ในช่วงเดือนกรกฏาคม ปี 2564 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัว เจดอน ซานโช่ นักเตะดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ ด้วยค่าตัวราว 73 ล้านปอนด์ ปิดตำนานมหากาฬที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน สร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก เนื่องจากตอนนั้น เจดอน ซานโช่ คือนักเตะเนื้อหอมเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงคนนึงของโลกฟุตบอล มีสถิติการลงเล่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทั้งหมด 104 เกม ยิงได้ 50 ประตู กับอีก 64 แอสซิสต์ ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับนักเตะในวัยเพียงแค่ 21 ปี ส่วนผลงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าน่าผิดหวังหลายอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ถึงตอนนี้ก็ผ่านมา 2 ฤดูกาลแล้ว ต้องยอมรับว่าเรายังไม่ได้เห็นฟอร์มที่ดีที่สุดของเจ้าตัวเลย และก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับผลงานตอนค้าแข้งกับทีมเสืองเหลือง ปัจจุบัน เจดอน ซานโช่ ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 55 เกม ยิงได้ 9 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ ฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นนี้จึงเกิดเครื่องหมายคำถามตัวโตๆว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรจะทำอย่างไรกับอนาคตของ เจดอน ซานโช่ วันนี้ NPK Football Style จึงชวนมาวิเคราะห์ถึง 3 ทางออกสำคัญ ทีอาจช่วยให้เจ้าตัวเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้1. ย้ายทีม > ยังพอได้ค่าตัวคืนบ้างทางเลือกนี้ดูจะมีโอกาสเป็นไปได้น้อยที่สุด นอกเสียจากกว่าทีมปีศาจแดงจะได้แนวรุกคนใหม่เข้ามา เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้แม้ว่า เจดอน ซานโช่ จะไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกของทีม แต่การมีไว้บนม้านั่งสำรองก็ยังอุ่นใจกว่าหลายๆคน แต่ถ้ามองอีกมุมในเชิงธุรกิจ เจดอน ซานโช่ ยังไม่ได้สร้างความคุ้มค่ากับเม็ดเงินจำนวน 70 กว่าล้านปอนด์ที่จ่ายไปเลย ดังนั้นถ้าฟอร์มแบบนี้ก็มีแต่ค่าตัวจะลดลงไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหากตัดสินใจปล่อยตัวในตอนนี้ ด้วยโปรไฟล์ผลงานที่ดีในอดีต เชื่อว่าแมนยูอาจจะได้ทุนคืนมาซัก 45-50 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว2. ยืมตัว > เปลี่ยนบรรยากาศ ลดความกดดันจนถึงตอนนี้เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนก็ยังเสียดายไม่อยากให้ทีมปล่อยตัว เจดอน ซานโช่ ออกไป ฉะนั้นการปล่อยให้ทีมเยือนตัวจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ปัจจุบันซานโช่พึ่งจะมีอายุ 23 ปี อนาคตบนเส้นทางลูกหนังยังอีกไกล แม้ว่าเจ้าตัวจะเป็นคนอังกฤษแต่ก็ไปเติบโตสร้างชื่อกับสโมสรเยอรมัน การย้ายมาอยู่กับปีศาจแดงด้วยค่าตัวมหาศาล อาจเป็นความกดดันที่มากเกินไปหน่อย ซึ่งเราก็เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวมีความเครียดสะสม เล่นแบบไม่เป็นตัวของตัวเอง ดั้งนั้นการปล่อยยืมให้กับสโมสรที่มีความกดดันน้อยลง ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ น่าจะช่วยให้เรียกจังหวะเดิมๆของตัวเองกลับมาได้ แต่ปัญหาคือ แมนยู น่าจะต้องช่วยจ่ายค่าเหนื่อยของเจ้าตัวด้วย ถึงจะมีทีมกล้ายืมตัวไปใช้งาน 3. สู้กันต่อ > แนวโน้มกำลังดีขึ้นส่วนหนึ่งของปัญหาต้องยอมรับว่า เจดอน ซานโช่ ย้ายเข้ามาในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเท่าไรนัก แต่ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง ฤดูกาลแรกของ เจดอน ซานโช่ ภายใต้การคุมทีมของ เอริก เทนฮาก ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ช่วงแรกถูกส่งไปติวเข้มรวมทั้งปรับในเรื่องสภาพจิตใจ กลับมาก็ดูมีความมุ่งมั่นตั้งใจเล่นมากขึ้นชัดเจน จบฤดูกาลด้วยการยิงไป 7 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ ภาพรวมดูดีกว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ไม่แน่ว่าถ้าขุมกำลังของทีมพร้อมมากขึ้น บวกกับประสบการณ์จากสองฤดูกาลที่ผ่านมา ฝีเท้าลีลาการเล่นของ เจดอน ซานโช่ คนเดิมในบุนเดสลีก้า ก็อาจจะกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งบนเวทีพรีเมียร์ลีกจากทางออกทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมา เมื่อลองพิจารณาจากสถานการณ์ของทีมในตอนนี้แล้ว เจดอน ซานโช่ ควรอยู่กับทีมต่อไปอย่างน้อยอีกหนึ่งฤดูกาล เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถเป็นตัวหลักให้ทีมได้ แต่บ่อยครั้งก็เป็นตัวเปลี่ยนเกมชั้นดีคนนึง ซึ่งถ้าแมนยูจะหานักเตะใหม่เข้ามาแทนในตลาดรอบนี้ ก็เป็นเรื่องที่ยากเย็น และทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณมากเกินไป ไหนๆก็ไหนๆแล้วลองมาสู้กันดูอีกซั้งตั้ง ...... เจดอน ซานโช่ ถ้าหากเพื่อนๆชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueid : NPK Footballstyleเพจ Facebook : NPK Footballstyleเครดิตภาพภาพปก ManUnitedภาพ1 ManUnitedภาพ2 ManUnitedภาพ3 ManUnitedภาพ4 ManUnitedภาพ5 ManUnited