ข่าวเศร้ากึ่งตกใจในช่วง 2 - 3 วันนี้ สำหรับสาวกทีมหงส์แดงคงหนีไม่พ้นข่าวการโบกมือลาสโมสร ของกัปตันทีมจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่จริงข่าวนี้ทุกคนน่าจะทำใจกันได้แล้ว แต่พอทางสโมสรได้จับกัปตันมาถ่ายวิดีโอบอกลา ตัดต่อไล่เรียงรูปภาพและคลิปวีดีโอเหตุการณ์ในความทรงจำต่างๆ สลับกับบทพูดของเฮนเดอร์สันเข้าไป บอกตรงๆครับ ขนาดฟังออกบ้างไม่ออกบ้างผมยังน้ำตาไหล มันซาบซึ้งกึ่งใจหายยังไงบอกไม่ถูก และเพื่อเป็นการสดุดีส่งท้ายให้พี่แก ผมก็เลยเขียนรีวิวนี้ขึ้นมาครับ ผมอยากจะเล่าให้ทุกคนได้ฟังบ้างเหมือนกัน ว่าสำหรับกัปตันทีมลิเวอร์พูลที่ชื่อว่า "จอร์แดน เฮนเดอร์สัน" ผู้นี้ ผมจดจำเขาได้แค่ไหน 1. ราคาค่าตัวสุดจะแพง ทั้งที่ตอนย้ายมาจากซันเดอร์แลนด์ยังเป็นแค่เด็กดาวรุ่งจำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมทำงานออฟฟิศใหม่ๆ กำลังพักทานข้าวเที่ยง พอเห็นข่าวนี้ในโทรทัศน์ผมก็ถึงกับกินข้าวไม่อร่อยไปเลย เพราะเด็กดาวรุ่งกับราคา 20 ล้านปอนด์นั้นเป็นอะไรที่บ้ามากๆ เอาตามตรงผมแทบไม่รู้จักนักบอลคนนี้เลย แล้วพอฟังข่าวต่อ ผู้ประกาศบอกว่ามาจากซันเดอร์แลนด์ ผมยิ่งต้องช็อค เพราะในความคิดผมซันเดอร์แลนด์คือทีมบ๊วยของตาราง เป็นทีมที่ตกชั้นเป็นประจำ การจ่ายเงิน 20 ล้านปอนด์เมื่อ 12 ปีก่อน กับนักเตะคนนี้คือต้องอุทานใส่ เคนนี่ ดัลกลิซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในตอนนั้นดังๆเลยว่า "ลุงคิดอะไรอยู่!?" 2. ฟอร์มการเล่นไม่ได้โดดเด่น มองไม่ออกว่าเก่งด้านไหนนี่คือสิ่งที่ผมคิดแบบเป็นการส่วนตัวนะครับ เพราะหลังจากได้ดูเขาเล่นแล้วเขาก็ไม่ได้จัดว่าเป็นตัวทีเด็ด , เป็นตัวพลิกเกม , หรือเป็นคนตัดสินเกมใดๆ ออกแนวความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏมากกว่า จนผมเริ่มคิดว่า 20 ล้านปอนด์ มันดูธรรมดาเกินไปจริงๆนั่นแหละ มันจะไม่คุ้มค่าเงินซะละมั้ง และคนที่น่าจะคิดเหมือนผมก็คือ เเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ณ ขณะนั้น มีข่าวออกมาเหมือนกันนะครับว่า ร็อดเจอร์ส มีความคิดที่จะแลกตัว เฮนเดอร์สัน ให้กับ คลิ้นท์ เดมป์ซี่ย์ ของฟูแล่ม ซึ่งแปลว่ากัปตันทีมหงส์แดงผู้นี้ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมด้วยซ้ำ 3. การมาของโค้ชคนใหม่อย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ พลิกโฉมทุกอย่างเหมือนเฮนเดอร์สันแกรับรู้ได้ว่าโอกาสใหม่กำลังมาถึงก็มิปาน ผนวกกับระบบการเล่นแบบวิ่งสู้ฟัดเกเก้นเพลสซิ่งของเจอร์เก้น คล็อปป์ด้วย ทำให้สไตล์การเล่นของเฮนเดอร์สันชัดเจนขึ้น แกกลายเป็นนักเตะที่วิ่งได้แบบไม่มีหมด เข้าบอลหนักหน่วงเอาอยู่ในทุกจังหวะ จังหวะไหนเพื่อนหลุดตำแหน่งก็จะเป็นแกนี่แหละที่วิ่งลงมาซ้อน