ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงหลังมานี้หงส์แดงลิเวอร์พูลกลายเป็นสโมสรที่มักจะมองหานักเตะนอกสายตาราคาน่าฟังเข้าสู่ทีม เรื่องนี้คงยกความดีความชอบให้กับ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ด ผู้อำนวยการด้านกีฬาของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ที่โดยเริ่มแรกของเจ้าตัวนั้นไม่ได้นั่งตำแหน่งนี้ตังแต่แรก แต่เขาได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของการซื้อขายนักเตะตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2011 จนต่อมาในปี 2016 ได้เข้ามับตำแหน่งอย่างเต็มตัว พร้อมกับทำหน้าที่ดีลนักเตะร่วมกับผู้จัดการทีม เจอร์เกน คล๊อปป์ และผลแห่งความสำเร็จก็ออกมาอย่างที่เห็น โดยการขึ้นมาทำในตำแหน่งนี้อย่างเต็มตัวส่วนหนึ่งด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มตัวของ ไมค์ กอร์ดอน ประธานและเจ้าของ FSG หรือ Fenway Sports Groupซึ่งตลอดเวลาที่เขาได้ทำในตำแหน่งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อนักเตะเข้ามาใช้งานได้ถูกคุณภาพเยี่ยมเข้ามาพัฒนาสโมสรแห่งนี้จนสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จตลอดเวลากว่า 6 ปี ที่ผ่านมา แต่ยังสามารถดีลเรื่องการขายนักเตะออกจากทีมจนสร้างกำไรกว่า 270 ล้านปอนด์ ในช่วงเวลาดังกล่าวที่ชายคนนี้ดำรงตำแหน่ง แน่นอนว่าคนที่ได้รับผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ ในเรื่องผลกำไนก็คงหนีไม่พ้นกลุ่มทุนผู้ที่เป็นเสาหลักของสโมสรนั่นเอง ในช่วงที่ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ด ดำรงตำแหน่งนั้นมีนักเตะที่ไม่ว่าจะซื้อมาแล้วขายไปหรือแม้กระทั่งเหล่าดาวรุ่งที่ฟอร์มแจ่ม แต่ไม่ได้อยู่ในแผนหลัก ก็ยังสามารถขายออกไปได้ราคาสมเหตุสมผล ในบทความนี้จะขอรวบรวมเหล่าแข่งทั้ง 16 คน ที่เป็นนักเตะเก็งกำไรภายใต้การทำงานของชายคนนี้มาให้เหล่าสาวกหงส์แดงได้ชมกันซักหน่อย ก่อนที่ชายคนนี้จะไม่ได้อยู่รับใช้สโมสรแห่งนี้ในฤดูกาลต่อไป1. แฮร์รี่ วิลสัน หนึ่งในเด็กปั้นของลิเวอร์พูลที่ฟอร์มแจ่มคนหนึ่ง โดยตลอดเวลาที่เขาได้อยู่กับหงส์แดงได้ถูกปล่อยยืมตัวให้ไปใช้งานหลายสโมสร อาทิเช่น ครูว์, ฮัลล์ ซิตี้, ดาร์บี้เคาส์ตี้, บอร์นมัธ และคาร์ดิฟฟ์ โดยผลงานของในฐานะนักเตะยืมตัวทำผลงานเปรี้ยงปร้างแต่กับทีมชุดใหญ่ไม่มีพื้นที่ให้กับเด็กหนุ่มคนนี้ได้เฉิดฉาย จนนำมาสู่การย้ายไปยัง ฟูแล่ม ด้วยราคา 12 ล้านปอร์น 2. ไทล์โว อโวนิญี แข้งดาวรุ่งที่ก้าวเข้าสู่แอนฟิลด์เมื่อปี 2015 ด้วยราคา 400,000 ปอร์น ที่แม้ว่าจะสามารถดีลย้ายมาได้ก็จริง แต่ศูนย์หน้ารายนี้กลับไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงเล่นในอังกฤษต่อเนื่องเท่าไหร่ ด้วยปัญหาเรื่องของเวิร์กพรอมมิสส์ โดยตบอดเวลากวา 6 ปีในแอนฟิลด์ได้ถูกปล่อยยืมตัวไปใช้งาน การบ้านไปในฐานะยืมตัวสโมสรสนสุดท้ายของเขาก็คือ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ซึ่งผลงานก็ไม่ธรรมดาโดยในฤดูกาล2020-2021 ลงเล่นไป 22 เกม ยิงไป 5 ประตู หลังจากช่วยให้ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ผ่านเข้ารอบในยูฟ่าคอนเฟอเรนซ์ลีก เขาได้นำมาซึ่งการซื้อขาดด้วยค่าตัว 6.5 ล้านปอนด์ ในฤดูกาลถัดมา โดยผลงานในฤดูกาล 2021-2022 ลงเล่นไปทุกรายการ 31 เกม ยิงไป 15 ประตู3. มาร์โค กรูยิช เป็นนักเตะคนแรกของ เจอร์เกน คล็อปป์ ในฐานะผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลเมื่อเดือนมกราคม 2016 โดยย้ายมาหงส์แดงด้วยค่าตัว 5.1 ล้านปอนด์จากเร้ดสตาร์ เบลเกรด แต่มิดฟิลด์รายนี้ลงเล่นให้สโมสรเพียง 508 นาทีในทุกรายการ เพราระด้วยผลงานที่ไม่ค่อยเข้าฟอร์ม สุดท้ายก็ต้องปล่อยยืมตัวให้เวลากับทั้ง คาร์ดิฟฟ์ซิตี้, แฮร์ธ่า เบอร์ลิน และ เอฟซีปอร์โต้ นั่นคือสโมสรสุดท้ายของเจ้าตัวกับการย้ายแบบถาวรในปี2021 ด้วยราคา 10.5 ล้านปอนด์4. คามิล กราบาร่า ผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่ย้ายมาจากเซ็นสัญญาจากสโมสร Ruch Chorzow ด้วยราคา 250,000 ปอนด์ในปี 2016 หนึ่งในผู้รักษาประตูที่ฟอร์มโดเด่นอย่างงมากกับทีมเยาวชนของลิเวอร์พูล แต่ก็ไม่เคยประสบผลสำเร็จกับทีมชุดใหญ่ โดยได้ปล่อยยืมตัวให้กับเอจีเอฟและฮัดเดอร์สฟิลด์ ก่อนที่จะขายขาดให้กับ เอฟซี โคเปนเฮเกนในปี 2021 ด้วยราคา 3 ล้านปอนด์5. เฮอร์บี เคน กองกลางดาวรุ่งจากอคาเดมี่ของ บริสตอล ซิตี้ สู่สโมสรลิเวอร์พูลด้วยด้วยวัย 15 ปี ในปี 2013โดยค่าตัวนั้นไม่มีการเปิดเผยถึงตัวเลข แต่มิดฟิลด์รายนี้มีโอกาสลงเล่นให้กับลิเวอร์พูลในรายการ ลีกคัพเพียงแค่สองเกมเท่านั้น 2 เกม จนสุดท้ายก็ได้ย้ายออกจากแอนฟิลด์ในปี 2020 ไปยังสโมสร บาร์นสลีย์ในปี 2020 ด้วยค่าตัว 1.25 ล้านปอนด์6. เลียน บรูว์สเตอร์ ศูนย์หน้าดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของเชลซีก่อนย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูลตอนอายุ 14 ปี ด้วยพรสวรรค์ในชุดเยาวนชนของเจ้าตัว ได้ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในนักเตะคาดหวังที่ดีที่สุดของทีมชาติอังกฤษ แต่โชคชะตามักไม่เข้าข้างเท่าไหร่เพราะเจ้าหนูรายได้ได้ประสบอุบัติเหตุรุนแรงที่ขา ทำให้หายหน้าไปจากทีมอยู่หลายเดือน หลังจากฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ ได้ถูกปล่อยยืมให้กับสวอนซี ซิตี้ ในปี 2019 ลงเล่นไป 22 เกม ยิงไป11 ประตู ด้วยผลงานที่เข้าตาทำให้สโมสร เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด รับไปใช้งานต่อในปี 2020 ด้วยราคา 23.5 ล้านปอนด์ พ่วงด้วยออปชั่นซื้อคืนเป็นเวลาสามปี ซึ่งก็ไม่แน่ว่าอาจะได้เห็นศูนย์หน้าด้าวรุ่งรายนี้กลับมามายังแอนฟิลด์อีกครั้งก็ได้7. คีจาน่า ฮูเฟอร์ ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญาเข้าทีมจากอคาเดมี่ของอาแจ็กซ์ด้วยค่าตัว90,000 ปอนด์ ในปี 2018 และได้ประเดิมสนามในเกม เอฟเอ คัพ รอบสามที่แพ้ให้กับวูล์ฟส์แธมป์ตันในเดือนมกราคม 2019 สามปีต่อมากองหลังชาวดัตช์รายนี้ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในปีฤดูกาล 2019-2020 และประตูแรกกับลิเวอร์พูลในรายการลีกคัพกับ เอ็มเค ดอนส์ แม้ว่าจะไม่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีกให้กับลิเวอร์พูลก็จริง แต่สโมสรวูล์ฟส์แธมป์ตัน ก็ยังรับไปใช้งานแบบถาวรในปี 2020 ด้วยราคา 13.5 ล้านปอนด์ ให้กับนักเตะวัย 19 ปี รายนี้8. โอเวีย เอจาร์เรีย เข้าสู่แคมป์อะคาเดมี่ของลิเวอร์พูลจากทีมปืนใหญ่อาร์เซนอลในปี 2014 และได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ 8 เกม ในปี 2016-2017 ต่อมาได้ปล่อยยืมตัวที่ ซันเดอร์แลนด์, เรนเจอร์ส และเรดดิ้ง ก่อนที่แข้งวัย 23 ปี จะย้ายแบบถาวรไปยัง เรดดิ้ง ในปี 2020 ด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์9. แดนนี่ อิงส์ ศูนย์หน้าหงส์แดงมายังแอนฟิลด์แบบฟรี ๆ เมื่อปี 2015 แต่หงส์แดงก์ยังต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับ เบิร์นลี่ เป็นเงิน 8 ล้านปอนด์ ในภายหลัง สิ่งที่ลิเวอร์พูลต้องพบเจอกับศูนย์หน้าที่เป็นความวหวังรายนี้ก็คือปัญหาอาการบาดเจ็บในช่วงที่เขาค้าแข้งให้กับสโมสรแห่งนี้ โดยได้รับใช้ให้กับหงส์แดงในทุกรายการเพียง 25 เกมเท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้ปล่อยยืมตัวให้กับเซาแธมป์ตันในปี 2018-2019 ก่อนที่จะซื้อขาดด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ในฤดูกาลต่อมา10. ไรอัน เคนต์ หนึ่งในนักเตะผลผลิตจากอคาเดมี่ของลิเวอร์พูล โดยได้มีโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่กับ เอ็กซิเตอร์ ในศึก เอฟเอ คัพ ในปี 2016 จากนั้นเจ้าตัวก็ได้ถูกปล่อยให้กับกลาสโกล์เรนเจอร์ส ไปใช้งานในปี 2018-19 และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนนำมาสู่การซื้อขาดในปีปีต่อมา ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์ ในปี2020-2021 ที่กลาสโกลเรนเจอร์สคว้าแชมป์ลีก เขาก็เป็นหนึ่งในนักเตะชุดนั้นด้วย รวมถึงการได้โอกาสลงเล่นในเกมยูโรป้าลีกนัดชิงชนะเลิศที่แพ้ให้กับไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ตในฤดูกาลนี้อีกด้วย11. โดมินิก โชลังเก ย้ายมาจากเชลซ๊แบบฟรีเอเย่นในปี 2017 แต่หงส์แดงก็ยังต้องจ่ายค่าชดใช้ให้กับสิงห์บลูเป็นเงิน 3 ล้านปอนด์ ตลอดเวลาของเจ้าตัวหับลิเวอร์พูลลงเล่นไปทั้งสิ้น 27 เกม แต่ยิงได้เพียงปนะตูเดียว แต่กระนั้นสโมสรบอร์นมัธ ก็ยังยินดีที่จะจ่ายให้กับแข้งรายนี้ด้วยเงิน 19 ล้านปอนด์ ในปี 2019แม้ว่าผลงานพรีเมียร์ลีกจะไม่สวยหรูเท่าไหร่ แต่หลังจากตกชั้นไปเล่นในแชมป์เปียนชิพ ยิงไป 50 ประตูในสองฤดูกาลที่ผ่านมา12. แดนนี่ วอร์ด หงส์แดงได้เซ็นนายด่านรายนี้เข้าร่วมทีมจากเร็กซ์แฮมด้วยค่าตัวราว 100,000 ปอนด์ในเดือนมกราคม 2012 แต่ผู้รักษาประตูรายนี้ลงเล่นเพียง 3 เกมใน 5 ปีครึ่งที่แอนฟิลด์ ด้วยสถานการณ์ที่ ณ เวลานั้นหงส์แดงมีผู้รักษาประตูที่เป็นตัวเลือกและใช้งานอยู่พอควรไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งหรือตัวจริง ทำให้โอกาสลงสนามของเจ้าตัวนั้นไม่ค่อยมีซักเท่าไหร่ สุดท้ายก็ต้องย้ายออกจากแอนฟิลด์ไปยัง เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 12.5 ล้านปอร์น13. ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ยอมรับกันตรง ๆ เลยว่านี่คือนักเตะที่ทำเงินมหาศาลให้กับหงส์แดงอย่างแท้จริง เพราะมูลค่าของเจ้าตัวนั้นทำเงินให้กับสโมสรมากกว่า 270 ล้านปอนด์ นักเตะทีมชาติบราซิลรายนี้พัฒนาจนกลายเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ณ เวลานั้น หลังจากย้ายมาจากอินเตอร์ มิลาน มายังหงส์แดงด้วยค่าตัวเพียง 8.5 ล้านปอนด์ในปี 2013 โดยก่อนที่จะย้ายออกจากแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขาอยู่ต่อ แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยออกจากสโมสรในวัย 29 ปีให้กับบาร์เซโลน่าด้วยค่าตัว 142 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคม 201814. มามาดู ซาโก ย้ายมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมงด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 กซึ่งการบ้ายมาของเจ้าตัวในครั้งนั้นสร้างความฮือฮาให้กับสาวกหงส์แดงอย่างมาก ด้วยผลงานเปิดตัวที่จุดประกาศความหวังของทีมอย่างเต็มเปี่ยม แต่สุดท้ายด้วยนิสัยส่วนตัวเรื่องวินัยในทีมทำให้ปราการหลังรายนี้โดนดร๊อปหายไปจากทีมภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เกน คล๊อปป์ จนสุดท้ายได้ถูกขายออกจากทีในปี 2017 ให้กับคริสตัล พาเลส ด้วยค่าตัว 26 ล้านปอนด์15. เควิน สจ๊วร์ต หงส์แดงรับแข้งรายนี้เข้าสู่ทีมแบบไม่มีค่าตัวในปร 2014 จาก ท๊อตแนม ฮอตสเปอร์ส โดยมีโอกาสลงเล่นให้กับหงส์แดง 20 เกม แต่ผลงานกลับไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่กับแข้งรายนี้ ภายใต้การทำงานของ เจอร์เกน คล๊อปป์ สุดท้ายก็โดนปล่อยออกจากทีมด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ในปี 2017 ให้กับฮัลล์ซิตี้ เอาไปใช้งานต่อ16. อันเดร วิสดอม หนึ่งในนักเตะที่เชื่อว่าแฟนหงส์แดงหลายคนน่าจะพอจำกันได้ ด้วยผลงานเปิดตัวกับลิเวอร์พูลในปี 2012 ในเกมยูโรปาลีกกับยัง บอยส์ ในเกมนั้นลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 5 – 3 หนึ่งในนักเตะที่ทำประตูในเกมนั้นก็คือ อันเดร วิสดอม นี่เอง แต่นั้นก็เป็นเกมเดียวทำผลงานได้ยอดเยี่ยมของปราการหลังรายนี้ เพราะหลังจากนั้นผลงานก็ดิ่งลงเหวจนถูกปล่อยยืมตัวให้ทั้ง ดาร์บี้ เคาน์ตี้, เวสต์บรอม, นอริช ซิตี้ และเร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ก่อนที่จะขายให้กับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ในปี 2017และนั่นคือเหล่านักเตะทั้ง 16 คน ภายใต้การดูแลของนักต่อรองที่ชื่อ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ด ผู้ที่ไม่ใช่แค่มีดีเรื่องดีลค่าตัวนักเตะที่สมเหตุสมผล และรวดเร็ว แต่กลับเป็นนักเก็งกำไรที่สร้างเม็ดเงินให้กับสโมสรลิเวอร์พูลทั้งสิ้น 270 ล้านปอนด์ หลังจากไม่มีชายคนนี้ในสโมสรหงส์แดงก็ต้องมาดูต่อกันว่าใครจะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ยิ่งไปกว่านั้นจะเป็นคนที่ทำผลกำไรและสร้างดีลที่คุมค่าให้กับสโมสรได้เหมือนกับเขาหรือไม่?ข่าวที่เกี่ยวข้องทำความรู้จัก "ออเรเลียง ซูอาเมนี" มิดฟิลด์สายเลือดส่องโปรไฟล์ "ฟาบิโอ วิเอร่า (Fabio Vieira)" มิดฟิลด์ตัวรุก กับ ลิเวอร์พูลจัดอันดับ 8 ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยุคพรีเมียร์ลีก ผลงานแย่ที่สุดถึงดีที่สุดส่อง 3 ปัจจัย ที่อาจปลี่ยนใจ "เจอร์เกน คล็อปป์" ต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูลทำความรู้จัก "เบน โด็ก (Ben Doak)" ดาวรุ่งมากพรสวรรค์คนใหม่ของ ลิเวอร์พูลเครดิตภาพปก liverpoolfc.com/:: ภาพที่ 1 , twitter.com/lfc :: ภาพที่ 2 เครดิตภาพประกอบ liverpoolfc.com/:: ภาพที่ 1 , twitter.com/lfc :: ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 7 , ภาพที่ 8 , ภาพที่ 9, ภาพที่ 10 , ภาพที่ 11 , ภาพที่ 12 , ภาพที่ 13 , ภาพที่ 14 , ภาพที่ 15 , ภาพที่ 16 , ภาพที่ 17 Communityคอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก