Sport Talk : คู่เซนเตอร์แบ็ก ตำแหน่งอาถรรพณ์ของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้

ไปดูกันเลย ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนักเตะในตำแหน่งคู่ปราการหลังตัวกลางของ "หงส์แดง" ทำไมถึงได้เจ็บบ่อย เปลี่ยนบ่อย สลับหน้าลงมาเล่นกันไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว วันนี้ "Ballyslam" คนข่าวหน้าร้ายๆ หัวใจสีชมพู จะพาทุกคนไปเจาะดูกันว่าที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ฤดูกาลนี้ ต้องบอกว่าเป็นฤดูกาลที่หนักหนาสาหัสของ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลัก ที่ตั้งแต่ต้นซีซั่นโดนมาแล้วทุกตำแหน่ง ไล่ตั้งแต่นายทวาร ยัน กองหน้า ต่างเจอโรคเดี้ยงเล่นงานมาหมดแล้ว
แต่ที่ตำแหน่งที่นักเตะบาดเจ็บแล้วมันหนักหน่วง และส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีมมากที่สุด คงหนีไม่พ้นตำแหน่ง "เซนเตอร์แบ็ก" อย่างแน่นอน
ไล่มาตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น บรรดาเดอะ ค็อป ก็ต้องใจสลายกันครั้งใหญ่ เมื่อ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังอันดับ 1 ของทีม ก็มาโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารเอฟเวอร์ตัน เสียบสกัดแบบรุนแรง จนต้องออกจากสนาม และผลการตรวจที่ออกมาก็ต้องทำการผ่าตัด และพักยาวทั้งฤดูกาลไปแบบสุดโชคร้าย
ถัดมาไม่นานเท่าไหร่ คราวนี้เป็นคิวของ โจ โกเมซ ที่ไปเข้าแคมป์เก็บตัวกับทีมชาติอังกฤษ ก็ดันดวงแตกไปเจ็บขณะฝึกซ้อม ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมาก แต่พอนำนักเตะไปตรวจแบบละเอียดแล้ว มันเป็นอาการที่หนักหนากว่าที่คิด และทำให้เจ้าตัวต้องปิดเทอมพักยาวไปจนเกือบจบฤดูกาลอีกคน
ถึงเวลานี้ ลิเวอร์พูล เหลือนักเตะในตำแหน่ง เซนเตอร์แบบแท้จริง ให้ใช้งานอีกแค่ 3 คน คือ โฌแอล มาติป, นาธาเนียล ฟิลลิปส์ และ รีส วิลเลี่ยมส์ โดยรายแรกก็แทบจะเป็นเพื่อนกับหมอ และพยาบาลอยู่แล้ว เพราะเจ็บออดๆ แอดๆ บ่อยเหลือเกิน ส่วนสองรายหลังก็ยังเป็นดาวรุ่งที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่
ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีม ต้องทำการจัดระบบแนวรับใหม่เพื่อให้ทีมไม่เสียสมดุลย์ ดังนั้นเขาจึงไปดึงตัว ฟาบินโญ่ กองกลางตัวรับของทีม ที่สามารถเล่นกองหลังได้ ให้ลงมายืนเป็นเซนเตอร์จำเป็น ซึ่งพอมาเข้าคู่กับ มาติป แล้ว ก็จัดว่าเป็นคู่ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และลงตัวพอสมควรเลยทีเดียว
ทั้ง ฟาบินโญ่ และ มาติป จับคู่กันทำผลงานได้ค่อนข้างดี ยืนคุมแนวรับของทีมได้แข็งแกร่งมาก และน่าจะยึดคู่ปราการหลังตัวจริงของทีมไปแบบยาวๆ ได้แบบไม่มีปัญหา ทว่าความเป็นจริงที่โหดร้ายก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับแฟนบอล "หงส์แดง" เมื่อ มาติป ก็ดันมาเจ็บเพิ่มไปอีก และเมื่อผลตรวจออกมาก็ยิ่งน่าตกใจเมื่อเจ้าตัวจะต้องพักแข้งนานจนจบฤดูกาลเลยทีเดียว
เมื่อปัญหามา ปัญญาถึงเกิด จากการเจ็บของ มาติป ในครั้งนี้ ทำให้ คล็อปป์ เจอทางแก้ที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง เมื่อเขาถอยเอา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม ลงมาเล่นเป็นเซนเตอร์คู่กับ ฟาบินโญ่ ซึ่งก็มาจากตำแหน่งมิดฟิลด์เหมือนกัน ทำให้แฟนบอลหลายๆ คนห่วงว่าจะสามารถยืนกันได้หรือไม่ เพราะไม่มีกองหลังอาชีพคอยประคองเลย
