เป็นปีที่มาแรงแซงทางโค้งจริงๆสำหรับเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ปีนี้สามารถทำได้สำเร็จหลังจากที่ต้องล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้ง ตั้งแต่ที่มีโอกาสเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเมื่อฤดูกาล 2020/2021 ที่เป็นปีที่ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์สมัยแรกให้กับสโมสร และล้างอาถรรพ์ที่เป๊ปกำลังเผชิญอยู่หลังจากตัดสินใจแยกทางกับบาร์เซโลน่าในปี 2012 จนเป็นเวลาถึง 11 ปี ที่เป๊ป สามารถลบคำครหาและอาถรรพ์ได้สำเร็จ ด้วยการคว้าแชมป์ UCL สมัยแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นประวัติศาสตร์สโมสร และเป๊ปยังคว้าแชมป์ UCL สมัยที่ 3 ในฐานะผู้จัดการทีมได้สำเร็จแมนซิตี้กลายเป็นทีมที่ 6 จากอังกฤษที่คว้าแชมป์ UCL ได้ และทีมชุดนี้กลายเป็นชุดประวัติศาสตร์ของสโมสรที่สามารถคว้าแชมป์ UCL เพราะนี่คือถ้วยเดียวที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในยุคของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ยังไม่เคยได้สักที หลังจากที่เป๊ปสามารถสรรสร้างแชมป์ให้กับแมนซิตี้หลายถ้วยแล้วก็ตาม รวมไปถึงบอร์ดบริหารและกลุ่มทุนที่เป็นผู้บริหารสโมสรก็หมายมั่นอย่างมากว่า จะต้องมีแชมป์ UCL มาครองหากมองตามความเป็นจริง ฤดูกาลนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่เสียแรงสำหรับแมนซิตี้และเป๊ปด้วยซ้ำ เพราะนักเตะหลายๆคนในชุดนี้ก็มาจากชุดเก่าๆของเป๊ปที่ปลุกปั้นนักเตะหลายๆคนมานาน รวมไปการใส่ความกระหายในชัยชนะและการไล่ล่าแชมป์ที่ฝังลึกเป็น DNA อยู่ในนักเตะหลายๆคน ไม่เว้นแม้แต่นักเตะหน้าใหม่ที่เพิ่งมาร่วมทีมในปีที่ผ่านมา เช่น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ คาลวิน ฟิลลิปส์ มานูเอล อาคันชี่ โดยเฉพาะฮาแลนด์ที่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทุกปอนด์ที่เสียไป ด้วยสถิติการยิงในพรีเมียร์ที่ระเบิดเถิดเทิงจนได้เป็นดาวซัลโวประจำลีกในปีนี้ รวมไปถึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้แมนซิตี้คว้า 3 แชมป์ได้สำเร็จในปีนี้นี่คือชิ้นส่วนที่ขาดหายไปมานานของเป๊ป หลังจากที่ทีมเสียเซอร์กิโอ กุน อเกวโร่ไป ทำให้เป๊ปต้องพยายามตามหานักเตะที่จะมาแทนในตำแหน่งของอเกวโร่ เช่น กาเบรียล เฆซุส หรือราฮีม สเตอร์ลิ่ง รวมไปถึงการเปลี่ยนระบบการเล่นของทีมเป็นระบบ Fales 9 แต่สุดท้ายก็ยังไม่ตอบโจทย์ปัญหาที่เป๊ปกำลังแก้ไขอยู่ และฮาแลนด์ก็คือคำตอบที่ลงตัวที่สุดของแมนซิตี้ ด้วยอายุที่ยังน้อยและแต้มต่อในการเสริมทัพเพิ่มของแมนซิตี้ในตอนนี้ ก็ยิ่งจะทำให้แมนซิตี้นั้นแข็งแกร่งไร้ทีมไหนต้านทานได้อย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ว่า เป๊ป จะหมดความท้าทายกับพรีเมียร์ลีกหรือไม่ในเร็ววันนี้ส่วนสำคัญที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ก็คือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือหนาหูมากว่า ถ้าหากแมนซิตี้ถูกตัดแต้มหรือแบนห้ามเล่นในเกมยุโรป เขาอาจจะพิจารณาลาออกจากผู้จัดการทีมและไปหาสโมสรอื่นคุมทีมแทน แต่สุดท้ายเป๊ปก็ยังคงตัดสินใจที่จะอยู่ต่อและบอร์ดบริหารก็ยังสนับสนุนให้เขาคุมทีมต่อ แม้จะเกิดเรื่องราวคดีความ แต่เป๊ปก็เข้าใจดีและปล่อยให้สโมสรดำเนินการสู้คดีไป ส่วนเขาก็จะทำหน้าที่ดูแลในส่วนของทีมฟุตบอลต่อไป ความกล้าเปลี่ยนรูปแบบการเล่นของทีมในบางเกม มันสมองที่อัจฉริยะในเรื่องของแทคติก แผนการเล่น การจับใช้นักเตะเพื่อทดสอบฝีเท้าในตำแหน่งที่แตกต่างกันออกไป ทำให้แมนซิตี้นั้น แข็งแกร่งไปทุกๆตำแหน่ง เพราะบางตำแหน่ง สามารถนำนักเตะมาใช้งานได้หลายคนเพื่อทดแทนในบางครั้งที่นักเตะตัวหลักมีอาการบาดเจ็บหรือไม่ฟิต เช่นการดัน จอห์น สโตนส์ มาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ การขยับนาธาน อาเก้ไปเล่นเป็นแบ็คซ้าย การดันผู้เล่นดาวรุ่งหรืออายุน้อยบางคนมาลุยในเกมใหญ่ๆ เพื่อให้พวกเขาเคยชินกับบรรยากาศที่กดดัน ความสำเร็จที่เป๊ปได้มาวันนี้ก็มาจากประสบการณ์อันมากมายในฐานะทั้งนักเตะและผู้จัดการทีม ที่เขาสามารถสร้างทีมให้แข็งแกร่งได้ขนาดนี้เว้นเสียแต่ว่า ฤดูกาลหน้าก็จะเป็นความท้าทายของแมนเชสเตอร์ ซิตี้เช่นกัน เพราะหลายๆทีมในยุโรปก็เริ่มกลับมาแข็งแกร่งมากขึ้นหลายๆทีม ซึ่งเป๊ปและลูกทีมจะต้องเจอกับความกดดัน ความคาดหวัง รวมไปถึงการเป็นผู้ถูกล่าอีกครั้ง แบบที่ฤดูกาลนี้เคยต้องเป็นผู้ถูกล่าตำแหน่งจ่าฝูงลีกจากอาร์เซนอล ขอแสดงความยินดีกับแฟนคลับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วยนะครับ!!!!ขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Facebook Manchester Cityภาพที่ 2 จาก Facebook Manchester Cityภาพที่ 3 จาก Facebook Manchester Cityภาพที่ 4 จาก Facebook Manchester Cityภาพปกบทความ จาก Facebook Manchester CityCommunity ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์