วิเคราะห์ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย VS ทีมชาติอิรัก วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568 เวลา 20.00 น. สนาม : สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) , จังหวัดกาญจนบุรี ถ่ายทอดสด : True Ball Thai 1 ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ (King's Cup 2024) ครั้งที่ 51 เป็นคือรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานของพระมหากษัตริย์ไทยโดยจัดขึ้นที่ประเทศไทย เริ่มจัดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2511 ในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 51 ในช่วงฟีฟ่า เดย์ ระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน พ.ศ. 2568 ที่ สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) , จังหวัดกาญจนบุรี โดยประกอบไปด้วย 4 ทีม ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบไปด้วย ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 102 ของโลก (เจ้าภาพ) , ทีมชาติอิรัก ทีมอันดับ 58 ของโลก , ทีมชาติฮ่องกง ทีมอันดับ 147 ของโลก และ ทีมชาติฟิจิ ทีมอันดับ 150 ของโลก โดยทีมชาติไทยได้แชมป์นี้ครั้งสุดเมื่อปีก่อน ที่จังหวัดสงขลา โดยสามารถเอาชนะ ซีเรีย ในรอบชิงชนะเลิศ ไปได้ 2 - 1 เกมนี้เป็นการพบกันระหว่างเจ้าภาพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย และ ทีมชาติอิรัก ที่สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) , จังหวัดกาญจนบุรี ทางฝั่งทีมชาติไทย นำมาโดย มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชคนชาวญี่ปุ่น ที่ทัวร์นาเม้นท์นี้มีการเลือกนักเตะแกนหลักผสมผสานกับผู้เล่นหน้าใหม่ โดยยังคงมีผู้เล่นหลายรายที่หลุดทีมชุดนี้ไปแบบค้านสายตาแฟนบอล เช่น ธีราธร บุญมาทัน, ชาญณรงค์ พรหมศรีแก้ว และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ที่ฟอร์มดีในลีก ส่วนทีมชาติอิรัก อดีตแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 เมื่อปี 2023 ก็นำมาโดยคนคุ้นเคยอย่าง เรบิน ซูลากา กองหลังจาก การท่าเรือ เอฟซี , ฟราน ปูโตส อดีตกองหลังของ การท่าเรือ เอฟซี รวมไปถึงศูนย์หน้าตัวเก่งอย่าง ไอมาน ฮุสเซน ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีม ไทย ชนะ : ไทย 3 - 0 ฟิจิ (คิงส์คัพ) แพ้ : เติร์กเมนิสถาน 3 - 1 ไทย (เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก) ชนะ : ไทย 2 - 0 อินเดีย (อุ่นเครื่อง) ชนะ : ไทย 1 - 0 ศรีลังกา (เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก) ชนะ : ไทย 2 - 0 อัฟกานิสถาน (อุ่นเครื่อง) อิรัก ชนะ : อิรัก 2 - 1 ฮ่องกง (คิงส์คัพ) ชนะ : จอร์แดน 0 - 1 อิรัก (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) แพ้ : อิรัก 0 - 2 เกาหลีใต้ (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) แพ้ : ปาเลสไตน์ 2 - 1 อิรัก (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) เสมอ : อิรัก 2 - 2 คูเวต (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) การพบกันของ 2 ทีม 2023 : ไทย 2 - 2 อิรัก (อิรักชนะจุดโทษ,คิงส์คัพ) 2017 : ไทย 1 - 2 อิรัก (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) 2016 : อิรัก 4 - 0 ไทย (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) 2016 : อิรัก 2 - 2 ไทย (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) 2015 : ไทย 2 - 2 อิรัก (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) ความพร้อมก่อนเกม ทีมชาติไทย ทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ พร้อมจัดทัพเต็มที่แน่นอน แกนหลักที่เรียกตัวมาในเกมนี้นำทัพมาโดย ชนาธิป สรงกระสินธ์, ศุภชัย ใจเด็ด, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, นิโคลัส มิคเกลสัน, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ รวมทั้ง 2 แข้งจากเจลีก 2 ทั้ง สุภโชค สารชาติ, ปรเมศย์ อาจวิไล ที่พร้อมทั้งหมด เกมนี้ทีมของอิชิอิ ค่อนข้างมีปัญหาในการจบสกอร์ เป็นอย่างมาก แม้จะยิงได้เยอะ แต่โอกาสที่ยิงทิ้งยิงขว้าง เยอะมากกว่า ในเกมนี้น่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเยอะพอสมควร แต่คาดว่าจะยึดโครงระบบ 4 - 2 - 3 - 1 เช่นเคย โดยผู้รักษาประตูเกมนี้จะใช้ ปฏิวัติ คำไหม เซ็นเตอร์แบ็กใช้ ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ ยืนคู่กับ ศฤงคาร พรมสุภะ แบ็กสองข้างมี ศุภนันท์ บุรีรัตน์ แบ็คขวา และ นิโคลัส มิคเกลสัน ยืนซ้าย คู่กลางใช้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล คอยคุมเกม แผงเกมรุกสามคนเป็น เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ กองหน้าตัวเป้าใช้ ศุภชัย ใจเด็ด ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 : ปฏิวัติ คำไหม – ศุภนันท์ บุรีรัตน์, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ, ศฤงคาร พรมสุภะ, นิโคลัส มิคเกลสัน – วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล - เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ - ศุภชัย ใจเด็ด ทีมชาติอิรัก ทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ กุนซือชาวออสเตรเลีย สภาพทีมพร้อมไม่มีปัญหาใดๆในการจัดตัวผู้เล่น ในเกมนี้คาดว่าจะมาในระบบ 3 - 4 - 3 เช่นเคย โดยผู้รักษาประตูเกมนี้จะใช้ จาลาล ฮัสซัน สามกองหลังใช้ เรบิน ซูลากา, มานาฟ ยูนิส, ฟรานส์ ปูโตรส แผงกองกลางใช้ เชอร์โก คารีม, อามีร์ อัล-อัมมารี, อิบราฮิม บาเยช, เมอร์ชัส โดสกี้ และสามแนวรุกเป็น มอนตาเดอร์ มาดเจด, ไอมาน ฮุสเซน, มาร์โก ฟาร์จี้ ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 3 - 4 - 3 : จาลาล ฮัสซัน – เรบิน ซูลากา, มานาฟ ยูนิส, ฟรานส์ ปูโตรส - เชอร์โก คารีม, อามีร์ อัล-อัมมารี, อิบราฮิม บาเยช, เมอร์ชัส โดสกี้ – มอนตาเดอร์ มาดเจด, ไอมาน ฮุสเซน, มาร์โก ฟาร์จี้ วิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเกม เกมนี้ เป็นพบกันครั้งแรกของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย และ ทีมชาติอิรัก โดยผลงานช่วงหลัง 5 นัด ทีมชาติไทย เอาชนะ 4 นัด แพ้ 1 นัด ในขณะที่ ทีมชาติอิรัก ชนะ 2 นัด เสมอ 1 และแพ้ 2 นัด ในขณะที่ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม อิรัก ชนะ 2 ครั้ง อีก 3 ครั้ง เสมอกัน ในครั้งล่าสุดที่เจอกันคือ คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 เมื่อปี 2023 จบในเกมด้วยผลเสมอ และ อิรักสามารถชนะในการดวลจุดโทษไปได้ ทั้งสองทีมนี้ มีอันดับโลกห่างกัน 44 ตำแหน่ง ซึ่งแน่นอนว่าทีมชาติไทยเป็นรองพอสมควร ในเกมแรก ทีมชาติไทย มีปัญหาเรื่องการจบสกอร์หนักมาก มีโอกาสจบสกอร์เยอะมากแต่จบไม่ได้ เกมนี้ต้องมีการปรับปรุงแบบด่วนๆ ขณะที่ ทีมชาติอิรัก ที่เจอความเหนียวแน่นของ ฮ่องกง ก็กว่าจะปลดล็อคได้ก็ยากเอาเรื่องเช่นกัน เกมนี้คงจะเริ่มต้นด้วยความระวังตัวกันทั้งคู่ อาจจะอึดอัดสักพัก ใครพลาดก่อนลำบากทันที ทางฝั่ง ทีมชาติไทยต้องอาศัยเกมรุกที่รวดเร็ว และความเป็นทีมทำเกมรุกเข้าใส่ อิรัก แต่ก็ต้องระวัง ความสูงใหญ่ ความสามารถเฉพาะตัว และการสวนที่รวดเร็วของอิรักเช่นกัน เชื่อว่าด้วยแรงใจแรงเชียร์ เสียงเชียร์ในสนามจะเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ทีมชาติไทยสามารถเก็บชัยในเกมนี้ได้สำเร็จ ผลการแข่งขันที่คาด ทีมชาติไทย 2 - 1 ทีมชาติอิรัก BY SILVER_SHARK ภาพปกที่ 1 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพปกที่ 2 : เพจ Iraq National Team ภาพปกที่ 3 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพปกที่ 4 : เพจ Iraq National Team ภาพปกที่ 5 : เพจ Logo การแข่งขัน ภาพปกที่ 6 : ธงชาติไทย ภาพปกที่ 7 : ธงชาติอิรัก ภาพปกที่ 8 : Background ภาพประกอบที่ 1 : เพจ TrueVisions ภาพประกอบที่ 2 : เพจ Iraq National Team ภาพประกอบที่ 3 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพประกอบที่ 4 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพประกอบที่ 5 : เพจ Iraq National Team ภาพประกอบที่ 6 : เพจ Iraq National Team ภาพประกอบที่ 7 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพประกอบที่ 8 : เพจ TrueVisions ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !