รีเซต
5 ประเด็นสำคัญ หลัง "ช้างศึก" ทีมชาติไทยผงาดแชมป์กลุ่ม ศึกซูซูกิ คัพ

5 ประเด็นสำคัญ หลัง "ช้างศึก" ทีมชาติไทยผงาดแชมป์กลุ่ม ศึกซูซูกิ คัพ

5 ประเด็นสำคัญ หลัง "ช้างศึก" ทีมชาติไทยผงาดแชมป์กลุ่ม ศึกซูซูกิ คัพ
KiTTiSaK
19 ธันวาคม 2564 ( 08:00 )
14.1K

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่ง "ช้างศึก" ทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มสุดยอด คว้าชัย 4 นัดรวด เก็บ 12 คะแนนเต็ม ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่มแบบหล่อๆ กันไปเลย

ถึงแม้ทีมชาติไทยจะทำผลงานร้อนแรงในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ใช่ว่า ขุนพลช้างศึกจะการันตีแชมป์ได้แน่นอน เพราะทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ในเกมลูกหนัง อีกทั้งยังเหลือเกมรอบรองฯ และรอบชิงฯ ที่ต้องลุ้นกันต่อ โดยเฉพาะรอบตัดเชือก ซึ่งจะต้องเจอกับคู่รักคู่แค้นอย่างทีมชาติเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม จาก 4 เกมที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายอย่างจากทัพช้างศึกชุดนี้ และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญของทีมชาติไทยในรอบแบ่งกลุ่ม ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020

"มุ้ย" ยังไม่หมด!!

ด้วยอายุอานามในวัย 33 ปี และสถิติการพังประตูที่อาจจะไม่ได้ยิงระเบิดเถิดเทิงเหมือนเมื่อก่อน ทำให้แฟนบอลบางส่วนมองว่า "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ไม่ได้อันตรายเหมือนเดิมอีกต่อไป และเหลือแค่รอเวลาเปิดทางให้บรรดารุ่นน้องขึ้นมาแทน ถึงขั้นมีการพูดกันว่า "มุ้ยหมดแล้ว"

ไม่ปฏิเสธว่า ธีรศิลป์ ณ วินาทีนี้ อาจจะไม่ได้เฉียบขาดเหมือนสมัยช่วงพีกๆ แต่ก็คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า "เทพมุ้ย" ยังคงสถานะเป็นหัวหอกเบอร์หนึ่งของทีมชาติไทย พิสูจน์ได้จากผลงานในศึกซูซูกิ คัพ รอบแรก ซึ่งดาวยิงจากบีจี ปทุม ยูไนเต็ด กดไป 4 ประตูจากการลงสนาม 3 นัด พร้อมกับขึ้นแท่นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทัวร์นาเมนท์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"อุ้ม-เจ" ขาดไม่ได้

"อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน และ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ สองแข้งดีกรีเจลีก ยังคงเป็นกำลังสำคัญที่ทีมชาติไทยจะขาดเสียไม่ได้ โดยเฉพาะ อุ้ม ธีราทร ที่แทบจะไม่มีแบ็กซ้ายไทยคนไหนที่เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าเขาได้เลย เห็นได้ชัดเจนจากตอนคัดบอลโลก เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา 

ขณะที่ "เจ ชนาธิป" แม้จะยังไม่มีสกอร์ในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่มิดฟิลด์จากคอนซาโดเล ซัปโปโร ก็ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเป็นขับเคลื่อนเกมบุกและช่วยให้เพื่อนร่วมทีมเล่นได้ง่ายขึ้น ยิ่งเมื่อได้มาประสานงานกับ "กัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร จากเลสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งช่วยยกระดับเกมรุกของไทยหลากหลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 สายเลือดใหม่ได้โชว์ของ

นอกเหนือจากแกนหลักชุดเดิมที่ทำผลงานได้ดีแล้ว ในศึกซูซูกิ คัพ 2020 เรายังได้เห็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่ได้รับโอกาส และโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ อาทิ กฤษดา กาแมน จากชลบุรี เอฟซี ซึ่งถูกจับมายืนเป็นเซนเตอร์คู่กับ มานูเอล ทอม เบียร์ห และทำผลงานได้ดีเกินคาด

ขณะที่ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แข้งป้ายแดงของบีจี ปทุม ก็ได้ลงสนามและเบิกสกอร์แรกของตัวเองในทีมชาติชุดใหญ่ได้สำเร็จในเกมที่ถล่ม เมียนมา 4-0 รวมถึง วีระเทพ ป้อมพันธุ์ กองกลางของเมืองทอง ซึ่งได้ลงเล่นทีมช้างศึกชุดใหญ่เป็นนัดแรกในชีวิต และโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีในเกมชนะ สิงคโปร์ 2-0 ซึ่งทั้ง กฤษดา, วรชิต, วีระเทพ และอีกหลายๆคน ล้วนเป็นนักเตะที่อายุยังไม่มาก และน่าจะเป็นกำลังสำคัญของทีมในอนาคตได้แน่นอน

