รีเซต
แมทช์แรกแพ้พ่าย แมทช์สุดท้ายฉลองแชมป์!!

แมทช์แรกแพ้พ่าย แมทช์สุดท้ายฉลองแชมป์!!

แมทช์แรกแพ้พ่าย แมทช์สุดท้ายฉลองแชมป์!!
TrueID Sport Team
28 พฤศจิกายน 2562 ( 10:55 )
849
8

มีคำกล่าวไว้ว่า “สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร”

วลีนี้นำไปใช้ได้กับทุกวงการ โดยเฉพาะเรื่องกีฬาที่อะไรก็สามารถเป็นไปได้ หากยังไม่จบการแข่งขัน ซึ่งนั่นรวมถึงสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับนักเตะทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ในขณะนี้

ขุนพล “ช้างศึก” พุ่งตัวออกจากบล็อคสตาร์ท ก่อนจะเสียหลักล้มหัวทิ่มหัวตำ หลังจากโดน อินโดนีเซีย เผาเครื่อง 2-0 ในแมทช์ประเดิมสนามซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เล่นเอาแฟนบอลไทยพากันหงุดหงิดพร้อมกันทั้ง 77 จังหวัดโดยมิได้นัดหมาย

ต้องยอมรับครับว่า แข้งไทยทำผลงานได้ “ต่ำกว่ามาตรฐาน” ในนัดแรก และต้องวิจารณ์กันอย่างตรงไปตรงมาว่า หากลูกทีมของกุนซือ อากิระ นิชิโนะ โชว์ฟอร์มกันได้แค่นี้ ลืมเรื่อง “เหรียญทอง” ไปได้เลย เผลอๆอาจจะร่วงตกรอบแรกเลยด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ในทัวร์นาเมนต์ลูกหนังรายการใหญ่ๆ ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่บางทีมเริ่มต้นได้อย่าง “ห่วยแตก” แต่หลังจากนั้นพวกเขารวมใจกันสู้และค่อยๆงัดฟอร์มเก่งออกมา จนกระทั่งเข้ามาถึงแมทช์สุดท้าย และได้จุดพลุฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ สะใจยิ่งกว่าฉากที่นางเอกได้เอาคืนตัวอิจฉาในละครหลังข่าวเสียอีก

และนี่คือตัวอย่างของทีมที่ “เริ่มต้นร้าย แต่ปลายโคตรดี” ซึ่งอาจเป็นแรงฮึดให้ขุนพลช้างศึกชุดนี้ได้เห็นว่า หากไม่ยอมแพ้เสียอย่าง…“พวกคุณก็ทำได้เหมือนกัน!!”

ทีมชาติสเปน : ฟุตบอลโลก 2010

ทีมชาติสเปนพกดีกรีแชมป์ยูโร 2008 มาลุยศึกเวิลด์ คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้ พร้อมด้วยสุดยอดขุมกำลังตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า ไม่ว่าจะเป็น อิเคร์ กาซิยาส, เคราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล, เซร์คิโอ บุสเกตส์, ซาบี เอร์นานเดซ, อันเดรียส อิเนียสต้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส และดาบิด บียา

(Photo by Jamie McDonald/Getty Images)

สเปนลงประเดิมสนามนัดแรก พบกับสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งแฟนบอลและบรรดากูรูต่างมั่นใจว่าขุนพล “กระทิงดุ” น่าจะขวิดแข้งสวิสไส้แตกแน่นอน แต่สุดท้ายกลายเป็นกระทิงที่โดนหักเขา พ่ายต่อนักเตะจากแดนนาฬิกาไป 0-1

ความปราชัยแบบเหลือเชื่อดังกล่าว ทำให้แข้งสเปนถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่กุนซือ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ก็สามารถปลุกเร้าลูกทีมให้กลับมาได้อย่างรวดเร็ว โดยพวกเขาชนะ ฮอนดูรัส และ ชิลี ในสองนัดต่อมา ทะยานเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะแชมป์กลุ่ม

(Photo credit should read GABRIEL BOUYS/AFP via Getty Images)

และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครหยุดยั้งความร้อนแรงและดุดันของทัพกระทิงฝูงนี้ ซึ่งไล่ขวิดแหลกคู่ต่อสู้ในรอบน็อกเอาต์ ทั้งโปรตุเกส, ปารากวัย, เยอรมนี ก่อนจะเชือด ฮอลแลนด์ ในช่วงต่อเวลาของรอบชิงชนะเลิศ ผงาดคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีมชาติสเปน

ทีมชาติชิลี : โคปา อเมริกา 2016

ชิลีแทบเอาตัวไม่รอดในรอบแรก โดยพวกเขาประเดิมสนามแพ้อาร์เจนตินา 1-2 จากนั้นนัดที่สองชนะโบลิเวียแบบลมแทบจับ 2-1 หลังจากได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 10 ต่อมานัดสุดท้ายรอบรอบแรก โดน ปานามา ยิงนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 แต่สุดท้ายมีฮึดกลับมาแซงชนะ 4-2 ผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม

(Photo credit should read NELSON ALMEIDA/AFP via Getty Images)

การทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ของชิลีได้สำเร็จ ไม่ต่างอะไรจากการปล่อยเสือเข้าป่า เพราะหลังจากนั้น พวกเขาเหมือนกลายเป็นคนละทีมจากรอบแรก โดยถล่มแหลกเม็กซิโก 7-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ตามมาด้วยการต้อนโคลอมเบีย 2-0 ในรอบตัดเชือก ก่อนที่จะได้ฉลองแชมป์สุดเหวี่ยง หลังจากโค่น อาร์เจนตินา ของลิโอเนล เมสซี่ ด้วยการชนะจุดโทษ 4-2 หลังจากเสมอกัน 0-0 ในเวลา 120 นาที

ทีมชาติฮอลแลนด์ : ฟุตบอลยูโร 1988

พลพรรค “อัศวินสีส้ม” ชุดนั้นนำทัพมาโดยคีย์แมนอย่าง แยน วูเตอร์ส, เจอรัลด์ วาเนนเบิร์ก, โรนัลด์ คูมัน ผนึกกำลังกับ 3 ทหารเสือ ได้แก่ มาร์โก ฟาน บาสเทน, แฟรงก์ ไรจ์การ์ด และ เล็บ กูหลุด เอ้ย! รุด กุลลิท

(Photo by Peter Robinson/EMPICS via Getty Images)

แต่ทว่าเพียงนัดแรก ขุนพล “กังหันลม” ก็กลายเป็น “กังหันพัง” เมื่อโดนสหภาพโซเวียตเชือดไป 1-0 แต่แข้งดัตช์ภายใต้การคุมทัพของ “นายพลลูกหนัง” ไรนุส มิเชลส์ ก็มิได้หวั่นไหวแต่อย่างใด ก่อนจะมีฮึดไล่อัดอังกฤษและไอร์แลนด์  ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

จากนั้นพลพรรค “ฟลายอิ้งดัตช์แมน” ระเบิดฟอร์มโค่นเจ้าภาพ เยอรมนี 2-1 ในรอบตัดเชือก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศไปเจอกับคู่ปรับเก่า สหภาพโซเวียต ซึ่งคราวนี้ ฮอลแลนด์ถอนแค้นได้สำเร็จด้วยชัยชนะ 2-0 จากประตูของ รุด กุลลิท และลูกยิงใบไม้ร่วงสุดคลาสสิคของ มาร์โก ฟาน บาสเท่น พาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ยูโรได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์

ทีมชาติมาเลเซีย : ซีเกมส์ 1977

ปิดท้ายด้วยทัวร์นาเมนต์ใกล้ตัวที่สุดนั่นคือ มหกรรมกีฬาซีเกมส์ เมื่อปี 1977 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

ทัพนักเตะเสือเหลืองลงเตะนัดเปิดสนามพบกับ อินโดนีเซีย ต่อหน้าแฟนบอลในถิ่นของตัวเอง ผลปรากฏว่าพวกเขาพ่ายแข้งอิเหนาคาบ้าน 1-2 เรียกได้ว่า “งานกร่อย” ตั้งแต่นัดแรกเลยทีเดียว

(DIGITAL IMAGE. Mandatory Credit: Stanley Chou/ALLSPORT)

แต่ความพ่ายแพ้นัดนี้เปรียบเสมือนการไปกระตุกหนวดเสือ เพราะหลังจากนั้น มาเลเซียเปรียบเสมือนสิบล้อเบรกแตก ระเบิดฟอร์มไล่ขยี้คู่แข่งเละเทะทุกนัด  โดยต้อนฟิลิปปินส์ 5-0 ถล่มบรูไน 7-0 จากนั้นรอบรองชนะเลิศ ทิ้งบอมบ์ใส่พม่า 9-1 ก่อนจะอัดทีมชาติไทย 2-0 ในรอบชิงชนะเลิศ กระชากเหรียญทองมาคล้องคอได้อย่างสะใจแฟนบอลทีมเสือเหลืองที่ได้เฮสนั่นกรุงกัวลาลัมเปอร์

ติดตามข่าวซีเกมส์อื่นๆ คลิกที่นี่

– ดูบอลสดฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

541