วันอังคารที่ 23 สิงหาคมเวลา 02:00 (คืนวันจันทร์) การศึกที่ทุกคนรอคอยกำลังมาถึง "ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ปะทะ "หงส์แดง ลิเวอร์พูล" ซีซั่นที่แล้ว "หงส์แดง" เป็นฝ่ายกำชัย บุกมาถล่ม "ปีศาจแดง" อย่างสนุกเท้าถึง 5 ประตูต่อ 0 แสดงถึงความห่างชั้นของทั้ง 2 ทีม "แมนฯยู" อาจต้องใช้เวลาอีกนานซึ่งผมก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหนถึงจะเทียบชั้นทีม "เครื่องจักรสีแดง" ได้เรามาย้อนดูเกมวันนั้นกันว่าเกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง ?เริ่มเกมได้ 5 นาที 'นาบี เกอิต้า' เบิกสกอร์แรกให้ทีมเยือนขึ้นนำก่อน ถัดจากนั้นอีก 8 นาที 'ดิโอโก้ โชต้า' ชาร์จจ่อๆ หงส์แดงขึ้นนำ 2-0 และนาทีที่ 38 'โม ซาล่าห์' กระทุ้งประตูหนีห่างเป็น 3-0 "แมนฯยู"ถ้าเป็นภาษา 'นักมวย' เค้าเรียกว่ายังไม่หาย"เมาหมัด"หลังพิงเชือกแทบจะน็อคอยู่แล้ว มาโดนยิงช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 5 จาก 'บังโม'เป็น 4-0 มันจบแล้วครับนาย" เกมจบตั้งแต่ครึ่งแรก!!!เด็กผีเกือบครึ่งประเทศน่าจะปิดไฟนอนกันหมดแล้ว เนื่องจากมิอาจทนดูความห่วยแตกของทีมได้ ครึ่งหลังหงส์แดงมาได้ประตูเพิ่มเป็น 5-0 จาก "โม ซาล่าห์ "เป็นแฮตทริกของเค้าในเกมนี้ สารรูปเอ้ย!!! สารภาพเอ้ย!!!ถูกแล้ว สารภาพตามตรงผมแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้งเมื่อเห็นทีมรักโดนยำแบบบอล"คนละชั้น" อย่างกับทีมระดับโลกกับทีมกรมพละ ห่างชั้นชนิดที่ว่าใช้กล้องส่องทางไกลในระยะ 100 กิโลเมตรก็ยังมองไม่เห็นพวกเขา ห่างเกิน ห่างมากกกกก ห่างไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดสภาพทีมแมนฯยูตอนนี้สะบักสะบอมเหลือเกิน ผ่านไป 2 นัดพวกเค้าแพ้ทั้ง 2 นัดโดนยิงพรุนถึง 6 ลูกโดยที่ทำประตูไม่ได้เลย ประตูที่ได้จากเกมไบรท์ตัน ก็เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของผู้เล่น "นกนางนวล" จุดอ่อนมีทุกตำแหน่ง กองหน้าทำประตูไม่ได้ กองกลางมีช่องโหว่ กองหลังมีจุดอ่อน ผู้รักษาประตูที่พอจะไว้ใจได้ก็กลายเป็น "ประตูน้ำ" ไปแล้ว เห็นไหมครับเพ่งตามองตรงไหนก็มีแต่จุดอ่อนแล้วจะเอาอะไรไปสู้เค้า แฟนผีโลกสวยบางคนอาจจะคิดว่าผม "มองโลกในแง่ร้ายเกินไป" เปล่าเลยครับผมอยู่กับ "ความเป็นจริง" ไม่ได้ "หลอกตัวเอง" มองเห็นแบบไหนก็เขียนมาแบบนั้น ในเมื่อฟอร์มไม่ดีไม่มีแง่มุมดีๆให้เห็นเลยจะให้อวยได้ไง จริงไหมครับ?เรียนตามตรงขณะที่ผมเขียนบทความนี้ "หงส์แดง" ยังไม่ได้ลงสนามแข่งขันกับ "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซแต่ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นงานยากของทีมหงส์แดง เนื่องด้วยลูกทีม"เจอร์เก้น คล็อปป์"เป็นทีมที่เล่นเกมรุกดุดัน ต่อบอลแม่นยำ ทีมเวิร์คดี เกมรับเหนียวแน่น ถ้าจะมีอะไรผิดพลาดถึงขั้นแพ้อันนี้ก็แล้วแต่ตามวิถีฟุตบอล ความน่าจะเป็นของเกมแดงเดือด ตามความคิดของผมแน่นอนครับ "เจอร์เก้น คล็อปป์" ต้องสั่งให้ลูกทีมเพรสสูงใส่แมนฯยูแน่นอนเพราะคือจุดอ่อนของพวกเขา เวลาโดนเพสซิ่งใส่มักจะเอาตัวรอดไม่ได้ทำอะไรไม่ถูก หงส์แดงจะเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่แน่นอนตามสไตล์ "เฮฟวี่ เมทัล ฟุตบอล" แมนยูจะต้านทานได้ไหมอันนี้ผมมิอาจทราบได้ถึงจะมีคนแย้งว่าลูกกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ถ้ามองตามฟอร์มแล้วผมกลัวโดนถล่มเละเป็นครบ 3 ก่อนหน้านี้เมื่อซีซั่นที่แล้วโดนในบ้าน5-0ไปเยือนโดน 4-0 รวม 2 นัด 9-0 ตามที่เด็กหงส์เค้าล้อกันมาจนถึงทุกวันนี้ เกมล่าสุดที่เจอกันอุ่นเครื่องที่ราชมังคลามันวัดอะไรไม่ได้เด็กผีบางคนอาจจะกระดี๊กระด๊าพลางสะใจที่ถล่มคู่แค้นได้ แต่ผมกลับเฉยๆ เพราะแมนฯยูมักจะฟอร์มดีแบบนี้เวลาอุ่นเครื่อง เค้าเรียกว่า "หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม" สิ่งที่เอริค เทน ฮาก ต้องทำในศึกแห่งศักดิ์ศรีนี้ตามความคิดของผมคือต้องเรียกสมาธิของลูกทีมกลับมา ต้องติวเรื่องความเข้าใจในเกม ทัศนคติการเล่น ใส่ความมุ่งมั่นกระตือรือร้นลงไป ไม่ใช่โดนยิงแล้วคอตกไม่คิดจะสู้วางแผนรับแล้วรอสวน ถ้าไปเปิดเกมรุกใส่บอกได้คำเดียวพังแน่ๆ บางทีวิธีที่ผมบอกอาจจะเป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบาก็เป็นได้... เรื่องโดยToomtam78เครดิตรูปภาพTwitter/Manchester United : ภาพปก1 , ภาพปก2 , รูป2 Facebook/Manchester United : ภาพปก3 Facebook/Liverpool FC : ภาพปก4, ภาพปก5, ภาพปก6, รูป1 รูป3 รูป4Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์