นั่นหมายความว่าแกมีความเข้าใจเกมและรู้เรื่องแทคติกฟุตบอลสูงมาก คือไม่ได้มีแต่พละกำลังอย่างเดียวแต่ใช้สมองในการเล่นบอลด้วย ผลก็เลยทำให้แกกลายเป็นตัวหลักของเจอร์เก้น คล็อปป์ ไปโดยปริยาย คิดดูสิคุณผู้อ่านจากคนที่จะโดนขายทิ้งอยู่แล้ว กลับพลิกวิกฤตขึ้นมาได้ น่าชื่นชมมากๆ 4. ความฟิตระดับพระกาฬ การยิงแถวสองแบบเท้าหนักไม่ใช่จุดเด่นของเขา , การวางบอลยาวอย่างแม่นยำก็ไม่ใช่ , การเป็นเพลย์เมกเกอร์ส่งบอลทะลุช่องจากมุมอับสายตายิ่งไม่ใช่ แต่ถ้าวัดกันด้วยความฟิตและลูกดุดันล่ะก็เฮนเดอร์สันน่าจะมีแวว กัปตันทีมผู้นี้มีตัวเลขการวิ่งต่อแมทซ์ที่มากกว่าใครเพื่อน ช่วยทีมได้ทั้งในจังหวะรุกและรับ ถ้าทีมจะยิงได้จุดเริ่มมักมาจากเขา ถ้าทีมจะไม่เสียประตูจุดแรกที่เกิดการปะทะแย่งบอลก็มักมาจากเขา เพราะงั้นถ้าไม่นับช่วงฤดูกาลหลังที่เจ้าตัวบาดเจ็บและฟอร์มดร็อปลงไปตามอายุ แฮนเดอร์สันจัดว่าเป็นนักเตะที่โค้ชรักมาก คนดูอาจไม่เห็นว่าเขาทำอะไร ขนาดทีมงานถ่ายทอดสดจะตัดไฮไลท์คัดช็อตสวยๆก็จะไม่มีเขาอยู่ในเฟรม แต่สำหรับโค้ชแล้วนักเตะแบบนี้จะขาดไม่ได้เชียวแหละ 5. บทบาทกัปตันทีมที่สุดจะกดดันกัปตันทีมคนก่อนของลิเวอร์พูลคือ สตีเวน เจอร์ราร์ด ชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของลิเวอร์พูล ช็อตการยิงประตูโกงความตายมีให้เห็นนับครั้งไม่ถ้วน เด่นทั้งรุกและรับเตะมุมได้ยิงฟรีคิกได้แทงบอลทะลุช่องได้จากทุกมุมในสนาม ฯลฯ เรียกได้ว่าสำหรับแฟนบอลหงส์แดงแล้ว ใครก็แทนเจอร์ราร์ดไม่ได้ ยังไม่นับความภักดีที่ชายคนนี้มอบให้ทีมตลอดมา เรียกได้ว่าการแทรกตัวขึ้นมาของเฮนเดอร์สันเพื่อรับไม้ต่อนั้น มาพร้อมกับความกดดันมหาศาล ในแง่ของฝีเท้าเขาเทียบชั้นเจอร์ราร์ดไม่ได้เลย แต่เจ้าตัวก็ค่อยๆเอาชนะใจแฟนบอลได้เรื่อยๆ ด้วยวิถีทางแห่งความทุ่มเทของตนเอง เฮนเดอร์สันมีความเป็นผู้นำสูงมาก บ่อยครั้งที่ผมเห็นเจ้าตัวตะโกนสั่งลูกทีมอยู่ตลอด หลายครั้งก็เป็นการตะโกนด่าแบบสุดเสียง ทั้งๆที่ฝีเท้าตัวเองอ่อนด้อยกว่าลูกทีมซะอีก ย้อนกลับไปเมื่อ 2 - 3 ฤดูกาลก่อน ตอนช่วงโควิดระบาด เกมฟุตห้ามให้มีผู้ชมในสนาม คุณผู้อ่านที่ได้ดูเกมช่วงนั้นก็น่าจะสัมผัสได้เหมือนผม ว่าทั้งเกมคือได้ยินแต่เสียงเฮนเดอร์สันตะโกนสั่งคนนั้นคนนี้ แล้วผมก็ไม่ได้คิดไปเองด้วยนะครับ ไปหาดูย้อนหลังได้เลย เพราะทางเวปไซต์อย่างเป็นทางการของลิเวอร์พูลนี่ถึงกับตัดเป็นคลิปๆออกมาเลย ถอดกันเป็นคำๆ ใส่ซับด้านล่างอธิบายอย่างดี ว่าในแต่ละนาทีเฮนเดอร์สันแกตะโกนด่าใครไปบ้าง ยังไม่นับรวมช็อตที่จะมีเรื่องมีราว ถมึงทึงใส่นักเตะลุคเถื่อนอย่าง ดิเอโก้ คอสต้า พี่แกก็วัดมาแล้ว 6. ท่าชูถ้วยอันเป็นเอกลักษณ์ การรับถ้วยแชมป์ถือเป็นเกียรติสูงสุดของนักฟุตบอล แล้วที่น่าอัศจรรย์คือในฐานะนักฟุตบอลระดับสโมสร แฮนเดอร์สันคือคนที่ได้ชูถ้วยแทบจะครบทุกใบมาแล้ว (ไม่นับยูโรป้าลีค) สิ่งที่เขาทำแม้แต่ตำนานอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยังทำไม่ได้ และที่สำคัญกว่านั้นก็คือท่วงท่าการซอยเท้ายิกๆๆๆ ก่อนจะชูถ้วยนี่แหละที่กลายเป็นมีมส่วนตัวของเจ้าตัวไปเลย มิหนำซ้ำถ้าเราย้อนกลับไปดูลักษณะของถ้วยแต่ละใบที่แกชู เราจะพบว่าแกจะเอาก้นถ้วยออกข้างหน้าตลอด ทำให้รูปทรงของถ้วยผิดเพี้ยนไป เรียกได้ว่ามีแต่แกคนเดียวที่ทำให้คนทั้งโลกเห็นถ้วยแชมป์ในมุมนี้ โดยส่วนตัวผมก็อยากให้แกอยู่ต่อนะ อยากให้แกชูถ้วยด้วยองศาดีๆสักครั้ง กล้องจะได้จับภาพได้ชัดๆ ว่าเรากำลังชูถ้วยแชมป์ไหนอยู่ 7. งานนอกสนามก็โดดเด่น ไม่ได้เน้นเตะบอลอย่างเดียวหลังจากว่างเว้นจากการเตะบอล งานการกุศลเกี่ยวกับการรณรงค์ความเท่าเทียมทางเพศ หรือจะเป็นช่วงโควิด-19 เจ้าตัวก็เป็นตัวตั้งตัวตีเกี่ยวกับแคมเปญความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งยังร่วมมือกับระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ก่อตั้งโครงการ Players Together เพื่อระดมทุนช่วยเหลือกิจกรรมด้านสาธารณสุขของประเทศ รวมถึงการมีบทบาทสำคัญในต่อต้านการรังแกกันในโลกออนไลน์ด้วย สิ่งนี้ส่งผลให้เจ้าตัวได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเอ็มบีอี ถือได้ว่างานราชงานหลวงครบถ้วน เป็นคนดีที่สังคมต้องการ และเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ผมจะจดจำเขาตลอดไป เอาล่ะครับทั้งหมดนี้ต้องออกตัวอีกครั้งนะครับว่า ผมเขียนขึ้นจากความทรงจำของตัวเองล้วนๆ ตรงไหนที่ผิดตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง หรือคุณผู้อ่านท่านใดอยากจะแก้ไขเพิ่มเติม ก็สามารถคอมเมนท์บอกกันได้ เพราะสำหรับผมแล้วเฮนเดอร์สันเป็นนักเตะที่ไม่ธรรมดาจริงๆ เหมือนเขามีอะไรที่พิเศษมากกว่าฝีเท้า เปรียบเป็นผู้หญิงก็คงจะเป็นคนที่ไม่ได้สวยเหมือนดาวโรงเรียน เป็นคนที่ธรรมดาๆในกลุ่ม แต่กลับมีสเน่ห์บางอย่างที่ทำให้เราหลงรักได้ แล้วก็อยากจะบอกว่าผมเข้าใจในทุกการตัดสินใจของเขา ด้วยวัย 32 ย่าง 33 เขาคว้าแชมป์ให้ลิเวอร์พูลมาหมดแล้ว ถ้ายังเล่นต่อไปบทบาทของเขาก็เป็นได้แค่ตัวนักเตะหมุนเวียนประครองน้องๆ อาชีพนักฟุตบอลนั้นสั้นมาก ไหนจะภาระครอบครัวที่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เป็นผมถ้าได้ข้อเสนอที่มากมายเท่าทีมซาอุฯ ผมก็คงไปเหมือนกัน ไปอยู่กับสตีเว่น เจอร์ราร์ด อาจจะไม่ถึงขั้นสร้างตำนานใหม่ด้วยกัน แต่ผมคิดว่านี่คงจะเป็นการตัดสินใจที่มีความสุข ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆครับ "จอร์แดน เฮนเดอร์สัน" #YNWA #รักและขอบคุณ #แล้วเราจะได้พบกันอีก เครดิตรูปภาพภาพทุกภาพครีเอทจาก canvaCommunity คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์