ดูบอลสดแดงเดือด หงส์แดง ลิเวอร์พูล vs แมนยู ถ่ายทอดสดที่ True Premier football 1, True Premier football 2 สาวก "เดอะ ค็อป" และ สาวก "เร้ด อาร์มี่" พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง!!!ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่คอบอลทั่วโลกรอคอย คงหนีไม่พ้นคู่เอกประจำสัปดาห์นี้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล จะเปิดรังแอนฟิลด์ ทำศึก "แดงเดือด" พบกับ ปีศาจแดง แมนยู เป็นยกที่สอง ในคืนวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566 เวลา 23.30 น. โดยยกแรกที่พบกัน ในฤดูกาลนี้ แมนยู เปิดบ้านเฉือนเอาชนะไปได้ 2-1 ปีศาจแดง ขึ้นนำไปก่อน 2-0 จาก จาดอน ซานโช่ นาทีที่ 16 และ มาร์คัส แรชฟอร์ด นาทีที่ 53 ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะมายิงประตูตีไข่แตก ไล่มาเป็น 2-1 จุดประกายความหวังให้หงส์แดง แต่ก็ไล่ไม่ทัน ก่อนแพ้ไปก่อนในยกแรก พรีวิวก่อนเกม : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022/23แมตช์การแข่งขัน : ลิเวอร์พูล พบ แมนยูวัน/เวลาแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566 เวลา 23.30 น.สนาม : แอนฟิลด์ถ่ายทอดสด : True Premier football 1, True Premier football 2 ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด 14 พฤษภาคม 2021 : แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 2-4 (พรีเมียร์ลีก)24 ตุลาคม 2021 : แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 0-5 (พรีเมียร์ลีก)20 เมษายน 2022 : ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 (พรีเมียร์ลีก)12 กรกฎาคม 2022 : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0 (อุ่นเครื่อง)23 สิงหาคม 2022 : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 (พรีเมียร์ลีก)พรีวิวความพร้อมก่อนเกม ลิเวอร์พูลความพร้อมของเจ้าถิ่นลิเวอร์พูล ในแมตช์นี้ ยังมีแข้งเดี้ยงค้างสต๊อก ทั้ง หลุยส์ ดิอาซ, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, โจ โกเมซ, อาร์ตูร์ เมโล่, คัลวิน แรมซีย์ ส่วน นาบี เกอิต้า ต้องรอทดสอบความฟิตอีกครั้ง ก่อนลงสนาม คาดว่าเจ้าถิ่น หงส์แดง จะมาในระบบเก่ง 4-3-3 และน่าจะยึดไลน์อัพเดิม เกมเปิดบ้านเชือดวูล์ฟ 2-0 เพราะเป็นชุดที่เข้าขากันได้ดี นายทวาร ยังคงเป็น อลีสซง เบ็คเกอร์ แผงแบ็คโฟร์ วาง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และ คอสตาส ซิมิคาส แดนกลาง วาง ฟาบินโญ่ ผนึกกำลังกับ กองกลางดาวรุ่งพรสวรรค์สูง ฮาร์วีย์ เอลเลียต, สเตฟาน บายเซติช คอลโทรลเกมตรงกลาง สามประสานในแนวรุกใช้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูเญซ ประจำการล่าตาข่ายผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์กองหลัง : เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, คอสตาส ซิมิคาสกองกลาง : ฟาบินโญ่, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, สเตฟาน บายเซติชกองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูเญซลิเวอร์พูล 4-3-3 : อลีสซง เบ็คเกอร์ (GK) เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, คอสตาส ซิมิคาส - ฟาบินโญ่, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, สเตฟาน บายเซติช -โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูเญซ พรีวิวความพร้อมก่อนเกม แมนยูความพร้อมของแมนยูล่าสุดจะชวดใช้งาน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่บาดเจ็บบริเวณสะโพก คริสเตียน อิริคเซ่น บาดเจ็บบริเวณข้อเท้า ด้าน จาดอน ซานโช่ มีอาการไข้ ต้องรอเช็คอีกทีว่าจะลงไหวหรือไม่ ส่วน ลุค ชอว์ ต้องรอเช็คฟิตอีกทีเช่นกัน คาดว่า เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ จะวางระบบเดิม 4-2-3-1 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ วาง ราฟาเอล วาราน จับคู่กับ "เดอะ บุชเชอร์" ลิซานโดร มาร์ติเนซ ประสานงานกับ แบ็คซ้ายและขวา ไทเรลล์ มาลาเซีย กับ ดิโอโก้ ดาโลต์ แดนกลาง คาเซมิโร่ ประจำการมิดฟิลด์ตัวรับ คู่กับ เฟร็ด เป็นคู่หูแดนกลางคอยคุมเกม ทั้งบู๊และบุ๋น ตัวสร้างสรรค์เกม เป็น บรูโน่ แฟร์นันเดส ประสานงานกับ ปีกความเร็วสูงสองข้างอย่าง