แต่จากการลงเล่นด้วยกัน 2-3 นัด ทั้ง เฮนโด้ และ ฟาบินโญ่ ก็แสดงคลาสให้เห็นแล้วว่า พวกเขาจับคู่กันเป็นปราการหลังตัวกลางได้เนียนตาอย่างมาก แม้จะไม่ได้มีลูกหนัก ลูกสกัดแบบเด็ดขาด เหมือนแนวรับคนอื่นๆ ทว่าทางบอลของทั้งคู่ยอดเยี่ยมมาก ดักสกัดได้เกือบหมด แถมยังเป็นกองหลังที่เปิดเกมรุกได้ดีอีกด้วย ซึ่งก็สร้างความมั่นใจให้เหล่า เดอะ ค็อป ได้พอสมควร
จากสถานการณ์ทีไร้นักเตะในตำแหน่งเซนเตอร์นี้เอง ทำให้ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม ลิเวอร์พูล จึงปฏิบัติการณ์สายฟ้าฟาด จัดการยืมตัว โอซาน คาบัค กองหลังดาวรุ่งของ ชาลเก้ 04 และ สอยตัว เบน เดวิส กองหลังจากเปรสตัน ทีมในลีกรองอังกฤษ มาเสริมทัพ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในจุดนี้ ซึ่งการมาของทั้งสองคนก็เริ่มสร้างความมั่นใจให้กับแฟนบอลของทีมอีกครั้ง ว่าอย่างน้อยทีมก็มีกองหลังจริงๆ แสตนบายด์เอาไว้แล้ว
ก็อย่างที่จั่วหัวไปนั่นแหละครับ ว่าตำแหน่งเซนเตอร์ มันเป็นอาถรรพณ์ของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ เมื่อมีเติมเข้ามาใหม่ 2 คน พระเจ้าก็เลยแกล้งหยิบออกไปจากทีมหนึ่งคน เมื่อ ฟาบินโญ่ กองกลางที่ต้องถอยมารับบทเซนเตอร์จำเป็น และกำลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ก็ดันมาเจ็บอีก ทำให้เวลานี้ภาระหนักในแนวรับต้องมาตกอยู่กับ เฮนเดอร์สัน คนเดียวแล้ว
เมื่อเจอปัญหาแบบนี้ คล็อปป์ ก็ไม่มีทางเลือกมากเท่าไหร่ เขาเลยตัดสินใจส่ง คาบัค แนวรับคนใหม่ ลงมาจับคู่กับ เฮนเดอร์สัน ในเกมที่ทีมพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งการประเดิมสนามนัดแรกของกองหลังคนใหม่ ก็โชว์ผลงานสุดเข้าตาทันที เมื่อเจ้าตัวเล่นแบบไม่เข้าใจกับ อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารของทีม จนมีจังหวะเข้าปะทะกัน และลูกหลุดไปถึงนักเตะคู่แข่ง จนเป็นเหตุให้เสียประตู และท้ายที่สุดทีมก็พลิกพ่ายไปแบบสุดเจ็บช้ำ 1-3
แม้จะมีช็อตการเล่นผิดพลาด แต่ คาบัค ก็ยังได้ลงสนามจับคู่กับ เฮนโด้ ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ทีมบุกไปทุบชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก ได้ถึงถิ่น 2-0 ซึ่งเกมนั้นเจ้าตัวได้รับคำชมอย่างมากว่าโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง และยอดเยี่ยมมากๆ จนหลายคนมองว่าคนนี้แหละ ที่เป็นความหวังครั้งใหม่ ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาในแนวรับให้กับทีมได้
แต่อย่างที่บอกไปแล้ว ตำแหน่งนี้ของมันแรงจริงๆ ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ ทำศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ กับ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมือง คาบัค ก็ยังได้ลงเป็นตัวจริงคู่กับ เฮนเดอร์สัน อย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ที่ คล็อปป์ และแฟนบอล "หงส์แดง" ไม่อยากให้เกิด ก็อุบัติขึ้นอีกจนได้ เมื่อ เฮนโด้ กัปตันทีมคนเก่ง มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว และถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม โดยให้ แนท ฟิลลิปส์ ลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 29 จนจบเกม
จากสถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล จนถึงชั่วโมงนี้ กลายเป็นว่า ทีมจะเหลือเซนเตอร์อาชีพจริงๆ เพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งก็คือ คาบัค, นาธาเนียล ฟิลลิปส์ และ รีส วิลเลี่ยมส์ ส่วน เบน เดวิส กองหลังคนใหม่อีกคน ก็ดันมาเจ็บไปแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลงสนามให้กับทีมเลย