ขุมกำลังฟูลทีม ช้างศึกคืนชีพ

ผลงานของทีมชาติไทยก่อนหน้านี้ต้องใช้คำว่า "น่าผิดหวัง" โดยเฉพาะการกระเด็นตกรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2022 ก่อนจะตามมาด้วยการแยกทางกับกุนซือ อากิระ นิชิโนะ

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทัพช้างศึกโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น นั่นเป็นเพราะการเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเตรียมทีมเต็มไปด้วยข้อจำกัด และทีมชาติไทยก็ไม่เคยได้รวมตัวกันอย่าง "ฟูลทีม" เลย โดยเฉพาะ 2 คีย์แมนอย่าง ธีราทร และ ชนาธิป ซึ่งอยู่ที่ญี่ปุ่น ขณะที่ ธีรศิลป์ ก็มีปัญหาสภาพร่างกายจนต้องถอนตัวไปในช่วงคัดบอลโลก

จนมาถึงศึกซูซูกิ คัพ 2020 แม้จะมีปัญหาในการเตรียมทีมอยู่บ้าง แต่ภาพรวมก็เป็นไปในทิศทางที่ดี โดย "อุ้ม-เจ" กลับมารับใช้ชาติได้อย่างไร้ปัญหา เพราะเจลีกปิดซีซั่นพอดี ขณะที่ "มุ้ย" ก็กลับมาฟิตเปรี๊ยะ แถมยังมี "กัน" ธนวัฒน์ จากเลสเตอร์มาเสริมทัพอีกคน ทำให้ทีมชาติไทยเริ่มกลับมาคึกคักและเป็น "ช้างศึก" อันน่าเกรงขามที่พวกเราคุ้นเคยอีกครั้ง


"มาโน่" อาจเป็นคนที่ใช่

คงไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับแม่ทัพอย่าง มาโน่ โพลกิ้ง ซึ่งอาจจะเรียกว่ากุนซือ "ขัดตาทัพ" ก็ว่าได้ เพราะสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เซ็นสัญญาระยะสั้นให้คุมทีมทำภารกิจในศึกซูซูกิ คัพ ครั้งนี้เท่านั้น

ทั้งนี้ มาโน่ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือนกันยายน และเหมือนการเข้ามารับ "เผือกร้อน" เพราะ มาโน่ มีเวลาเตรียมตัวแค่ไม่กี่เดือน และนักเตะก็เพิ่งได้รวมทีมซ้อมกันจริงๆ จังๆ หลังจากจบศึกไทยลีกเลกแรกเมื่อช่วงปลายเดือนพ.ย. ที่ผ่านมานี่เอง 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ มาโน่ คลุกคลีและเคยคุมสโมสรไทยมานาน ทำให้เขารู้จักนักเตะไทยหลายๆคนดีอยู่แล้ว ที่เหลือจึงเป็นเรื่องของแท็คติกที่เขาจะใส่ให้กับลูกทีม ซึ่งผลงานชนะ 4 นัดรวดในรอบแรกก็อาจจะบ่งชี้ได้ในระดับหนึ่งว่า มาโน่ มาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะเกมนัดสุดท้ายรอบแรก ซึ่ง มาโน่ จัดตัวสำรองลงสนามยกทีม และสามารถต้อนชนะ สิงคโปร์ 2-0 เรียกว่าได้ทั้งผลลัพธ์ที่ต้องการ ได้พักบรรดาผู้เล่นตัวหลัก และได้เรื่องของบรรยากาศภายในทีม ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเตะได้มีส่วนร่วมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่แน่นอนว่า ภารกิจของมาโน่ยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งถ้าในที่สุด "ช้างศึก" อกหักพลาดแชมป์ขึ้นมา ชัยชนะ 4 นัดรวดในรอบแรกก็แทบจะไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะเป้าหมายของทีมชาติไทยคือต้อง "แชมป์" สถานเดียวเท่านั้น ซึ่งพวกเราต้องรอติดตามกันต่อไป

และถ้าสุดท้าย ทุกอย่างจบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ขุนพล "ช้างศึก" ทวงบัลลังก์แชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพได้ตามเป้าหมาย ก็ไม่แน่ว่า มาโน่ โพลกิ้ง อาจจะเปลี่ยนสถานะมาเป็น "กุนซือถาวร" ของทีมชาติไทยก็เป็นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนทรรศนะ ตามประสาคนรักกีฬากันได้ที่ TrueID Community คลิกเลย!

ยอดนิยมในตอนนี้

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี