผลงานไม่เด่นเหมือนปีก่อน (แม้จะทำ 12 ประตู, ดวลชนะคู่แข่งสูงถึง 73 เปอร์เซ็นต์) หรือจะเป็น ปอล ป็อกบา ที่เห็นเล่นแล้วไม่ค่อยคุ้มค่าตัวอย่างที่ทีมตั้งความหวังไว้เท่าไหร่ (แต่สถิติพี่แกดีเหลือเชื่อ 5 ประตู 10 แอสซิสต์ สถิติดวลผ่านคู่แข่งเหนือกว่าทั้ง 3 คนที่ติดโผ จ่ายบอลแม่นอีก 85 เปอร์เซ็นต์ ว่าแต่ว่าทำไมดูไม่ค่อยเป็นประโยชน์ ฮ่าๆ) ดูรวมๆ แล้วถือว่าทั้ง 3 ตัวที่ติดโผ ต่างโดดเด่นสุดๆแล้วสำหรับแดนกลางชั่วโมงนี้

….

…..

กองหน้า :  โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) / แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) / เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

 

Peter Byrne/PA via AP

 

นี่คือดาวซัลโวอันดับ 1 ถึง 3 ของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ โดย แฮร์รี่ เคน คือรายเดียวที่เคยติดทีมมาก่อนในซีซั่นที่แล้ว ส่วนอีก 2 รายพึ่งถูกโหวตติดทีมครั้งแรก

เริ่มที่ โม ซาลาห์ ที่มาเล่นกับหงส์แดงเป็นซีซั่นแรกก็ระเบิดฟอร์มคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ทำไปแล้ว 30 ประตู 9 แอสซิสต์ มีลุ้นคั่วตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกปีนี้ด้วย ถือว่าลบฝันร้ายกับการเล่นให้เชลซีไปเสียสนิท สถิติเมื่อเทียบกัน 3 คนแล้ว ซาลาห์ มีสถิติที่ดีในเรื่องความแม่นยำในการยิงอยู่ที่ 62 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งการสร้างสรรค์โอกาสได้ 57 ครั้ง เรียกว่าชงเองกินเองได้ ไม่ต้องรอเพื่อนทำทาง

 

Gareth Fuller/PA via AP

 

ส่วน แฮร์รี่ เคน ปีนี้ยังฟอร์มร้อนแรง ซัดไปแล้ว 25 ประตู ถือว่ายังมีลุ้นทำสถิติคว้าดาวซัลโว 3 ปีติดอยู่ แม้จะเจอครหาในเรื่องการไปอุทธรณ์ประตูจนโดนล้อ พาเสียสมาธิไปบ้างก็ตาม แต่ที่แน่ๆคือเจ้าตัวเป็นเจ้าของสถิติยิงเกิน 25 ประตู 3 ซีซั่นติดไปแล้ว เทียบเท่ากับกองหน้าระดับตำนานอย่าง อลัน เชียเรอร์ และเธียร์รี่ อองรี แน่นอนว่าความโดดเด่นของ เคน อยู่ที่การทำประตูที่มีจังหวะง้างเท้ายิงไปถึง 168 ครั้ง ส่วนลูกกลางอากาศก็ดีกว่าอีก 2 รายค่อนข้างมาก

 

Richard Sellers/PA via AP

 

ด้าน เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่โดนอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังระเบิดฟอร์มทำไป 21 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นการถูกโหวตติดทีมยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกแม้จะเล่นในอังกฤษมา 7 ปีแล้ว สถิติที่โดดเด่นของ “เอล กุน” คือ ความสามารถเฉพาะตัว โดยสามารถดวลชนะคู่ต่อสู้ 52 เปอร์เซ็นต์ และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 65 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการจ่ายบอลที่ทำได้ดีตามแบบฉบับ แมนฯ ซิตี้ ที่ 83 เปอร์เซ็นต์

ถือว่าตำแหน่งศูนย์หน้าเป็นการเลือกที่ไร้ข้อโต้แย้งจริงๆ แม้จะมีหลายคนที่มีสถิติไม่ขี้เหร่ อาทิ เจมี่ วาร์ดี้ (17 ประตู), โรเมลู ลูกากู (16 ประตู 7 แอสซิสต์ ดวลลูกกลางอากาศชนะ 50 เปอร์เซนต์) หรือ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (15 ประตู 7 แอสซิสต์ เลี้ยงผ่านคู่แข่ง 71 เปอร์เซนต์) แต่หากวัดกันด้วยผลจำนวนประตูที่ยิงได้ รวมถึงการยอมรับของนักฟุตบอลอาชีพด้วยกันเองแล้ว 3 ศูนย์หน้าที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกชั่วโมงนี้คงเป็นอื่นใดไปไม่ได้ อยู่ที่ว่าสุดท้ายแล้วใครจะเข้าวินเป็นดาวซัลโวในวันปิดฤดูกาลเท่านั้น

….

“เต้ BlackPearl”

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้