และมาถึงตรงนี้ มีการสรุปข้อมูล และตัวเลขออกมาว่า ที่ผ่านมา คล็อปป์ สลับสับเปลี่ยนคู่เซนเตอร์มาถึง 18 คู่ แล้ว โดยแบ่งได้ดังนี้
>> ฟาบินโญ่ - โฌแอล มาติป (ลงเล่นร่วมกัน 7 นัด)
>> รีส วิลเลี่ยมส์ - ฟาบินโญ่ (ลงเล่นร่วมกัน 7 นัด)
>> จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - ฟาบินโญ่ (ลงเล่นร่วมกัน 4 นัด)
>> โจ โกเมซ - เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลงเล่นร่วมกัน 4 นัด)
>> นาธาเนียล ฟิลลิปส์ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลงเล่นร่วมกัน 3 นัด)
>> โอซาน คาบัค - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลงเล่นร่วมกัน 3 นัด)
>> ฟาบินโญ่ - โจ โกเมซ (ลงเล่นร่วมกัน 3 นัด)
>> รีส วิลเลี่ยมส์ - โจ โกเมซ (ลงเล่นร่วมกัน 3 นัด)
>> ฟาบินโญ่ - เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลงเล่นร่วมกัน 3 นัด)
>> นาธาเนียล ฟิลลิปส์ - ฟาบินโญ่ (ลงเล่นร่วมกัน 2 นัด)
>> โฌแอล มาติป - โจ โกเมซ (ลงเล่นร่วมกัน 2 นัด)
>> รีส วิลเลี่ยมส์ - เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลงเล่นร่วมกัน 2 นัด)
>> นาธาเนียล ฟิลลิปส์ - โจ โกเมซ (ลงเล่นร่วมกัน 1 นัด)
>> โฌแอล มาติป - รีส วิลเลี่ยมส์ (ลงเล่นร่วมกัน 1 นัด)
>> รีส วิลเลี่ยมส์ - บิลลี่ คูเมติโอ (ลงเล่นร่วมกัน 1 นัด)
>> โฌแอล มาติป - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลงเล่นร่วมกัน 1 นัด)
>> ฟิลลิปส์ - โอซาน คาบัค (ลงเล่นร่วมกัน 1 นัด)
>> โฌแอล มาติป - เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลงเล่นร่วมกัน 1 นัด)
การบาดเจ็บของเหล่าบรรดาเซนเตอร์ของ "หงส์แดง" เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจสำหรับ คล็อปป์ อย่างมาก เพราะมันส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีมอย่างแท้จริง แฟนบอลหลายคนอาจจะโทษดวง โทษทีมคู่แข่งที่มาทำให้นักเตะของเขาบาดเจ็บ โทษดินฟ้าอากาศไปต่างๆ นาๆ ทว่าก็มีกูรูลูกหนังหลายคนเหมือนกัน ที่ออกมาวิเคราะห์ว่า ด้วยสไตล์การเล่นแบบเฮฟวี่เมทัล วิ่งกดดันคู่แข่ง วิ่งตลอดทั้งเกมแบบไม่มีหยุด ที่ทีมใช้เล่นในทุกๆ นัด อาจจะส่งผลต่อร่างกายของบรรดานักเตะของทีม เวลาเจ็บเลยเจ็บง่าย เจ็บบ่อยกว่าปกติ เพราะสภาพร่างกาย สภาพกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานอย่างหนักนั่นเอง
ดังนั้น บรรดาเดอะ ค็อป ทั่วโลก ก็ต้องมาเอาใจช่วยให้ คล็อปป์ แก้ปัญหาในจุดนี้ให้ได้ และต้องมาคอยลุ้นกันว่า คู่เซนเตอร์แบ็กคู่ต่อไปจะเป็นใคร จะยังบาดเจ็บอีกหรือไม่ ถ้ายังมีอีก เห็นทีเหล่าขุนพล "หงส์แดง" รวมทั้งตัว คล็อปป์ เอง คงต้องพากันไปทำบุญแก้ชงกันแบบชุดใหญ่แล้ว เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้นบ้าง
-------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>> ช้ำสองเด้ง!! หงส์กู่ไม่กลับ โดนทอฟฟี่บุกยิง 2-0 แถมสังเวย'เฮนโด้'เดี้ยงอีก (ชมคลิปไฮไลท์)
>> ผลบอล สรุปผล ไฮไลท์ยิงประตู ศึกพรีเมียร์ลีก 2020/21 นัดที่ 25 ทุกคู่ทุกสนาม
-------------------------------------------------
ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่
เก็งไม่มีพลาด! ฟันธงคู่ไหนเด็ด! เจาะลึกก่อนเกมพรีเมียร์ลีก สมัครทาง SMS พิมพ์ R1 ส่งมาที่ 4238066 หรือคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ ใช้ฟรี 7 วัน!!!!