เท่าที่จำความได้ สมัยแข่งฟุตบอลระดับโรงเรียน ครูให้ทำหน้าที่เป็นแบ๊คซ้าย ทำหน้าที่รับ เติมและส่งต่อลูกฟุตบอลให้กองหน้าหรือกองกลางยิงประตู ตอนนั้นใส่เสื้อเบอร์ 7 อันที่จริงไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าต้องใส่เสื้อเบอร์ไหน ขอให้ได้เล่นฟุตบอลเป็นอันใช้ได้ เพราะนักเรียนมี 500 กว่าคน การได้เป็น 1 ในสมาชิกของทีมฟุตบอลโรงเรียนมันก็เทห์สุด ๆ แล้วหล่ะ ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้เล่นฟุตบอล เน้นอ่านข่าวกีฬา ดูถ่ายทอดสดบ้างในรายการใหญ่ ๆ และไปเชียร์ที่สนามบ้างถ้ามีเวลา เสื้อกีฬานี่มีเยอะ คงไม่ต้องเดานะครับว่าเสื้อผมเบอร์อะไร แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เบอร์ 10 เพราะหายากจริง ๆ ผมใส่แต่เบอร์ 7 น่าจะเป็นเพราะประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ร่วมเล่นทีมฟุตบอลระดับโรงเรียนครั้งกระโน้น ทีนี้ผมว่าหลายคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยลงลึกเรื่องกีฬาฟุตบอลเท่าไหร่ คงจะสงสัยกันอยู่ว่า ทำไมใคร ๆ ถึงพูดถึงแต่เสื้อเบอร์ 10 หรือนักฟุตบอลที่ได้ใส่เสื้อเบอร์ 10 ผมจะยังไม่ฟันธงเรื่องนี้ซะทีเดียว แต่อยากให้ผู้อ่านลองคิดตามที่ผมจะเขียนและตัดสินดูเองนะครับว่ามันยังไงกันแน่ ในตำนานของวงการฟุตบอล พอพูดถึงเบอร์ 10 ภาพเดียวกันที่ทุกคนเห็นคือ ดำมหัศจรรย์ คุณลุงเปเล่ อาจจะเป็นเพราะด้วยจังหวะบอลโลกที่มีการถ่ายทอดแพร่หลายรวมถึงข่าวสารต่าง ๆ ไปทั่วโลก จึงดันให้คุณลุงเปเล่ กลายเป็นบุคคลที่ทำให้เสื้อหมายเลขธรรมดาทั่วไปกลับโดดเด่นขึ้นมาและยังทำให้คุณค่าของคนที่สวมเสื้อเบอร์ 10 เกิดมุมมองแบบเดียวกันนี้ก็ได้ ถัดวัยขึ้นมาอีกหน่อยก็คุณน้าหัตถ์เทวดา ดิเอโก้ มาราโดน่านี่และครับ ที่ใส่เสื้อเบอร์ 10 มาตลอดการเล่นฟุตบอล ตอนอายุ 18 ก็ได้สวมเบอร์ 10 เล่นบอลโลกปี 1978 และใส่เบอร์นั้นมาตลอด ส่วนในโลกของการ์ตูนก็ต้อง กัปตันซิบาสะ ใช่ไหมละครับ เป็นหนังสือการ์ตูนที่ดังมาก ๆ ใครที่ชอบฟุตบอลแต่ไม่เคยอ่านการ์ตูนเรื่องนี้น่าจะเหมือนได้กินแต่ข้าวไม่ได้กินกับนั่นแหละ ในแง่ของโค๊ชหรือผู้จัดการทีม เวลาจะลงแข่งก็ต้องวางแผนว่าใครจะอยู่ตำแหน่งไหน ซึ่งก็เปลี่ยนได้ตลอดขึ้นอยู่กับว่าแข่งกับทีมไหนหรือสถานการณ์ตอนแข่งเป็นอย่างไร หากลองนับตัวเลข จากตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็นเบอร์ 1 แล้วไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ เบอร์ 10 ก็มักจะอยู่แถวตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์หรือตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าคุมแนวรุกอยู่แล้ว