รีเซต
พรีวิว เอฟเอคัพ รอบ 4 : "ศึกแดงเดือด" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS ลิเวอร์พูล พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด

พรีวิว เอฟเอคัพ รอบ 4 : "ศึกแดงเดือด" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS ลิเวอร์พูล พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด

พรีวิว เอฟเอคัพ รอบ 4 : "ศึกแดงเดือด" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS ลิเวอร์พูล พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด
EkkEReport
24 มกราคม 2564 ( 15:30 )
17.1K
5

รายการ : เอฟเอ คัพ 2020/21 รอบ 4

วัน/เวลาแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2564 เวลา 00:00 น.

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ถ่ายทอดสด : beIN Sports 2

สภาพความพร้อม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก มี 40 แต้ม จาก 19 นัด กำลังโชว์ฟอร์มในลีกได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดย 13 นัดหลังสุด ชนะ 10 เสมอ 3 ไม่แพ้ใคร สำหรับเกมล่าสุด พวกเขาบุกไปเฉือนชนะ ฟูแล่ม 2-1 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ส่วนผลงานในศึก เอฟเอ คัพ ผีแดงผ่านเข้ารอบ 4 มาได้ หลังเปิดบ้านเฉือนชนะ วัตฟอร์ด 1-0 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่มีแข้งตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม นอกจากนักเตะที่บาดเจ็บยาวอยู่ก่อนแล้วอย่าง ฟิล โจนส์, มาร์กอส โรโฮ และ แบรนดอน วิลเลียมส์ ทำให้นายใหญ่ชาวนอร์วีเจี้ยน มีขุมกำลังที่พร้อมสมบูรณ์เต็มที่

โดยคาดว่าเกมนี้ โซลชา จะเลือกหมุนเวียนนักเตะ เตรียมส่งผู้เล่นชุดผสม โดยจะเปิดโอกาสให้กับแข้งสำรองอย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน, อเล็กซ์ เตลลิส และ เนมานย่า มาติช ได้ลงสนาม พร้อมกับแกนหลัก ที่นำโดย ปอล ป็อกบา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เอดินสัน คาวานี่

สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล

ส่วนผู้มาเยือนอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 4 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก มี 34 แต้ม จาก 19 นัด ผลงานในช่วงหลังกำลังย่ำแย่สุดขีด เมื่อไม่ชนะใครในลีกมาถึง 5 เกมติดต่อกัน รวมทั้งยังยิงประตูไม่ได้ใน 4 นัดหลังอีกด้วย โดยแม้ว่าสุดสัปดาห์ก่อน จะเปิดบ้านเจ๊ากับ แมนยู ในเกมลีกไป 0-0 ทว่าล่าสุด เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พวกเขากลับพ่ายคาบ้านให้กับ เบิร์นลีย์ 0-1 ทำให้ต้องหยุดสถิติไร้พ่ายในแอนฟิลด์ในเกมลีกเอาไว้ที่ 68 นัด

ขณะที่ผลงานในศึกถ้วยนี้ หงส์แดง บุกเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 4-1 ในเกมรอบ 3 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงหมดสิทธิ์ แข้งตัวหลักที่ยังบาดเจ็บอยู่ ทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, ดิโอโก้ โชต้า และ นาบี เกอิต้า ส่วนแข้งที่เหลือต่างฟิตพร้อมลงสนาม ซึ่งเชื่อว่าเกมนี้ เฮดโค้ชชาวเยอรมัน น่าจะทำการหมุนเวียนนักเตะหลายตำแหน่ง โดยแข้งที่ไม่ได้เป็นตัวจริงในเกมลีกนัดก่อน จะได้ออกสตาร์ทบ้าง ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ทาคุมิ มินามิโนะ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดีน เฮนเดอร์สัน (GK), อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อเล็กซ์ เตลลิส, เนมานย่า มาติช, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, ปอล ป็อกบา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เอดินสัน คาวานี่

ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์ (GK), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ทาคุมิ มินามิโนะ

บทวิเคราะห์

ศึกแดงเดือด รอบ 2 เตรียมกลับมาฟาดแข้งอีกครั้ง ในระยะเวลาที่ห่างจากครั้งก่อน เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น แต่คราวนี้เป็นการดวลกันในศึกฟุตบอลถ้วยอย่าง เอฟเอ คัพ และจะเป็น แมนยู ที่ได้เป็นฝ่ายเปิดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล บ้าง หลังจากเมื่ออาทิตย์ก่อน สงครามสีแดงในศึกพรีเมียร์ลีก ที่สนามแอนฟิลด์ ทั้งสองทีมต่างทำอะไรกันไม่ได้ ทำให้เกมจบลงด้วยผลเสมอ แบบไม่มีสกอร์

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีประตูเกิดขึ้นในเกมที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับว่า มันเป็นศึกศักดิ์ศรีที่ทั้งสองทีม ต่างสู้กันได้อย่างสนุก และมีโอกาสเป็นผู้ชนะด้วยกันทั้งคู่ แม้ หงส์แดง จะเป็นฝ่ายที่ได้ครองบอลบุกมากกว่า ทว่าสุดท้ายกลับกลายเป็น ปีศาจแดง ที่เป็นฝ่ายได้ลุ้นจากโอกาสที่จะแจ้งกว่าในช่วงท้ายเกม

ทว่า รูปเกมของศึกแดงเดือดในคราวนี้ อาจจะแตกต่างออกไป เมื่อ ผีแดง จะได้เป็นเจ้าบ้านบ้าง รวมไปถึง ทั้ง 2 ทีม น่าจะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนผู้เล่น และที่สำคัญคือ แผนการและวิธีการเล่นในฟุตบอลถ้วย จะแตกต่างจากในเกมลีกอยู่พอสมควร เพราะคราวนี้ ไม่มีทางทีเกมจะจบลงด้วยผลเสมออีกแล้ว สุดท้ายจะต้องมีทีมที่สมหวัง และมีทีมที่ผิดหวังอย่างแน่นอน

โดยหากเทียบฟอร์มล่าสุด คงต้องเอนเอียงไปทางฝั่งเจ้าถิ่น ที่ดูดีกว่าในเวลานี้ แต่ขึ้นชื่อว่า แดงเดือด ย่อมไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว หงส์แดงเอง ก็คงมุ่งมั่นเต็มที่ ที่จะบุกไปจัดการทีมคู่อริให้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี เชื่อว่าเกมนี้ เจ้าถิ่นไม่น่าจะเน้นรับมากเท่ากับเกมก่อน และมีโอกาสที่จะกล้าเปิดเกมแลกมากขึ้น แต่ความเป็นไปได้ที่เกมใน 90 นาที จะจบลงด้วยผลเสมอ ก็ยังคงมีสูงอยู่ ทว่าสุดท้ายแล้ว คาดว่าน่าจะเป็น ปีศาจแดง ที่มีความมั่นใจมากกว่า จะเฉือนชนะในศึกหนนี้ และผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาปกติ หรือในช่วงต่อเวลาพิเศษก็ตาม

สกอร์ที่คาด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ลิเวอร์พูล

 

"เอกกี้รีพอร์ต"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> แชมป์เก่าร่วง! 'กาเบรียล'OG. นักบุญ เปิดบ้านเฉือน อาร์เซน่อล 1-0 ลิ่วรอบ 5 เอฟเอคัพ

>> โปรแกรมฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4 วันที่ 22-25 ม.ค. พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด

 

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

เก็งไม่มีพลาด! ฟันธงคู่ไหนเด็ด! เจาะลึกก่อนเกมพรีเมียร์ลีก สมัครทาง SMS พิมพ์ R1 ส่งมาที่ 4238066 หรือคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ ใช้ฟรี 7 วัน!!!!

ยอดนิยมในตอนนี้