แอนโทนี่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด หน้าเป้าวาง เวาท์ เวกฮอร์สต์ หอกร่างโย่ง คอยคุกคามทางอากาศผู้รักษาประตู : ดาบิด เดเคอากองหลัง : ดิเอโก้ ดาโลต์, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซียกองกลาง : คาเซมิโร่, เฟร็ด - แอนโทนี่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟนันเดสกองหน้า : เวาท์ เวกฮอร์สต์แมนยู 4-2-3-1 : ดาบิด เดเคอา(GK) ดิเอโก้ ดาโลต์, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย - คาเซมิโร่, เฟร็ด - แอนโทนี่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟนันเดส - เวาท์ เวกฮอร์สต์ ข้อมูลเชิงลึก - ประเด็นที่น่าสนใจ คู่นี้พบกันมาแล้วทั้งหมด 239 นัดในทุกรายการ ลิเวอร์พูล ชนะ 80 นัด แมนยู ชนะ 91 นัด และเสมอกันไป 68 นัด หากนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก ทั้งคู่พบกันมาแล้วทั้งหมด 61 ครั้ง ลิเวอร์พูลชนะ 18 ครั้ง แมนยูชนะ 29 ครั้ง เสมอ 14 ครั้ง ผลการพบกัน 9 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล แพ้เพียงนัดเดียวเท่านั้น (ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 1) นัดที่แพ้คือเกมนัดแรกของฤดูกาล ที่ทั้งคู่พบกัน ลิเวอร์พูลไม่แพ้แมนยูในพรีเมียร์ลีก เกมเหย้า 6 นัดหลังสุด (ชนะ 3 เสมอ 3) นับตั้งแต่ที่แพ้ 1-0 เมื่อมกราคมปี 2016 ซึ่งถือเป็นสถิติไร้พ่ายที่ยาวนานที่สุดอันดับสอง รองจากปี 1970 ถึง 1979 ที่ไร้พ่ายเกมเหย้าถึง 9 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระเบิดตาข่ายคู่แข่งมาแล้วติดต่อกัน 15 นัด ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แมนยูไม่แพ้ใครเลยในขณะนี้ 11 เกม รวมทุกรายการ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในศึกแดงเดือด โดยยิงไปถึง 10 ประตู ซึ่ง 9 ประตูมาจาก 5 นัดหลังสุดที่สตาร์ชาวอียิปต์ดวลแข้งกับแมนยู นับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2017/18 มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยิงลิเวอร์พูลได้ถึง 6 ประตู ซึ่งยังไม่มีใครยิงได้เท่าแรชฟอร์ดเลยนับตั้งแต่ฤดูกาลดังกล่าวเป็นต้นมา คีย์แมนของทั้งสองทีมโมฮาเหม็ด ซาลาห์ซาลาห์ คือนักเตะตัวแสบของแมนยูไนเต็ดเลยก็ว่าได้ สถิติที่ 'บังโม' พบกับ ปีศาจแดง สตาร์ชาวอิยิปต์ซัลโวไป 10 ประตู ซึ่ง 9 ประตูมาจาก 5 นัดหลังสุด และยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของศึก "แดงเดือด" อีกด้วย ไม่แน่ว่า เกมเปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์นี้ เค้าอาจเป็นฮีโร่ให้ทัพหงส์แดง คว้าชัยก็ได้ใครจะไปรู้ มาร์คัส แรชฟอร์ดมาร์คัส แรชฟอร์ด คือความหวังของหมู่บ้าน ในการทำประตูของแมนยู เจ้าตัวกระทุ้งไปทั้งสิ้น( 25 ประตู รวมทุกรายการ) ในฤดูกาลนี้ เป็นรองเพียง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ทำประตูได้มากกว่า (33 ประตู รวมทุกรายการ) เท่านั้นไม่พอ เจ้าตัวยังโปรดปรานการยิงหงส์แดงอีกด้วย ซัลโวไปทั้งสิ้น 6 ประตู การศึกครั้งนี้เจ้าตัวอาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะของผีแดง ก็...เป็น...ได้ บทวิเคราะห์ - และความน่าจะเป็นของเกม เป็นการพบกันของทั้งสองทีม ที่เหมาะเจาะถูกที่ถูกเวลา หงส์แดง ลิเวอร์พูล เรียกความมั่นใจกลับมาได้ทันเวลาพอดี หลังเปิดบ้านเข่นวูล์ฟไปได้นิ่มๆ ในนัดล่าสุด คาดว่าเจอร์เก้น คล็อปป์ จะสั่งลูกทีมเดินหน้าบุกเต็มกำลังอย่างแน่นอน เพราะการเจอคู่แค้นตลอดกาลอย่างปีศาจแดง ไม่มียอมอ่อนข้อให้แน่นอน ฟากผู้มาเยือนแมนยูมีแค่ลิฟท์เท่านั้นที่เอาพวกเขาลง ผีแดงยังคงร้อนแรงไม่เลิกราด้วยผลงานไม่แพ้ใคร 11 นัดเข้าให้แล้วรวมทุกรายการ ปีศาจแดงแม้ว่าจะมาเยือนด้วยความมั่นใจเต็มกระเป๋า แต่เชื่อว่า เอริค เทน ฮาก จะไม่ประมาทอย่างแน่นอน และน่าจะเน้นรับให้เหนียว แล้วใช้จังหวะฉาบฉวยเล่นงานเจ้าบ้าน เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว มุมเสมอดูจะเปิดกว้างกว่าสำหรับทั้งคู่ และน่าจะแบ่งแต้มกันไปแบบสุดมัน ฟันธง!!!ฟันธงสกอร์ : ลิเวอร์พูล 2-2 แมนยูเรื่องโดย Toomtam 78เครดิตรูปภาพpremierleague.com รูปปก1 รูปปก2Twitter/Liverpool FC โลโก้ปก รูป1 รูป2 รูป5Twitter/Manchester United โลโก้ปก รูป3 รูป4 รูป6 ร่วมกิจกรรมได้แล้วที่ คอมมูนิตี้ห้อง 'ฟุตบอล'