ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์แรกแต่ละทีมได้ลงเตะเกมแรกของฤดูกาลไปเป็นที่เรียบร้อย ต้องบอกเลยว่าหลายทีมเตรียมตัวมาได้ดีเกินคาดแม้แต่ทีมน้องใหม่ที่พึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาทั้งสามทีมก็โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจเก็บคะแนนติดไม้ติดมือไปได้เหมือนกัน แต่ยังไงซะความน่าสนใจส่วนใหญ่ก็จะถูกพุ่งเป้าไปที่เหล่าทีมใหญ่หรือที่เรียกกันว่า "บิ๊ก 6 พรีเมียร์ลีก" วันนี้เราจึงจะมาเจาะลึกลงรายละเอียดในแต่ละทีมว่าผลงานในเกมแรกเป็นอย่างไรกันบ้างและแต่ละทีมมีโอกาสมากแค่ไหนในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามกันได้เลยอาร์เซนอล- อาร์เซนอล ลงเล่นเป็นคู่แรกของฤดูกาลนี้โดยการบุกไปเยือนคริสตัลพาเลซ ที่สนามSelhurst Park ผลการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 0-2 อาร์เซนอลบุกมาเก็บ 3 คะแนนแรกได้สำเร็จโดยได้ประตูจากลูกโหม่งของกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ในนาที 20 และประตูที่สองบูกาโย ซาก้า ได้หลุดเข้าไปยิงบอลแฉลบมาร์ค เกฮี เข้าประตูไปในนาที 85- ฟอร์มการเล่นโดยรวมทำได้ค่อนข้างดีปกติเจอกับพาเลซไม่เคยง่ายอยู่แล้ว เกมรุกเล่นกันได้วูบวาบมีโอกาสได้จบสกอร์หลายครั้งแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ดีพอ กาเบรียล เฆซุสแม้ว่าจะไม่มีชื่อยิงประตูแต่สร้างความปั่นป่วนได้มากเอาตัวรอดเก่งเล่นกับบอลในพื้นที่สุดท้ายได้ดีทำให้แดนหน้าเล่นกันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เกมรับพัฒนาขึ้นมาเยอะผู้เล่นทุกคนขยับลงมาช่วยกันเล่นเกมรับได้ดีโดยเฉพาะวิลเลี่ยม ซาลิบา อ่านเกมดีเข้าบอลฉลาดช่วยเก็บกวาดในจังหวะสำคัญได้หลายหลัง แต่อาร์เซนอลยังต้องระวังเรื่องสมาธิของนักเตะความผิดพลาดส่วนตัวยังมีให้เห็นบ่อยครั้งโชคดีที่ยังไม่เสียหายถึงขั้นเสียประตูลิเวอร์พูล- หงส์แดง ลงเล่นเป็นคู่แรกของวันเสาร์โดยต้องบุกไปเยือนทีมน้องใหม่ฟูแล่ม ที่สนามCraven Cottage ผลการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 2-2 ทำให้ลิเวอร์พูลเก็บได้เพียงหนึ่งคะแนนเท่านั้น โดยเป็นฝ่ายต้องไล่ตามตีเสมอถึงสองครั้งจาก ดาร์วิน นูเญซ นาที 64 และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาที 80- ฟอร์มการเล่นโดยรวมไม่ถึงกับแย่แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควรบางจังหวะยังดูเล่นกันช้าไปหน่อยความผิดพลาดส่วนตัวก็ยังมีให้เห็นอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะในครึ่งแรกต้องยอมรับว่าฟูแล่มเล่นทำได้ดีมากมีความฟิตสูงเป็นฝ่ายวิ่งเข้าไล่กดดันจนแดนกลางของลิเวอร์พูลขึ้นเกมได้ลำบาก จนในครึ่งหลังการส่งดาร์วิน นูเญซ ลงมากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญช่วยให้เกมรุกดูอันตรายขึ้นเยอะบอลที่เปิดเข้าเขตโทษหวังผลได้ทุกครั้งและก็เป็นคนยิงประตูตีเสมอให้กับทีม น่าเสียดายโมเมนตั้มของเกมกำลังกลับมาแต่แล้วความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ทีมต้องลำบากอีกครั้งแต่สุดท้ายก็ยังดีที่สามารถเอาตัวรอดออกมาได้ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์- สเปอร์ส ลงเล่นเกมแรกโดยการเปิดบ้านต้อนรับทีมเยือนเซาแธมป์ตัน ที่สนามTottenham Hotspur Stadium ผลการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 4-1 สามารถเก็บสามคะแนนแรกในบ้านของตัวเองได้สำเร็จ โดยได้ประตูจากไรอัน เซสเซยง นาที 21 เอริค ดายเออร์ นาที 31 โมฮัมเหม็ด ซาลิซู ทำเข้าประตูตัวเองนาที 61 และปิดท้ายด้วยประตูของเดยัน คูลูเซฟสกี้ นาที 63- ฟอร์มการเล่นโดยรวมน่าจะไฉไลมากที่สุดในลีกเลยก็ว่าได้สำหรับเกมแรกอย่างเป็นทางการ แม้ว่าเริ่มเกมมาต้องเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ได้ตื่นตกใจอะไรยังคงเดินหน้าเกมรุกเข้าใส่ไปเรื่อยๆและก็มีโอกาสได้ยิงจน กาวิน บาซูนู ประตูของเซาแธมป์ตันต้องช่วยเซฟเอาไว้ได้หลายครั้งแต่ยังไงก็ต้านเกมรุกที่ดุดันเด็ดขาดของสเปอร์สเอาไว้ไม่อยู่โดนยิงแซงทีเดียวสี่ประตูรวด ต้องบอกเลยว่าเกมรุกของสเปอร์สในปีนี้เล่นกันได้เข้าขารู้ใจจังหวะสุดท้ายจบสกอร์กันได้เด็ดขาดและยังมีนักเตะสำรองทดแทนได้ในคุณภาพที่ไม่แตกต่างกันมากอีกด้วย เชลซี- เชลซี ลงเล่นเป็นคู่ดึกคืนวันเสาร์โดยการบุกไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ที่สนามGoodison Park ผลการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 0-1 เก็บสามคะแนนสำคัญได้เหมือนกันโดยมาได้ประตูชัยจากลูกจุดโทษของจอร์จินโญ่ ในช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาที 45+9- ฟอร์มการเล่นยังไม่ดีเท่าที่ควรแม้ว่าจะเก็บชัยชนะได้แต่ยังมีอีกหลายอย่างให้โธมัส ทูเคิล ต้องปรับปรุงแก้ไขรูปเกมสามารถครองบอลได้มากกว่าก็จริงแต่ในจังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาดพอที่จะเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ของทีมได้ การขาดกองหน้าตัวเป้าดูจะเป็นปัญหาไม่น้อยเลยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าตัวรุกทั้งสามคนจะมีความเร็วคล่องตัวสูงและเทคนิคดีแต่เมื่อต้องเจอคู่แข่งลงไปรับลึกไม่มีพื้นที่ให้เล่นก็จะเจาะเข้าไปยาก ส่วนเกมรับยังไว้ใจได้การได้คาลิดู คูลิบาลี่ เข้ามาช่วยเพิ่มความแน่นอนและมีลูกหนักไว้ขู่กองหน้าคู่แข่งได้ด้วยเหลือปรับเรื่องความฟิตเพิ่มอีกหน่อยก็เอาตัวรอดได้สบายแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด - แมนยู ลงเตะในวันอาทิตย์โดยเป็นฝ่ายเปิดบ้านต้อนรับทีมเยือนไบรท์ตัน ที่สนามOld Trafford ผลการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 1-2 พลาดท่าปราชัยในบ้านตัวเองตั้งแต่เกมแรกทำให้ยังไม่มีคะแนน โดยถูกทีมเยือนออกนำไปก่อนสองประตูก่อนที่จะไล่คืนมาได้หนึ่งประตูจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อเล็กซิส แม็กอัลลิสเตอร์ ในนาที 68- ฟอร์มการเล่นโดยรวมผิดจากช่วงอุ่นเครื่องไปเยอะเลย ดูเหมือนการบาดเจ็บของอองโตนี่ มาร์ซิยาล และปัญหานอกสนามของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้เอริก เทนฮาก คิดหนักจนวางแผนจัดตัวผู้เล่นผิดพลาดไปในครึ่งแรกประกอบกับความผิดพลาดส่วนตัวของคู่หู แม็ค-เฟร็ด ทำให้ทีมตกเป็นรองเยอะแม้ว่าครึ่งหลังจะสามารถแก้เกมจนลูกทีมเล่นกันดีขึ้นแต่ก็ไล่ตามไม่ทันต้องพ่ายแพ้คาบ้านไปก่อน หลังจากเกมนี้เชื่อว่าเอริก เทนฮาก จะได้เห็นปัญหาที่แท้จริงของทีมอย่างเต็มตาและจำเป็นต้องเร่งเสริมนักเตะใหม่โดยด่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้- แมนซิตี้ ทีมแชมป์เก่าลงเล่นเป็นคู่สุดท้ายของสัปดาห์โดยต้องออกไปเยือนเวสต์แฮม ที่สนามOlympic Stadium ผลการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 0-2 เก็บสามคะแนนไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก โดยทั้งสองประตูได้มาจากดาวยิงคนใหม่เออร์ลิง ฮาแลนด์ ในนาที 36(P) และลูกที่สองปิดท้ายในนาที 65 - ฟอร์มการเล่นโดยรวมดูดีว่าเกมคอมมูนิตี้ชิลด์เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นอย่างมาก นักเตะมีความฟิตมากขึ้นจ่ายบอลกันแม่นยำและเป็นฝ่ายครองบอลเดินเกมรุกเข้าใส่อยู่แทบจะฝั่งเดียว อีกสิ่งที่พัฒนาขึ้นจากเกมที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดคือการประสานงานกันของผู้เล่นในเกมรุกเมื่อทุกคนเริ่มจับจังหวะได้และสนับสนุนเออร์ลิง ฮาแลนด์ มากขึ้นเราก็จะได้เห็นความอันตรายในพื้นที่สุดท้ายที่ยากจะป้องกันเอาไว้ได้ ฮาแลนด์คือมือสังหารประตูอย่างแท้จริงทุกจังหวะเค้าพร้อมจะพุ่งขึ้นไปหาพื้นที่ว่างเพื่อสร้างโอกาสจบสกอร์ยิ่งถ้าเพื่อนส่งบอลมาถึงตัวได้ทุกอย่างก็ดูจะง่ายด่ายไปซะหมดรวมข่าวกีฬา พรีเมียร์ลีก ไทยลีก ดูบอลสด ไฮไลท์ EPL ผลบอลวันนี้ | TrueIDเครดิตภาพขอบคุณ Premier League , Arsenal, Liverpool FC, Tottenham Hotspur, Chelsea Football Club, Manchester United, Manchester Cityภาพปก Premier Leagueภาพ Arsenal/Liverpool/Tottenham Hotspurภาพ Chelsea/ManUnited/ManCity*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565