ตามแผนการเล่นในแบบก่อนก็มักจะเป็นตำแหน่งของนักเตะดัง ๆ หรือ เก่ง ๆ ของทีม อย่างเช่น เปเล่ มาราโดน่า บักโจ้ มัทธีอุส ซิโก้ ฟานเชสโคลี่ ฮาจี้ ฯลฯ มาดูกันต่อครับว่า นักเตะที่ลงสนาม เขาจะมีหมายเลข 1-11 ซึ่งตำแหน่ง(ส่วนใหญ่)มักจะลงตัวอย่างนี้ คือ ผู้รักษาประตู – 1/แบ๊กขวา – 2/แบ๊กซ้าย- 3/เซ็นเตอร์คู่ - 4,5/มิดฟิลด์ตัวรับ – 6/ปีกขวา - 7 (เบคแฮม, เบสต์)/ปีกซ้าย - 11 (กิ๊กซ์)/มิดฟิลด์ตัวรุก - 8 (แกสตอยน์)/หน้าต่ำ - 10 (เปเล่, บั๊กโจ้, เชอริ่งแฮม, มุ้ย)/หน้าเป้า - 9 (บาติโกล์, ปิยะพงษ์, ฮิวงะ, เชียร์เรอ) นี่เป็นตำแหน่งนักเตะดัง ๆ ในเรื่องเล่นบอลคลาสสิค คือ ส่งบอลให้เพื่อนยิงก็ได้หรือยิงเองก็ได้ มักไปตรงกับตำแหน่งเบอร์ 10 พอดี ดูแล้วก็หลายคนอยู่นะ แต่ก็ไม่ใช่ซะทั้งหมดนะครับ เพราะอิตาลีก็ไม่ได้วางเบอร์กับควบกับตำแหน่งกันแบบนี้ บางทีก็แอบคิดไม่ได้เหมือนกันนะครับว่า เสื้อเบอร์ 10 อาจถูกล๊อคไว้ให้นักเตะเก่ง ๆ เท่านั้นหรือเปล่า ประมาณว่าเวลาเลือกก็ให้คนเก่งเลือกก่อน ดูได้จากในทีมที่นักเตะใหม่หรือเด็กปั้นของทีมจะได้ใส่เบอร์ 10 นั้นยากมาก ส่วนนักเตะที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ถ้าไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์หรือย้ายทีมมาแบบค่าตัวโคตรแพงก็ยาก อย่าง รูนี่ย์ ที่ใส่เบอร์ 8, โอซิล ใส่เบอร์11, ร็อบเบน ใส่เบอร์11, แมสซี่ ใส่เบอร์ 19 พวกเขาเป็นซุปเปอร์สตาร์และค่าตัวแพง พอย้ายทีมก็ได้ใส่เสื้อเบอร์ 10 กันทุกคน หรือบางทีอาจเป็นเพราะค่านิยมชมชอบที่แฟนบอลหรือนักเตะคิดเอาเองว่า หากได้ทำตามนักเตะเก่ง ๆ ดัง ๆ ที่ตัวเองชื่นชมแล้ว ทำให้รู้สึกดี ภาคภูมิใจและเกิดความเชื่อมั่นในตัวเอง หรือว่าเบอร์ 10 นั้นถ้าดูความหมายในเชิงสัญลักษณ์แล้ว เลข 1 หมายถึง ความสามารถทักษะอันดับหนึ่ง ส่วนเลข 0 หมายถึง ความเป็นศูนย์กลางหรือหัวใจของทีม แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ว่าไปแล้ว เสื้อเบอร์ 10 อาจจะเป็นเบอร์สำคัญตรงที่นักฟุตบอลเก่ง ๆ ชอบใส่ หรือเพราะเป็นเบอร์ประจำตำแหน่งนักฟุตบอลที่ไปทำหน้าที่จุดนั้นๆ หรือจะเป็นเบอร์สำคัญในเชิงปรัชญา ฮวงจุ้ยอะไรก็ตาม แต่สิ่งที่มากกว่าการเป็นเบอร์ 10 คือ เราได้เห็นความสามารถ ทักษะ ความมีวินัยและนิสัยการแสดงออกของนักเตะที่สวมเสื้อเบอร์นั้น สำหรับผมแล้ว คุณค่าของหมายเลขเสื้อมาจากคุณค่าของคนที่สวมใส่ คนเก่งดีมีความสามารถใส่เสื้อเบอร์ไหน เบอร์นั้นก็เก่งไปด้วย และหากได้ใส่เสื้อเบอร์เก่งก็ยิ่งเก่งขึ้นไปอีก นี่แหละพลังของเบอร์ 10 เขาหล่ะ แล้วคุณล่ะคิดยังไงครับ ขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก Pixabay.com