ในเกมพรีเมียร์ลีกวันที่ 22 กันยายน 2024 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับ อาร์เซนอลไป 2-2 ในการแข่งขันที่เต็มไปด้วยดราม่าและความพยายามทั้งสองฝ่ายที่สนามเอติฮัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นได้ดีก่อนเมื่อ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ยิงประตูที่ 100 ของเขากับทีม แต่ อาร์เซนอลก็ตอบโต้ได้รวดเร็วด้วยการทำประตูของ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี และหัวโหม่งของ กาเบรียล มากัลแญส ก่อนหมดครึ่งแรก ทำให้ทีมเยือนนำ 2-1 ทั้งที่ต้องเล่นด้วยนักเตะ 10 คน หลังจากที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ โดนใบแดงจากการเสียเวลา ในครึ่งหลัง ซิตี้เพิ่มแรงกดดันแต่แนวรับของอาร์เซนอล โดยมีผู้รักษาประตู ดาบิด ราย่า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถต้านทานได้เกือบตลอดเกม จนกระทั่งช่วงทดเวลา เจอห์น สโตนส์ ยิงประตูตีเสมอให้ซิตี้ ทำให้จบการแข่งขันด้วยสกอร์ 2-2 เกมนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการลุ้นแชมป์ของทั้งสองทีม โดยที่อาร์เซนอลต้องพลาดโอกาสขึ้นจ่าฝูง แต่ยังโชว์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีมแม้จะเล่นด้วยนักเตะน้อยกว่า https://www.instagram.com/p/DAOmm4OOJUF/ เกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซนอล เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2024 เป็นเกมที่มีการต่อสู้ทางแท็คติกอย่างเข้มข้นและเต็มไปด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่ต้นจนจบ โดยแต่ละทีมมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซิตี้ใช้สไตล์การครองบอลและบุกต่อเนื่องตามแบบฉบับของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดยเฉพาะในครึ่งหลังหลังจากอาร์เซนอลเหลือผู้เล่น 10 คน ซิตี้พยายามเล่นเกมรุกอย่างหนัก โดยเฉพาะผ่านการครอสบอลจากปีกทั้งสองข้าง และการสร้างโอกาสจากการเล่นบอลจังหวะสอง แม้ว่าพวกเขาจะขาดผู้เล่นสำคัญอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ และต้องเสีย โรดรี ไปในช่วงต้นเกมเพราะบาดเจ็บ ทำให้การควบคุมแดนกลางของซิตี้ลดประสิทธิภาพลง แต่ซิตี้ยังคงแสดงความดุดันในเกมรุก และการเปลี่ยนตัว จอห์น สโตนส์ ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงการตัดสินใจที่สำคัญในการช่วยให้ทีมตีเสมอในช่วงท้ายเกม https://www.instagram.com/p/DAOZXNjs3bP/ อาร์เซนอล อาร์เซนอลแสดงถึงความยืดหยุ่นและความอดทนในเกมนี้ โดยเฉพาะหลังจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ ถูกไล่ออก พวกเขาหันไปใช้แผนเกมรับที่เหนียวแน่นเพื่อป้องกันการบุกของซิตี้ โดยมีผู้รักษาประตู ดาบิด ราย่า ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงแนวรับที่คอยตัดเกมบุกของซิตี้ได้หลายครั้ง แม้จะเล่นด้วยผู้เล่นน้อยกว่า แต่พวกเขายังสามารถสร้างโอกาสได้จากการสวนกลับและลูกตั้งเตะ ทำให้เกมนี้เกือบจะเป็นชัยชนะสำหรับอาร์เซนอลถ้าไม่ใช่เพราะประตูตีเสมอในช่วงทดเวลา สรุป แม้ว่าทั้งสองทีมจะมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน ซิตี้มุ่งเน้นการครองบอลและการสร้างสรรค์เกมบุก ขณะที่อาร์เซนอลต้องพึ่งเกมรับเป็นหลักหลังโดนใบแดง