กับผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่ดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าบ้าน ‘เอฟเวอร์ตัน’ เปิดสนามกูดิสันปาร์ครับการมาเยือนของ ‘แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด’ โดยก่อนเกมนั้นเจ้าบ้านที่แม้อันดับในตารางคะแนนจะต่ำกว่าผู้มาเยือน แต่ 6 นัดล่าสุดในเกมพรีเมียร์ลีก เอฟเวอร์ตัน ก็ยังไม่แพ้ใคร นัดนี้ยังน่าจะเป็นงานหนักสำหรับทีมเยือนพอสมควร อีกทั้งเจอกันที่สนามกูดิสันปาร์คครั้งล่าสุด ก็เป็นเจ้าบ้านทอฟฟี่สีน้ำเงินที่เอาชนะผีแดงไปได้ 1-0 แต่แฟนของแมนยูก็ยังมีความหวังอยู่ลึก ๆ ว่านัดนี้จะเป็นอีกนัดที่ทีมรักจะรีดฟอร์มเก่งเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา หลังจากที่โดนเพื่อนบ้านผู้เอะอะอย่าง ‘แมนเชสเตอร์ซิตี้’ ถล่มไปถึง 6 ประตูต่อ 0 ในนัดก่อนก่อนการแข่งขันไฮไลท์ของนัดนี้อยู่ที่ ‘คริสเตียนโน โรนัลโด้’ ที่หลายคนอยากเห็นว่าเขาจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กับประตูที่ ‘700’ ของนักเตะในระดับสโมสรได้หรือไม่ หากเป็นเมื่อฤดูกาลก่อน คงจะไม่ใช่เรื่องยากแฟนคลับคงไม่ต้องลุ้นมากมาย เพียงเตรียมป้ายไว้ฉลองกับนักเตะคนโปรดเท่านั้นพอ แต่ในยุคของ ‘เอริก เติน ฮัด’ ผู้จัดการทีมชาวดัตซ์นั้นต้องลุ้นหลายชั้นหน่อย ที่ก่อนลุ้นว่าจะทำประตูเพื่อเป็นสถิติใหม่ได้หรือไม่ แฟนคลับต้องลุ้นกันก่อนว่า ‘CR7’ ของพวกเขาจะได้ลงเล่นตัวจริงหรือเปล่า เพราะด้วยแผนการทำทีมของนายใหม่โรนัลโด้ ถูกจับนั่งเป็นตัวสำรองมากกว่าลงตัวจริงและในเกมนี้ก็เช่นกันเริ่มเกมเป็นทีมเยือมที่ครองบอลได้ดีกว่า ผีแดงเปิดเกมบุกใส่ในทันที แต่แล้วก็โดนทีเด็ดของเจ้าบ้าน เมื่อ กาเซมิโร่โดนตัดบอลจากแดนกลางบอลกระดอนมาเข้าทาง อเล็กซ์ อิโวบี้ และกดด้วยขวายิงไกลนอกกรอบอย่างสุดสวยให้เอฟเวอร์ตันขึ้นนำไปก่อน 1 ประตู ในนาทีที่ 4 เท่านั้น หลังจากนั้นเอฟเวอร์ตันก็เข้าเทคนิคแพ็คเกมต่ำอาศัยการสวนกลับ แมนยูแม้จะครองบอลได้เยอะกว่าแต่ผีแดงผู้มาเยือนเองก็ยังทำประตูตีเสมอไม่ได้ เหมือนกองหน้ายังขาด ๆ เกิน ๆ ได้เพียงเฉียวไปมาเท่านั้น แต่แล้วในนาทีที่ 14 A.Dos Santos หรือ อันโตนี ที่ได้บอลมาทางกราบขวา หลุดเข้าไปยิงประตูให้ทีมเยือนตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จและแล้วในช่วงนาทีที่ 27 เสียงโห่ของแฟนบอลเจ้าบ้านก็ดังทั่วสนาม เมื่อ ‘คริสเตียนโน โรดัลโด้’ ลุกจากม้านั่งสำรองถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่บาดเจ็บจนไม่สามารถเล่นต่อได้อีก CR7 มีเวลาอีก 60 กว่านาทีที่จะสร้างสถิติใหม่ เมื่อลงสนามดูเหมือนเขาจะมีความตั้งใจเป็นพิเศษกับนัดนี้ เพราะมันเป็นการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่านักเตะวัย 37 อย่างเขายังเหมาะกับยอดทีมอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกหรือไม่ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังเพียงสิบห้านาทีที่ลงสนาม เมื่อ อิโวบี้ ของเอฟเวอร์ตันเสียบอลที่แดนกลาง บอลมาเข้าทางของ กาเซมิโร่ ที่ครั้งนี้เขาไม่พลาดเหมือนครั้งที่เสียประตูแรกส่งบอลไปข้างหน้าทันที และเป็นภาพที่คุ้นตาเมื่อ โรนัลโด้ ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย วิ่งเข้าหาประตูแล้วกดด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดส่งบอลเบียดเสาแรกไปตุงตาข่ายทำให้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 2-1 และส่งให้เขาสร้างสถิติใหม่กับประตูที่ ‘700’ ในฐานะนักเตะสโมสร ครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์นี้และเกมในครึ่งหลังทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูได้เพิ่ม แม้ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะส่งบอลเข้าตุงตาข่ายแต่ก็ถูก VAR ริบคืนไม่เป็นประตู จบเกมด้วยผลชนะของทีมเยือนขึ้นไปอยู่อันดับ 5 กับ 15 คะแนน ส่วนเอฟเวอร์ตันหล่นลงมาที่อันดับ 12 มี 10 คะแนนเท่าเดิมมาถึงตรงนี้ผมขอบอกตรง ๆ นะครับว่าผมเป็น ‘THE KOP’ ที่นัดนี้ส่งใจเชียร์ทีมเพื่อนบ้านเอฟเวอร์ตันอย่างสุดใจ แต่ก็มีความชื่นชอบ คริสเตียโน โรนัลโด อยู่เหมือนกัน จะยกไว้บ้างก็ในวันที่เขาต้องเตะกับ หงส์แดง ทีมรักนั้นเอง เกมนี้จึงแอบส่งใจให้ CR7 ทำสถิติการยิงประตูให้ได้ซึ่งการสมหวัง แต่ผลการแข่งขันนั้นกลับผิดหวังนิดๆ ด้วยวัย 37 ปีนับว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ดีของนักกีฬา ที่สามารถรักษาสภาพร่างกายและความเป็น ‘มืออาชีพ’ ในอาชีพของตัวเองได้ ความสำเร็จที่ผ่านมาคงไม่ต้องพูดถึงในวันนี้ แต่มีคำหนึ่งที่ผมนึกถึงเมื่อมีคนพูดถึงอาชีพนักฟุตบอลของเขา ‘ทุกอาชีพ ย่อมมีมืออาชีพ’ คริสเตียโน โรดัลโด นายแน่มากเครดิตภาพปก โดย CristianoRonaldo/facebookภาพที่ 1 โดย PremierLeagueThailandภาพที่ 2 โดย Everton/facebookภาพที่ 3 โดย Mancherterunited/facebookภาพที่ 4 โดย Mancherterunited/facebookภาพที่ 5 โดย Mancherterunited/facebookภาพที่ 6 โดย Mancherterunited/facebookCommunity ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลีย