แม่ไม้มวยไทย คือกระบวนท่าศิลปะป้องกันตัว ทั้งรุกและรับที่มีความสง่างาม และน่าเกรงขาม เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่คิดค้นโดยบรรพบุรุษของคนไทย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับ 1000 ปี นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมาจวบจนถึงปัจจุบัน แม่ไม้มวยไทยเป็นพื้นฐานอันสำคัญในการใช้ไม้มวย ซึ่งผู้ฝึกจะต้องเรียนรู้และปฏิบัติ ให้เกิดความชำนาญเสียก่อน จึงจะฝึกลูกไม้มวยไทยอีก 15 ท่า ท่าที่ 1 สลับฟันปลา (รับหมดจากวงนอก) แม่ไม้นี้ถือเป็นพื้นฐาน ของพื้นฐานที่สำคัญของแม่ไม้มวยไทย ใช้รับและหลบหมัดตรงของคู่ต่อสู้ โดยหลบออกนอกลำแขนของคู่ต่อสู้ ทำให้หมดเลยหน้าไป ท่าที่ 2 ปักษาแหวกรัง (รับตรงใน) แม่ไม้นี้เป็นไม้ครูสำคัญที่ใช้ในการเข้าวงใน เพื่อใช้ลูกไม้อื่นต่อไป ท่าที่ 3 ชวาซัดหอก (ศอกจากวงนอก) แม่ไม้นี้ใช้หลบหมัดตรง โดยการออกวงนอกแล้ว โต้ตอบด้วยศอก ท่าที่ 4 อิเหนาแทงกริช (ศอกแทงชายโครง) กลมวยนี้ใช้เป็นหลักในการรับหมดตรง การใช้ศอกคลุกเข้าวงใน ท่าที่ 5 ยอเขาพระสุเมรุ (ก้มหลบชกปลายคาง) กลมวยนี้ใช้หลบหมัดตรง ในลักษณะก้มหัว เข้าวงในให้มันผ่านศีรษะ แล้วชกปลายคาง ท่าที่ 6 ตาเถนค้ำผัก (ปัดขึ้นแล้วชกคาง) กลมวยนี้ เป็นหลักเบื้องต้นในการป้องกันมัน โดยการใช้แขนข้างหนึ่งปัดหมัดขึ้นข้างบนแล้วชกเสยที่ปลายคาง ท่าที่ 7 มอญยันหลัก (เท้ายันยอกอบ) กลมวยนี้เป็นหลักสำคัญในการรับหมัดตรง และการพุ่งเข้าชาร์จ โดยการถีบ อก หรือท้อง ท่าที่ 8 ปักลูกทอย (ศอกกระแทกหน้าแข้ง) กลมวยนี้ ใช้รับแก้เตะกวาดสูงโดยการใช้ศอกกระแทกที่หน้าแข้ง ท่าที่ 9 จระเข้ฟาดหาง (หมุนตัวเหวี่ยงเตะ) หมุนตัวเตะด้วยลูกเหวี่ยงส้นเท้า เข้าที่บริเวณขากรรไกรของคู่ต่อสู้ ท่าที่ 10 นาคาบิดหาง (จับเท้าบิด แล้วกระทุ้งด้วยเข่า) กลมวยนี้ใช้รับเตะหรือถีบด้วยการใช้มือทั้งสองจับที่ปลายเท้า บิดแล้วใช้เขากระทุ้งเพื่อให้หักหรือเดาะ ท่าที่ 11 หักงวงเอราวัณ (ศอกกระทุ้งโคนขา) กลมวยนี้ใชแก้เตะโดยการตัดกำลังขาด้วยการศอกกระทุ้งที่โคนขา ท่าที่ 12 วิรุฬหกกลับ (ส้นเท้ากระแทกโคนขา) กลมวยนี้ใช้รับตะโดยการใช้ส้นเท้ากระแทกบริเวณโคนขา ท่าที่ 13 ดับชวารา (ชกเบ้าตา) กลมวยนี้ใช้แก้หมัดตรง โดยการชกสวนเข้าที่เบ้าตา ท่าที่ 14 ขุนยักษ์จับลิง เป็นกลมวยหลักสำคัญในการป้องกัน คู่ต่อสู้ ที่ ชก เตะ และศอก ต่อเนื่องรวดเร็ว ท่าที่ 15 หักคอเอราวัณ (โน้มคอตีเข่า) กลมวยนี้ใช้เดินเข้าจับคู่ต่อสู้โน้มลงมาตีเข่าเข้าที่หน้าหรือยอดอก แบบจู่โจมและรวดเร็ว ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay รูปประกอบที่1,รูปประกอบที่2,รูปประกอบที่3