หงส์แดง ลิเวอร์พูล ฉายาเครื่องจักรสีแดงเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มมาได้เพียง 4 เกมแต่มีอะไรให้พูดถึงเยอะพอควร สิ่งที่ทำให้ได้เห็นสำหรับลิเวอร์พูลก็คือ การได้เสริมนักเตะได้ถูกจุดในแดนกลาง ที่แม้ว่านักเตะชุดล่าแชมป์UCL จะหายไปจากทีม แต่การทดแทนมาสามราย กลับทำให้แดนกลางไม่มีอะไรน่าห่วงแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นหงส์แดงเองก็ยังมีจุดที่จะต้องแก้ไขอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยาวที่ดูจะเป็นปัญหาเรื้อรังเอาได้ หากไม่รีบแก้ไขไว้แต่เนิ่น ๆ ปัญหาที่ว่าก็คือ ตำแหน่งเซ็นเตอร์ ที่ตัวหลังตอนนี้มีก็คือ เวอร์จิล ฟานไดจร์ และ อิบรา โคนาเต้ ส่วนคู่อะไหล่ก็มี โจเอล มาติป และ โจ โกเมซ ที่ก็ได้เห็นกันไปแล้วในนัดล่าสุดว่า ไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้สักเท่าไหร่ จริงอยู่ที่ตอนนี้มี จูเลียน ทิมเบอร์ ที่อาจจะขยับมาเป็นแผงแบ๊คทรี ได้ในบ้างโอกาส แต่นั่นก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่เจ้าตัวถนัด มิหนำซ้ำหากเล่นด้วยแบ็คทรี ความสามารถในการขึ้นเกมรุกของ จูเลียน ทิมเบอร์ ก็หายไปด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีแก้ปัญหานี้มีเพียงอย่างเดียวคือการเสริมทัพเข้ามาไว้รออย่างน้อย ๆ ก็หนึ่งรายในช่วงตลาดหน้าหนาว หรือไม่อย่างน้อยก็เอานักเตะชุด U-21 มาขัดเกลาไว้บนม้านั่งสำรองสักรายก็ยังดี สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของทั้ง โจเอล มาติป และ โจ โกเมซ คือเรื่องความเร็วและความมั่นใจในจังหวะป้องกัน ในเกมที่เอาชนะแอสตันวิลล่า จะสังเกตได้ว่าหลายต่อหลายครั้งที่ โจเอล มาติป เมื่อรับบอลจาก อลิซอน เบคเกอร์ ไปต่อไม่ได้ ท้ายที่สุดก็ต้องส่งคืนหลังให้เทพธอร์ต้องเป็นคนวางบอลยาว ซึ่งความสามารถนี้แตกต่างจาก อิบรา โคนาเต้ โดยสิ้นเชิง ยิ่งหากพูดถึงเรื่อความเร็วและความแข็งแกร่งแล้ว อะไหล่ทั้งสองยังห่างชั้นมาก ๆ มาถึงตรงนี้สาวกหงส์แดงคงบอกว่า ตอนนี้แก้ปัญหาด้วยการซื้อไม่ทันแล้ว ? อันนี้ก็จริงลองไปส่องดาวรุ่งของหงส์แดงแล้วกัน ในตำแหน่งแผงหลังพอจะเอาใครมาใช้งานได้บ้าง ที่พอเข้าตาและเคยลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ก็คงหนีไม่พ้น คอเนอร์ แบรดลีย์ ดาวรุ่งวัย 20 ปี ที่เล่นได้สารพัดตำแหน่งในแผงหลัง แม้ว่าตำแหน่งโดยแท้จริงจะไม่เคยถูกจับไปยืนเซ็นเตอร์ แต่หากถึงวิกฤตจริง ๆ ก็สามารถใช้มายืนแบ๊คฝั่งซ้ายหรือขวา แล้วให้ แอนดรูส์ โรเบอร์สัน หรือ เทรน อเล็ซานเดอร์ อาร์โนล์ มายืนเซ็นเตอร์ก็ได้ แบบแก้ปัญหาไปก่อนไรงี้ ในกรณีที่ร้ายแรงสุด ๆ ที่นักเตะในตำแหน่งนี้เจ็บพร้อม ๆ กัน ด้วยประสบการณ์ของ คอเนอร์ แบรดลีย์ที่เมื่อฤดูกาล 2022 – 2023 ถูกปล่อยตัวให้ โบลตัน ไปใช้งานลงเล่นไป 53 นัด ยิงได้ 7 ประตู นี่น่าจะเป็นผลงานที่การันตีกระดูกของจ้าหนูรายนี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเคยลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในปี 2021-2022 ด้วยการเปิดตัวครั้งแรกในเกมคาราบาวคัพ ที่พบกับนอริช ซิตี้ และลงเล่น 5 นัดภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ฉะนั้นแล้วคู่มือการใช้งานก็มีอยู่แล้ว อยู่ที่โอกาสแล้วแหละกว่าเจ้าหนูอายุน้อยรายนี้จะได้รับโอกาสนั้นหรือไม่ ถึงอย่างไรปัญหาที่ ลิเวอร์พูล ที่อาจจะเผชิญกับนักเตะในตำแหน่งเซ็นเตอร์ เจ็บ หรือโดนโทษแบนพร้อมกัน 4 รายเป็นไปได้ยาก แต่อย่าลืมว่าในฤดูกาลที่ เวอร์จิล ฟานไดร์ หายไปก็ก่อความเสียหายไม่น้อยไม่ใช่หรือ ฉะนั้นการหาวิธีรับมือเอาไว้ก่อนที่เหตุจะเกิดก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้าม ยิ่งเป้าหมายคือแชมป์ พรีเมียร์ลีก แล้วละก็ การเตรียมทีมให้พร้อมในจุดที่เห็น ๆ กันอยู่เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะคู่แข่งเอก็แข็งแกร่งไม้น้อยในฤดูกาลนี้ ข่าวที่เกี่ยวข้อง ส่องแผน ลิเวอร์พูล ก่อนปะทะ แอสตันวิลล่า ในวันที่แผงหลังเดี้ยง ส่องสถิติ ลิเวอร์พูล ดับ สเปอร์ส หลังเกมพรีเมียร์ลีกที่สุดจะเหลือเชื่อ รุ่งหรือร่วง? โคดี้ กัคโป กับตำแหน่งใหม่ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023-2024 วิเคราะห์ปัญหา ลิเวอร์พูล วางแผนผิด หรือคิดสละเรือ โอกาสจบท็อปโฟร์ที่เลือนลาง มัดรวม 5 นักเตะเป้าหมายลิเวอร์พูล ไล่ล่าความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก เจาะ 4 ประเด็นหลังเกม ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้ม https://sport.trueid.net/detail/0Xv3kbpyJbm5 เครดิตภาพปก premierleague.com :: ภาพปก เครดิตภาพปก premierleague.com :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 6 , liverpoolfc.com:: ภาพที่ 5 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !