พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกแถลงการณ์ผ่านเพจ Fair ถึงกระแสเรียกร้องของแฟนบอลที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงว่า ยังไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ทีมชาติไทย เพิ่งพ่าย ให้กับทีมชาติญี่ปุ่น 4-0 ในการแข่งขันคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบ 12 ทีมโซนเอเซีย เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ที่ เมืองไซตามะ รวมถึงผลการแข่งขันที่ผ่านมา 7 เกมซึ่ง ทีมชาติไทย ยังไม่พบกับชัยชนะเลย เก็บได้เพียง 1 คะแนน และเป็นทีมแรกที่หมดสิทธิ์เข้ารอบฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย
อย่างไรก็ตาม เวลานี้อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อการเดินหน้าของฟุตบอลไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ของชาติบ้านเมือง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แถลงการณ์ว่า “เรามีเพียง 1 แต้มจากการเสมอกับทีมชาติออสเตรเลีย และยังคงเหลือเกมการแข่งขันอีกเพียง 3 เกม นั่นเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะบอกได้ว่าทีมชาติไทยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่รอรับการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง และเป็นระบบเสียที โดยเฉพาะรัฐบาลควรจะเข้ามามีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนกีฬาฟุตบอลอย่างจริงจังและมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถ้าหากเราต้องการที่จะเห็นทีมชาติไทยก้าวขึ้นไปยืนในระดับแนวหน้าของทวีปเอเซีย และไปถึงฝัน คือ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย หลายคนคงต้องรีบพิจารณาตัวเอง เลิกเห็นแก่ตัวเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง หันกลับมามองประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นหลัก”
“ผมไม่คิดโทษใคร ไม่ต้องการซ้ำเติมใคร และต้องการให้กำลังใจกันในทุกโอกาส แม้จะพ่ายแพ้ในเกมการแข่งขัน แต่เวลานี้ อาจถึงเวลาที่เราต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า มาถึงจุดที่ต้องร่วมกันเสียสละ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเปลี่่ยนแปลงเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลไทย เพื่อความฝันของคนไทยทั้งชาติจะได้เป็นจริงเสียที เพราะทีมฟุตบอลทีมชาติไทยไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของคนไทยทั้งชาติ”
“ส่วนในเรื่องการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอน และทีมงานตลอดจนการเปลี่ยนแปลงนักเตะทีมชาติ นั้น ยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับคุณเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เลย เพราะหลังจากจบการแข่งขันที่่ไซตามะ ผมได้ลงไปพบและให้กำลังใจน้องๆ นักเตะในห้องพักนักกีฬา ส่วนกับคุณเกียรติศักดิ์ ซึ่งกำลังรีบไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังเกมการแข่งขัน ถึงขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันถึงอนาคตของทีมชาติไทยเลย คงจะต้องมีการหารือกันในเร็วๆ นี้”
ชมสด!! ศึกไทยลีก พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ TrueID App และ เว็บไซต์ Sport TrueID