แต่ทั้งสองทีมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถในการต่อสู้เพื่อจุดสำคัญในลีก คะแนนและวิเคราะห์ผู้เล่น 11 ตัวจริง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ระบบ 4-3-3): เอแดร์ซอน: 5/10 – เงียบในครึ่งหลัง แต่การรับลูกจากการทำประตูที่สองของอาร์เซนอลไม่ดีเท่าที่ควร ไคล์ วอล์กเกอร์: 3/10 – มีปัญหาในการป้องกันและมักอยู่ผิดตำแหน่ง รูเบน ดิอาส: 5/10 – พยายามยิงแต่ช้าในการตัดสินใจ มานูเอล อาคานจิ: 5/10 – เล่นปลอดภัยแต่ขาดความคิดสร้างสรรค์ โยสโก้ กวาร์ดิโอล: 6/10 – ป้องกันได้ดี และมีส่วนในจังหวะยิงหนึ่งครั้ง โรดรี้: 6/10 – ถูกเปลี่ยนตัวออกหลังบาดเจ็บในช่วงต้นเกม อิลคาย กุนโดกัน: 7/10 – ร่วมสร้างเกมรุกหลายครั้งและเกือบทำประตูได้ แบร์นาโด้ ซิลวา: 7/10 – เด่นในครึ่งแรกแต่เงียบลงในครึ่งหลัง ซาวินโญ่: 8/10 – จ่ายบอลให้ฮาแลนด์ทำประตู และเล่นดีในช่วงแรกก่อนจะดรอปลง เออร์ลิง ฮาแลนด์: 7/10 – ยิงประตูที่ 100 ให้กับซิตี้ แต่หลังจากนั้นเงียบไป เจเรมี่ โดคู: 5/10 – มีส่วนร่วมในเกมน้อย https://www.instagram.com/p/DAOO_jdscCH/ อาร์เซนอล (ระบบ 4-3-3): ดาบิด รายา: 8/10 – เซฟลูกสำคัญหลายครั้งและเล่นได้อย่างมั่นคงภายใต้ความกดดัน จูร์เรียน ทิมเบอร์: 7/10 – ป้องกันได้แข็งแกร่ง มีการเข้าสกัดที่สำคัญ วิลเลียม ซาลิบา: 6/10 – เริ่มต้นไม่ดีแต่กลับมาควบคุมการป้องกันได้ กาเบรียล มากัลเญส: 9/10 – โหม่งทำประตูและป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม ริคคาร์โด คาลาฟิออริ: 8/10 – ทำประตูตีเสมอได้อย่างสวยงามและช่วยเกมรับได้ดีจนกระทั่งถูกเปลี่ยนออก เดแคลน ไรซ์: 7/10 – คุมเกมในแดนกลางได้ดีก่อนที่ทีมจะเหลือ 10 คน ไค ฮาแวร์ตซ์: 6/10 – ถอยลึกมาช่วยเกมรับในครึ่งหลัง บูกาโย ซาก้า: 7/10 – มีส่วนร่วมในเกมโต้กลับและช่วยเกมรับได้ดี กาเบรียล มาร์ติเนลลี: 7/10 – จ่ายบอลให้คาลาฟิออริทำประตู และเป็นตัวอันตรายในการสวนกลับ เลอันโดร ทรอสซาร์: 5/10 – ถูกไล่ออกในครึ่งแรกหลังได้รับใบเหลืองที่สอง วิเคราะห์การวางแผนของผู้จัดการทีม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) กวาร์ดิโอล่าเผชิญกับปัญหาเมื่อ โรดรี บาดเจ็บและต้องออกจากเกมเร็ว เขาพยายามปรับแท็คติกให้เน้นเกมรุกมากขึ้นหลังจากอาร์เซนอลเหลือ 10 คน โดยการเปลี่ยนตัว จอห์น สโตนส์ และ แจ็ค กรีลิช เพื่อสร้างแรงกดดันในช่วงท้ายเกม นับว่าเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เพราะสโตนส์เป็นคนยิงประตูตีเสมอในช่วงทดเวลา มิเกล อาร์เตต้า (อาร์เซนอล) แม้จะต้องเล่นด้วยนักเตะ 10 คนในช่วงครึ่งหลัง อาร์เตต้าจัดการทีมได้อย่างชาญฉลาด ใช้การเล่นเกมรับที่แน่นหนา และพยายามสวนกลับด้วยความเร็ว การจัดการแท็คติกของเขาทำให้อาร์เซนอลเกือบจะคว้าชัยได้ แต่พลาดในช่วงท้ายเกมจากการตั้งรับลูกตั้งเตะของแมนซิตี้ ทั้งสองทีมและผู้จัดการต่างแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการเกมที่น่าประทับใจในเกมที่สูสีและเต็มไปด้วยความดราม่า https://www.instagram.com/p/DAOoK1fOERU/?img_index=1 MajiKrabCreators ขอขอบคุณภาพ ภาพปกและภาพประกอบ : ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4 โดย mancity ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !